- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 April 2019 16:03
- Hits: 1119
บล.กรุงศรี : Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวแคบปิดบวกเล็กน้อย 1.80 จุด (+0.11%) ที่ระดับ 1,675 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนประกอบกับมีประเด็นการเมืองศาลรธน.วินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 24 เม.ย.ที่ต้องติดตาม ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีข่าวเฉพาะตัว ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 1,089 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 315 ล้านบาท อีกทั้ง Net Short TFEX 12,064 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรามีมุมมองเป็นกลาง - บวกคาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,680 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว เนื่องจากภาวะตลาดมีแรงซื้อเก็งผลประกอบการ 1Q19 โดยกลุ่มธนาคารที่เริ่มประกาศมีผลกำไรชะลอตัวลงเล็กน้อย (เป็นไปตามคาด) ถัดไปจะเป็นกลุ่ม ICT และ Energy ที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประเด็นข่าวบวกบอร์ด PPP ระบุ Duty free ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. PPP ทำให้ AOT สามารถจัดประมูลได้ซึ่งช่วยหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายสลับในช่วงดีดตัวจากประเด็นศาลรธน.เตรียมวินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 24 เม.ย.ซึ่งส่งผลให้ภาวะการเมืองยังมีความไม่แน่นอนและกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน
กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.
กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, CPN, EA, BPP, BGRIM, SGP, GFPT, JMT
หุ้นแนะนำวันนี้ : AOT (ปิด 68.75 ซื้อ/เป้า Consensus 74) ได้ Sentiment บวกบอร์ด PPP ระบุ Duty free ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. PPP ทำให้ AOT สามารถจัดประมูลได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการตามขั้นตอนของ PPP เพิ่ม เบื้องต้นจะเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูล 22 พ.ค.และเปิดซองประมูล 31 พ.ค. 19 , BDMS (ปิด 25.75 ซื้อ/เป้า 30) ผ่านพ้นช่วงการลงทุนใหญ่มาแล้ว ต่อจากนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนรอบใหม่มีผล 29 พ.ค.19
Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP
KSS report วันนี้ : -
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ดาวโจนส์บวก 110 จุด ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และ ผลประกอบการของภาคเอกชนยังออกมาดี : ดาวโจนส์บวก 110 จุด (+0.42%) ปิดที่ 26,560 จุด จาก 1) ตอบรับยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.6%yoy เพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2017 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% และ 2) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีเกินคาด โดยมีบริษัทมากกว่า 78% ในดัชนี S&P 500 มีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และดีกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการลดลง 4.2% ในไตรมาสแรก
(+) น้ำมันดิบฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 0.24$ ปิดที่ 64$/bbl หลังจากสหรัฐรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 0.24$ (+4%) ปิดที่ 64$/bbl ตอบรับรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 825 แท่น นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ และยังได้แรงหนุนจากข่าวซาอุฯ ส่งออกน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่าระดับ 7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
(+/-) 6 แบงก์ประกาศงบ 1Q19 โดยรวม In-line โดย TCAP เด่นสุดกำไรดีเกินคาด 13% ส่วน TMB และ SCB น่าผิดหวังกำไรต่ำคาด 7%และ 5% ตามลำดับ : กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการ 1Q19 ออกมาแล้ว 6 แห่งมีกำไรสุทธิรวม 33,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%qoq แต่ลดลง 10%yoy In-line กับที่เราคาดไว้ กำไรสุทธิที่ลดลง YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non NII) ลดลงจากการแข่งขันลดค่าธรรมเนียมการโอนในแอพพลิเคชั่นและออนไลน์ โดย TCAP มีกำไรสุทธิเด่นสุด ที่ 2,016 ล้านบาท ทรงตัว qoq แต่เพิ่มขึ้น 6%yoy และมากกว่าที่เราคาดไว้ 13% จากการตั้ง Provision ที่ลดลง ขณะที่ TMB และ SCB มีกำไรน่าผิดหวัง โดย TMB มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท ลดลง 7%qoq และ 31%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 7% ขณะที่ SCB มีกำไรสุทธิ 9,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%qoq แต่ลดลง 19%yoy และต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 5% หลักๆจากรายได้ Non NII ที่ลดลงมากกว่าคาด เรายังเลือก BBL และ KBANK เป็น toppick ของกลุ่มส่วน TISCO เป็น toppick ของ Bank ขนาดกลางแต่เหลือ upside จำกัด จึงแนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวแคบปิดบวกเล็กน้อย 1.80 จุด (+0.11%) ที่ระดับ 1,675 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนประกอบกับมีประเด็นการเมืองศาลรธน.วินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 24 เม.ย.ที่ต้องติดตาม ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีข่าวเฉพาะตัว ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 1,089 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 315 ล้านบาท อีกทั้ง Net Short TFEX 12,064 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรามีมุมมองเป็นกลาง - บวกคาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,680 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว เนื่องจากภาวะตลาดมีแรงซื้อเก็งผลประกอบการ 1Q19 โดยกลุ่มธนาคารที่เริ่มประกาศมีผลกำไรชะลอตัวลงเล็กน้อย (เป็นไปตามคาด) ถัดไปจะเป็นกลุ่ม ICT และ Energy ที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประเด็นข่าวบวกบอร์ด PPP ระบุ Duty free ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. PPP ทำให้ AOT สามารถจัดประมูลได้ซึ่งช่วยหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายสลับในช่วงดีดตัวจากประเด็นศาลรธน.เตรียมวินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 24 เม.ย.ซึ่งส่งผลให้ภาวะการเมืองยังมีความไม่แน่นอนและกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน
กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.
กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, CPN, EA, BPP, BGRIM, SGP, GFPT, JMT
หุ้นแนะนำวันนี้ : AOT (ปิด 68.75 ซื้อ/เป้า Consensus 74) ได้ Sentiment บวกบอร์ด PPP ระบุ Duty free ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. PPP ทำให้ AOT สามารถจัดประมูลได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการตามขั้นตอนของ PPP เพิ่ม เบื้องต้นจะเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูล 22 พ.ค.และเปิดซองประมูล 31 พ.ค. 19 , BDMS (ปิด 25.75 ซื้อ/เป้า 30) ผ่านพ้นช่วงการลงทุนใหญ่มาแล้ว ต่อจากนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนรอบใหม่มีผล 29 พ.ค.19
Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP
KSS report วันนี้ : -
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ดาวโจนส์บวก 110 จุด ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และ ผลประกอบการของภาคเอกชนยังออกมาดี : ดาวโจนส์บวก 110 จุด (+0.42%) ปิดที่ 26,560 จุด จาก 1) ตอบรับยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.6%yoy เพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2017 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% และ 2) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีเกินคาด โดยมีบริษัทมากกว่า 78% ในดัชนี S&P 500 มีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และดีกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการลดลง 4.2% ในไตรมาสแรก
(+) น้ำมันดิบฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 0.24$ ปิดที่ 64$/bbl หลังจากสหรัฐรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 0.24$ (+4%) ปิดที่ 64$/bbl ตอบรับรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 825 แท่น นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ และยังได้แรงหนุนจากข่าวซาอุฯ ส่งออกน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่าระดับ 7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
(+/-) 6 แบงก์ประกาศงบ 1Q19 โดยรวม In-line โดย TCAP เด่นสุดกำไรดีเกินคาด 13% ส่วน TMB และ SCB น่าผิดหวังกำไรต่ำคาด 7%และ 5% ตามลำดับ : กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการ 1Q19 ออกมาแล้ว 6 แห่งมีกำไรสุทธิรวม 33,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%qoq แต่ลดลง 10%yoy In-line กับที่เราคาดไว้ กำไรสุทธิที่ลดลง YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non NII) ลดลงจากการแข่งขันลดค่าธรรมเนียมการโอนในแอพพลิเคชั่นและออนไลน์ โดย TCAP มีกำไรสุทธิเด่นสุด ที่ 2,016 ล้านบาท ทรงตัว qoq แต่เพิ่มขึ้น 6%yoy และมากกว่าที่เราคาดไว้ 13% จากการตั้ง Provision ที่ลดลง ขณะที่ TMB และ SCB มีกำไรน่าผิดหวัง โดย TMB มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท ลดลง 7%qoq และ 31%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 7% ขณะที่ SCB มีกำไรสุทธิ 9,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%qoq แต่ลดลง 19%yoy และต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 5% หลักๆจากรายได้ Non NII ที่ลดลงมากกว่าคาด เรายังเลือก BBL และ KBANK เป็น toppick ของกลุ่มส่วน TISCO เป็น toppick ของ Bank ขนาดกลางแต่เหลือ upside จำกัด จึงแนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว