- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 July 2019 16:32
- Hits: 3558
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Range Trading
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยระหว่างวันมีแรงขายออกมาและทำให้ดัชนีลบลงราว 10 จุดก่อนที่จะสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาและปิดลบเหลือ 2.71 จุด ณ สิ้นวัน แรงขายส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศราว 1.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1.7 พันลบ. (แต่ Short Index Futures 7.4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideway ต่อเนื่องโดยยังรอติดตามประเด็นสำคัญทั้งผลประกอบการ 2Q19 ของบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector รวมถึงการประชุม FED สิ้นเดือนนี้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยตามคาดหรือไม่ อย่างไรก็ตามตลาดมีประเด็นหนุนโดยกลุ่ม Domestic Play คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาฯในสัปดาห์นี้ ขณะที่สหรัฐฯ-จีนจะกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เรายังเน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวและรอจังหวะอ่อนตัวของตลาดในการเข้าสะสมหุ้นรอบใหม่ เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET บริเวณ 1,715-1,750 จุดในระยะนี้
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวโดยเฉพาะที่คาดกำไร 2Q19 แข็งแกร่ง//เก็งกำไรในกรอบ 1,715-1,750 จุด
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : ICHI, KKP, MINT, PTTGC, SEAFCO
หุ้นเด่นวันนี้: MTC
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 64 บาท
- คาดกำไร 2Q19 สดใส +6% Q-Q, +16% Y-Y เป็น 1.06 พันลบ. จากการฟื้นตัวของรายได้ดอกเบี้ยและการเติบโตของสินเชื่อ
- กำไรปี 2019-20 โตสูงเฉลี่ย 29% ต่อปีจากสินเชื่อที่คาดโต 30% และต้นทุนทางการเงินที่จะลดลงหลังถูกเพิ่มอันดับเครดิตและจะมีหุ้นกู้ re-price ในปีหน้า
- Upside ของกำไรจะมาจากการกลับรายการสำรองฯส่วนเกินที่มีอยู่ราว 600 ลบ. ซึ่งเกินความจำเป็นตาม IFRS 9 ทั้งนี้อยู่ระหว่างหารือกับผู้สอบบัญชี
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$209ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$155ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$56ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$2ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังมีกระแสข่าวว่าสหรัฐและจีนจะมีการจัดการเจรจาทางการค้ากันในสัปดาห์หน้าขณะที่รอคอยผลการประชุม Fed ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับลด 0.25%
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) นักท่องเที่ยว มิ.ย. โตต่ำ +0.9% Y-Y เป็น 3.1 ล้านคน จีน -7% Y-Y และรัสเซีย -5% Y-Y ตลาดที่ช่วยคืออาเซียน อินเดีย สหรัฐ และตะวันออกกลาง นักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก +1.5% Y-Y เป็น 19.8 ล้านคนหรือ 49% ของเป้าทั้งปีที่ 40 ล้านคน (+4.6% Y-Y) กำไรสุทธิ 2Q19 ของ CENTEL และ ERW คาดหดตัวทั้ง Q-Q, Y-Y เราเลือก MINT (ราคาเป้าหมาย 48 บาท) เป็น Top pick เพราะมีโรงแรมตปท.หนุน ส่วน AOT เราคาดกำไร -10% Q-Q เป็น 6.9 พันลบ. คงราคาเป้าหมาย 88 บาท ยังแนะนำซื้อจากโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
(+) MAJOR เราคาดกำไรปกติ 495 ลบ.ใน 2Q19 +180% Q-Q เพราะเป็นหน้าหนังและมี Avengers Endgame ที่ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ 750 ลบ. นอกนั้นมี JohnWick 3, Godzilla2, Aladdin, ที่ทำได้ต่อเรื่อง 100-140 ลบ. แต่คาดกำไรโต 6% Y-Y เพราะ 2Q18 มีหนังทำเงินหลายเรื่อง กำไร 3Q19 จะชะลอ Q-Q ตามฤดูกาลแต่ทั้งปีโตแกร่ง +27% Y-Y เราคาดปันผลครึ่งปีแรก 0.65 บ/หุ้น (Yield 2.2%) ราคาเป้าหมาย 33 บาท แนะนำซื้อ
(+) GFPT เราคาดกำไรสุทธิ 2Q19 ที่ 340 ลบ. +49% Q-Q ตามฤดูส่งออก, +60% Y-Y จากฐานต่ำ แม้ราคาไก่ส่งออกลดลงแต่ชดเชยได้จากราคาในประเทศที่สูงขึ้นและต้นทุนการเลี้ยงอยู่ในระดับต่ำ แนวโน้ม 2H19 สดใสตาม high season และคาดราคาไก่ยังสูงกว่าต้นทุนการเลี้ยง เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 8.5% เป็น 1.5 พันลบ. +22% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 17 บาทจาก 14 บาท แนะเก็งกำไรสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้เพราะราคาไก่มีโอกาสสูงขึ้นถ้าจีนนำเข้าไก่ไทยเพิ่ม ไม่เช่นนั้นจะเข้าสู่ภาวะ oversupply เพราะผู้เลี้ยงเพิ่มการผลิตแทบทุกราย
(+) PTTEP ประกาศงบพรุ่งนี้ กำไรจะเด่นสุดในกลุ่ม เราคาด 1.28 หมื่นลบ. +3% Q-Q, +258% Y-Y จากปริมาณขายและราคาขายเพิ่มขึ้น คุมต้นทุนได้ดี และบาทแข็งจะได้ประโยชน์ทางภาษี การซื้อกิจการต่างๆจะหนุนกำไรในอนาคตทั้ง Murphy Oil (2H19), Partek (2020) โครงการแอลจีเรีย (2021) และสัมปทานใหม่บงกช-เอราวัณ (2022) ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 150 บาท
(+) ตลาดดาวโจนส์ ปรับขึ้น 177.29 จุด ปิดที่ 27,349.19 จุด รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ และรายงานว่าสหรัฐ-จีนจะจัดเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า รวมถึงรัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณรายจ่าย
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หนุนจากความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน รวมถึงรัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณรายจ่าย
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 56.77 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 5.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,421.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 823.13/-2.05 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ก.ค. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
25 ก.ค. - ไทย: รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
26 ก.ค. - สหรัฐ: GDP 2Q19
30 ก.ค. - ไทย: Industrial production (มิ.ย.)
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
31 ก.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- จีน: Manufacturing & Non-Manufacturing PMI (ก.ค.)
- ฮ่องกง: 2Q19 GDP
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research