SET แกว่งไซด์เวย์ทั้งแดนบวกและลบสลับกันในกรอบ 1667-77 ท่ามกลางมูลค่าซื้อขาย 4.73 หมื่นลบ.ลดลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า นลท.รอดูงบแบงก์ที่เริ่มทยอยประกาศออกมา ต่างชาติขายสุทธิหนักขึ้นเป็น 1.08 พันลบ. 3 วันติด และพลิก Short S50 Futures 12,064 สัญญา 

ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกขึ้น Sentiment หุ้นตปท.-น้ำมันดี, แรงซื้อเก็งงบ Q1

 

หุ้นโลกเมื่อวาน (18 เม.ย.) ปิดส่วนใหญ่ปรับขึ้น แม้ช่วงแรกของการซื้อขายปรับตัวลงก่อนจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปแย่กว่าคาดก็ตาม เนื่องจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมทั้งตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ขยายตัว 1.6% ใน มี.ค. ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2017 ช่วยกระตุ้นแรงซื้อคืน ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 24 เซนต์ หลังมีการรายงานข้อมูลการส่งออกน้ำมันของซาอุฯ ลดลง และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์นี้ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น ได้ Sentiment เชิงบวกจากหุ้นตปท.และราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวระดับสูงสุดรอบเกือบ 6 เดือน ขณะที่สถิติหุ้นไทยหลังสงกรานต์ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสสูงถึง 80% ที่จะปรับตัวขึ้น และให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 2% ในช่วงครึ่งหลัง เม.ย. ด้านการรายงานงบแบงก์เมื่อวานส่วนใหญ่ตามคาดถึงดีกว่าคาด (KTC, TCAP ดีกว่าตลาดคาด, BBL LHFG ตามคาด ส่วน TMB แย่กว่าคาด) ช่วยหล่อเลี้ยงแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการต่อไป แนวรับ 1671, 1665+/- แนวต้าน 1685-90 อนึ่ง หุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวัน Good Friday และตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะฝั่งยุโรปจะปิดทั้งวันศุกร์ต่อเนื่องถึงวันจันทร์ / คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้, OCEAN, OCEAN-W3 ติด Cash Balance วันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา) 

 

มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น เล็งเป้าถัดไปที่บริเวณ 1690-1700, พอร์ตเทรดดิ้งสั้น แนะเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเป็นรายตัว และใช้ Stop ที่ SET ปิดต่ำกว่า 1645-50 พอร์ตลงทุนรอบ 1-2 เดือน ถือ “Let Profits Run”

 

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BBL – ประกาศกำไร 1Q19 เพิ่มขึ้น 11% QoQ แต่ทรงตัว YoY มาที่ 9.02 พันลบ. สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ แต่ดีกว่าที่เราคาด 4% หลัก ๆ มาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนเครดิตที่น้อยกว่าคาด, งบดุล BBL แข็งแกร่งมีสัดส่วนการตั้งสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่สูงถึง 189%, มองได้ประโยชน์สุดจากการลงทุนที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่ในช่วง Q2, จ่ายปันผล 4.5 บ./หุ้น XD 23 เม.ย. คิดเป็น Div. Yield 2.1%, เป้าพื้นฐาน 235 บ. / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 1Q19F จะโตทั้ง YoY และ QoQ – BDMS, BEM, BPP, GLOBAL, MACO, MAJOR, PRM, RJH, RS, THANI, TASCO, TRUE / โต YoY – AEONTS (เป็นงบปี FY18F), BJC, GGC, HMPRO, JWD, MTC, SAT, SEAFCO, STEC / หุ้นเชิงสถิติที่มัก Outperform หลังสงกรานต์ – PTT, PTTEP, PTTGC, ESSO, MDX, PTG, SGP / หุ้นรับอานิสงส์ MSCI Rebalancing รอบ พ.ค. นี้ – Global Standard : SCC, BDMS, INTUCH, CPN, RATCH, LH, BANPU, CENTEL, DTAC และ Small Cap : BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW, COL, TIP / หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาล ด้านการบริโภค CPALL, BJC, CPN, AEONTS, RS ด้านการลงทุน AMATA, WHA, STEC, SEAFCO, BTS, BEM / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP

 

• หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) AEONTS, ANAN, JWD, LH, PTTEP, ROJNA, RS, SEAFCO 

 

19 เม.ย. US การเริ่มและอนุญาตสร้างบ้านสหรัฐฯ ใน มี.ค.

22 เม.ย. TH, US ตัวเลขการค้าเบื้องต้นไทยใน มี.ค., ขยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ใน มี.ค.

US ดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคอุตฯ (Chicago Fed Nat Activity) สหรัฐฯ ใน มี.ค.

23 เม.ย. US ดัชนีราคาบ้าน (FHFA) สหรัฐฯ ใน ก.พ., ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ใน มี.ค.

US ดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคอุตสาหกรรม (Richmond Fed Manuf.) สหรัฐฯ ใน เม.ย.