- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 July 2019 16:32
- Hits: 2116
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Range Trading
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบโดยปิดทรงตัว ณ สิ้นวัน โดยมูลค่าการซื้อเบาบางลงเนื่องจากนักลงทุนจับตาดูหลายปัจจัยสำคัญในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า สถานะของนักลงทุนรายกลุ่มไม่มีนัยยะนักทั้งตลาดหุ้นและ Futures
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideway ต่อเนื่องโดยยังรอติดตามการประกาศผลประกอบการ 2Q19 ของบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector รวมถึงการประชุม FED สิ้นเดือนนี้ ขณะที่วันนี้ต้องจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อหน้าสภาฯซึ่งคาดว่าจะทำให้หุ้นกลุ่ม Domestic Play มีแรงเก็งกำไรเข้ามารวมถึงการประชุม ECB ที่คาดว่ามีโอกาสเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนสัปดาห์หน้าสหรัฐฯ-จีนจะกลับมาเดินหน้าเจรจาการค้ากันอีกครั้ง เรายังเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวและรอจังหวะอ่อนตัวของตลาดในการเข้าสะสมหุ้นรอบใหม่ เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET บริเวณ 1,715-1,750 จุดในระยะนี้
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวโดยเฉพาะที่คาดกำไร 2Q19 แข็งแกร่ง//เก็งกำไรในกรอบ 1,715-1,750 จุด
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : ICHI, KKP, MINT, PTTGC, SEAFCO
หุ้นเด่นวันนี้: SAPPE
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท
- คาดกำไรปกติ 2Q19 ทำจุดสุงสุดในรอบ 9 ไตรมาสที่ 144 ลบ. +36% Q-Q, +13% Y-Y หนุนโดยเครื่องดื่ม B'lue ที่ผลิตเต็มไตรมาสและได้รับการตอบรับดีมาก และรับรู้รายได้จาก All Coco เต็มไตรมาสเช่นกัน ดันรายได้ทำ new high ที่ 923 ลบ. ชดเชยบาทแข็งและต้นทุนมะพร้าวที่สูงตามฤดูกาลได้
- ต้นทุนเม็ดพลาสติกถูกลงหลังจัดซื้อร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้ซื้อรายใหญ่อย่าง Danone เราคาดกำไรปกติปีนี้ 424 ลบ. +23% เป็นอัตราเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี ราคาหุ้น laggard ที่สุดใน 2Q19 และมี PE 16x ถูกสุดในกลุ่ม (เฉลี่ย 30x)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$131ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$87ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$2ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ US$11ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตลาดรอผลการประชุม Fed และติดตามการนัดเจรจาทางการค้าจีนและสหรัฐที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) หน้าร้อน เครื่องดื่มขายดี กำไร 2Q19 สดใส เราคาด +7% Q-Q, +64% Y-Y เป็น 1.61 พันลบ. เพราะตลาดเครื่องดื่มตั้งแต่ต้นปีกลับมาโตแทบทุกกลุ่ม นำโดย Functional Drink ที่โตถึง 30%, Energy Drink +4-5%, Green Tea +4% ยกเว้นตลาดน้ำผลไม้ 100% ที่ -8% บริษัทที่กำไรโตดีทั้ง Q-Q, Y-Y คือ CBG, ICHI, SAPPE, TACC ยกเว้น OSP ที่หยุดไลน์ผลิตแก้ปัญหาคอขวด และ MALEE ยังขาดทุน แต่ราคาหุ้นหลายตัวปรับขึ้นจน PE แพงและเต็มมูลค่า เราแนะนำขาย CBG (PE 42x แพงสุด), MALEE (ขาดทุน) แนะนำรอซื้ออ่อนตัว OSP, ICHI โดยเฉพาะ ICHI ที่เราแนะนำตั้งแต่ 3.82 บ. แต่มีหุ้น 2 ตัวที่ยังไม่แพง แนะนำซื้อคือ TACC (TP 6 บ.) และ SAPPE (TP 25 บ.) มี PE 20x และ 16x ตามลำดับ
(+) TCAP ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 62 บาท กำไร 2H19 มีโมเมนตัมดีต่อ เบื้องต้นเราคาดกำไร 3Q19 +7% Q-Q, +9% Y-Y เป็น 2 พันลบ.จากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อ ดีลควบ TBANK และ TMB อยู่ระหว่าง due diligence คาดจบในปีนี้เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและอื่นๆ นอกจาก TCAP จะมีกำไรจากการขาย TBANK แล้ว เราคาดมีปันผลพิเศษ รวมทั้งอาจซื้อหุ้นคืน และนำไปขยายธุรกิจ
(0) KKP แนะถือรับปันผลที่เราคาดจ่าย 2 บ/หุ้นในครึ่งปีแรก (yield 2.8%) และ 2.50 บ/หุ้นครึ่งปีหลัง (yield ทั้งปี 7%) แต่กำไร 2H19 ฟื้นไม่เต็มที่อย่างที่เราคาด สินเชื่อที่มีแนวโน้มชะลอ ชดเชยไม่ได้จากรายได้ IB และธุรกิจหลักทรัพย์ที่ดีขึ้น ผู้บริหารปรับลดเป้าทางการเงินใหม่ในทิศทางระมัดระวังมากขึ้น เราจึงปรับลดกำไรปีนี้ลง 2% เป็น 5.7 พันลบ. -5% Y-Y คงราคาเป้าหมายที่ 72 บาท
(-) SCC ประกาศงบพรุ่งนี้ เราคาดกำไรสุทธิ 1 หมื่นลบ. -14% Q-Q, -19% Y-Y กำไรปกติ 7.5 พันลบ. -36% Q-Q, -40% Y-Y ต่ำสุดในรอบ 19 ไตรมาสเพราะธุรกิจปิโตรเคมีที่ถูกกระทบจากสงครามการค้าและมี Employee benefit 2 พันลบ. แนวโน้มข้างหน้ายังไม่สดใส แนะนำเพียงถือรับปันผล คาดจ่าย 7 บ/หุ้นในครึ่งปีแรก (yield 1.6%)
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 79.22 จุด ปิดที่ 27,269.97 จุด จากความผิดหวังเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่อย่างโบอิ้ง และแคทเธอร์พิลลาร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย หนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มผลิตชิปและรถยนต์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางการจับตาคำกล่าวของนายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 89 เซนต์ ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้มีปัจจัยบวกจากการรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 แต่ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,423.6 ดอลลาร์/ออนซ์ จากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 822.25/-0.88 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25 ก.ค. - ไทย: รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
26 ก.ค. - สหรัฐ: GDP 2Q19
30 ก.ค. - ไทย: Industrial production (มิ.ย.)
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
31 ก.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- จีน: Manufacturing & Non-Manufacturing PMI (ก.ค.)
- ฮ่องกง: 2Q19 GDP
- ไต้หวัน: 2Q19 GDP
- ยูโรโซน: 2Q19 GDP
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research