WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Selective Play
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งนำโดยหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวและหนุนให้ดัชนีปิดบวกได้ 12.75 จุด ณ สิ้นวัน โดยแรงซื้อหลักมาจากสถาบันในประเทศราว 3.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้น 218 ลบ. (แต่ Long ใน Index Futures สูงถึงเกือบ 1.1 หมื่นสัญญา)
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways หลังจากล่าสุดขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,675-1,680 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ชี้นำดัชนีอยู่ที่การประกาศผลประกอบการ 1Q19 ของบริษัทจดทะเบียนเริ่มที่กลุ่มธนาคารในวันนี้ ซึ่งหากออกมาไม่แย่กว่าคาดเรามองว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและกลุ่ม Real Sector ที่จะทยอยประกาศตามออกมาและหนุนให้ดัชนีแกว่งตัวขึ้นได้ต่อได้ โดยระยะนี้ให้เก็งกำไรหุ้นที่มีผลประกอบการ 1Q19 แข็งแกร่งคาดว่าจะ Outperform ตลาด 
          กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 1Q19 แข็งแกร่ง //ส่วนที่ซื้อแล้วยังเน้นถือต่อเนื่อง
          หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, EA, GLOBAL, KTC, STEC
 
หุ้นเด่นวันนี้: BCH
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 21 บาท (DCF)
          - คาดกำไรปีนี้โตเด่นสุดในกลุ่ม +14% เป็น 1,240 ลบ. จากโควต้าผู้ประกันตนที่ได้เพิ่ม การบันทึกบัญชีส่วนค่าภาระเสี่ยงที่กลับสู่ระดับปกติ และกลุ่มเงินสดได้แรงหนุนหลักจาก WMC ที่โตแรง (ศูนย์เบาหวานที่เท้าได้รับความนิยมมากและจะเปิดศูนย์ IVF ใน 2H19)   
          - มาร์จิ้นไม่ถูกกดดันจากการลงทุนในรพ.ใหม่เพราะจะทยอยเปิดบริการในช่วงปี 2020-21 ขณะที่ประเด็นคุมค่ายาเริ่มเงียบไปและเชื่อว่าทำได้ยาก
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$453ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$357ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตอบรับตัวเลข GDP ของจีนที่ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้และการเก็งกำไรผลประกอบการในช่วง Earnings season
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (0) กลุ่มโรงพยาบาล เราคาดกำไรกลุ่ม รพ. 1Q19 -3.7% Y-Y จากฐานสูงในปีก่อนที่มีโรคระบาดมากโดยเฉพาะไวรัสโรต้า ยกเว้น BCH และ EKH ที่คาดกำไรโต 23% Y-Y และ 16% Y-Y ตามลำดับ แต่คาดกำไรทั้งกลุ่ม +23% Q-Q เป็น 4,480 ลบ. ตามฤดูกาล เรายังคงมุมมองเดิมต่อภาพการเติบโตของกำไรทั้งปี 2019 ที่กลับสู่ปกติคือ +6% ชะลอจากปีก่อนที่โตแรง 16% ถ้ารวมสำรองประโยชน์พนักงานที่คาดมีจำนวน 832 ลบ. ทำให้กำไรทั้งกลุ่มโต 2% แต่ไม่กระทบเงินสดและราคาเป้าหมาย ยังคงน้ำหนัก Neutral เลือก BCH (ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เป็นหุ้นเด่น
          (+) AOT ครม.ไฟเขียว AOT ก่อสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 2.18 หมื่นลบ. เพื่อให้รองรับเที่ยวบินเพิ่มเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากปัจจุบัน 64 เที่ยวบินต่อชั่วโมง คาดเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ แล้วเสร็จปี 2021 การขยาย capacity จะทำให้การเติบโตของ AOT ดีขึ้น เราคงราคาเป้าหมาย 73 บาท ยังไม่รวมการประมูล Duty free ที่อาจเพิ่มมูลค่าให้ในอนาคต แนะนำเพียงถือเพราะแนวโน้มกำไร 2Q19 (ม.ค.-มี.ค. 2019) โตไม่เด่น  
          (+) ICHI เราคาดกำไร 1Q19 ฟื้น +295% Q-Q, +139% Y-Y เป็น 79 ลบ. จากการลดรายจ่าย (ปีนี้ไม่ทำ Nationwide Campaign) ส่วนรายได้ทำได้เพียงทรงตัวตามภาวะตลาดชาเขียวและหันมารับจ้างผลิตให้ลูกค้าภายนอก เพื่อเพิ่ม Utilization rate และเน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นดีอย่าง "Shizuoka" บวกกับอากาศที่ร้อนมากในปีนี้ น่าจะหนุนกำไร 2Q19 ฟื้นต่อเนื่อง เดือนหน้าจะเริ่มส่งออกไปจีน (ผ่าน JD.Com) ส่วน 2H19 มีแผนเลิกแบรนด์ไบเล่และ T247 ที่ไม่ทำกำไร คาดกำไรปีนี้ 240 ลบ. ฟื้นแรงจาก 20 ลบ.ปีก่อน ให้ราคาเป้าหมาย 4 บาท (PE 22x) แนะนำเก็งกำไร
          (-) KCE คาดกำไร 1Q19 ยังไม่สดใสอาจลดลงต่อเนื่อง Q-Q, Y-Y ล่าสุดยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือน มี.ค. -3.9% Y-Y ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทำให้ยอดขายรถทั้งไตรมาส 1Q19 -3.3% Y-Y เป็นลบต่อ KCE ที่รายได้ส่วนใหญ่พึ่งพิงยุโรป เรามีแนวโน้มปรับลดกำไรและราคาเป้าหมาย แนะชะลอการลงทุน
 
          (-) ตลาดดาวโจนส์ปรับลดลงเล็กน้อย 3.12 จุด ปิดที่ 26,449.55 จุด จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ ที่ได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่า รัฐบาลอาจเปลี่ยนแปลงระบบประกันสุขภาพ บดบังปัจจัยบวกผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจที่ดี  
          (+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผย GDP ของจีนที่ดีเกินคาด
          (0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางการรายงาน GDP ของจีน และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐที่ดีเกินคาด
          (0) ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 14 เซ็นต์ อยู่ที่ 64.19 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการลดลงของสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ก่อน  
          (-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 40 เซนต์ ที่ 1,276.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
 
          SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 752.85 ตัน /+0.59 ตัน
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 เม.ย.   - ไทย: กลุ่มธนาคารเริ่มประกาศผลประกอบการ, ยอดขายรถ (มี.ค.)
           - สหรัฐ: Fed Beige Book, ยอดค้าปลีก (มี.ค.) 
           - ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (เม.ย.)
22 เม.ย.   - ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.)
23 เม.ย.   - ไทย: กทท.ประกาศผลโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
25 เม.ย.   - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
           - เกาหลีใต้: 1Q19 GDP
           - สหรัฐ: Durable good orders (มี.ค.)
 
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research
 
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!