WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Selective Play
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 3.3 หมื่นลบ.เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1 พันลบ. (และ Short ใน Index Futures 3.9 พันสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศเป็นฝ่ายซื้อในมูลค่าใกล้เคียงกัน 
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเริ่มอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักมากขึ้นต่อการประกาศผลประกอบการ 1Q19 และเป็นปัจจัยชี้นำดัชนีเริ่มที่กลุ่มธนาคารพรุ่งนี้ โดยคาดว่าหุ้นที่มีกำไร 1Q19 แข็งแกร่งจะเริ่มเป็นเป้าในการถูกเก็งกำไรเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด ส่วนประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามเช้านี้คือ GDP 1Q19 ของจีน (ตลาดคาด +6.3% Y-Y) 
          กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 1Q19 แข็งแกร่ง //ส่วนที่สะสมไปแล้วยังเน้นถือต่อเนื่อง
          หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, EA, GLOBAL, KTC, STEC
 
หุ้นเด่นวันนี้: TKN
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท (PE 25x)
          - กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q18 เราคาดกำไร 1Q19 ฟื้นมาอยู่ที่ 121 ลบ. แต่ -20% Y-Y จากยอดส่งออกไปจีนที่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติ   
          - ปีนี้ไม่มีปัญหาต้นทุนสาหร่าย การฟื้นของมาร์จิ้นขึ้นอยู่กับการใช้กำลังการผลิตเป็นหลักซึ่งเชื่อว่าดีขึ้นใน 2H19 หลังจาก Distributor รายใหม่ในจีนเร่งสร้างยอดขาย ในสหรัฐอยู่ระหว่างทำการตลาด ตลาดในไทยโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เราคาดกำไรปีนี้กลับมาโตเป็นปีแรกในรอบ 3 ปี +16% Y-Y เป็น 696 ลบ.
          Fund Flow วันจันทร์-วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาครวม US$585ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$372ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$64ล้าน สำหรับกระแสเงินทุนไทยในวันศุกร์ก่อนปิดทำการในเทศกาลสงกรานต์ มีเม็ดเงินไหลออก US$34ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคเก็งกำไรก่อนเข้าสู่ Earnings Seasons และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นน่าจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (0) การเมือง จับตาวันนี้ กกต.ส่งศาลรธน.พิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.ปาตี้ลิสต์ ส่วนนายปิยะบุตรเข้าพบพนักงานสอบสวน คดีคสช.ดูหมื่นศาลและเอาข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
          (-) กสทช.นัดมือถือ-ทีวีดิจิตอลคุยรายละเอียดวันนี้ เรายังแนะนำขายทำกำไรระยะสั้นสำหรับกลุ่มมือถือ เพราะราคาหุ้นปรับขึ้น 3-7% ในขณะที่การขยายเวลาชำระค่าคลื่นมาพร้อมเงื่อนไขที่ต้องลงทุนใหม่ สำหรับกลุ่มทีวีดิจิตอล แนะนำขายทำกำไรเช่นกัน มีเพียง RS และ WORK ที่ยังมี upside จากราคาเป้าหมายกว่า 10% แม้จำนวนช่องจะหายไปในอนาคต แต่การแข่งขันจะมาในช่องทางอื่นตามเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 
          (0) กำไรกลุ่มแบงก์ไม่แย่นัก ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ทรงตัวในระดับต่ำ สะท้อนความคาดหวังต่อกำไรที่ค่อนข้างต่ำ แต่เราคาดกำไรไม่แย่นัก 5.15 หมื่นลบ. +24% Q-Q จากการลดลงของรายจ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยและสำรองฯ แต่ -1% Y-Y เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมลด โดยคาด KTB กำไรโตดีสุด +18% Q-Q, +7% Y-Y ไม่รวมกำไรขายที่ดิน และ KBANK +56% Q-Q, +2% Y-Y ทั้งนี้ ยังไม่รวมผลประโยชน์พนักงานที่อาจกระทบกำไรทั้งกลุ่มราว 8% หรือ 3-4 พันลบ. อาจมี SCB, BAY, TMB, KBANK และ TISCO ที่บันทึกในไตรมาสนี้ เรายัง Overweight กลุ่มแบงก์บนสมมติฐานการลงทุนและสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นหลังจัดตั้งรัฐบาล หุ้นเด่นเป็น KBANK (ราคาเป้าหมาย 212 บาท) และ BBL (ราคาเป้าหมาย 245 บาท)
          (+) EA กระแสลมแรงทำให้คาดกำไร 1Q19 +44.6% Q-Q +8.1% Y-Y ที่เป็น 1,111 ลบ. โครงการหนุมานล๊อตสุดท้าย 170 MW COD แล้ววันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้กำไรจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ใน 2Q19 ขณะที่ธุรกิจรถ EV มีแนวโน้มดีกว่าเป้า เพราะมียอดจองรถยนต์ไฟฟ้า "MINE รุ่น SPA 1" ในงาน Motor show แล้ว 90% ของเป้าบริษัท 5 พันคันในปี 2020 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 62 บาท 
          (+) SEAFCO คาดกำไรปกติ 1Q19 ที่ 123 ล้านบาท (+5% Q-Q, +137% Y-Y) ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.2 บาท (หลัง XD)
 
          (+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 67.89 จุด ปิดที่ 26,452.66 จุด จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน รวมทั้งข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 1 จุด แตะระดับ 63 สูงสุดในรอบ 6 เดือน  
          (+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนีปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือน เม.ย. 
          (+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นลุ้น GDP 1Q19 ของจีนที่จะประกาศเช้านี้
          (0) ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ มาอยู่ที่ 64.05 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนคาดว่าการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านและความไม่สงบในลิเบีย จะส่งผลให้อุปทานในตลาดโลกลดลง 
          (-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 14.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,277.20 ดอลลาร์/ออนซ์
 
          SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 752.27 ตัน /-1.76 ตัน
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 เม.ย.   - ไทย: กสทช.นัดผู้ปนะกอบการมือถือ-ทีวีดิจิตอล
           - จีน: 1Q19 GDP
           - ยูโรโซน: ยอดขายรถ (เม.ย.), อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
18 เม.ย.   - ไทย: กลุ่มธนาคารเริ่มประกาศผลประกอบการ, ยอดขายรถ (มี.ค.)
           - สหรัฐ: Fed Beige Book, ยอดค้าปลีก (มี.ค.) 
           - ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (เม.ย.)
22 เม.ย.   - ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.)
23 เม.ย.   - ไทย: กทท.ประกาศผลโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
25 เม.ย.   - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
           - เกาหลีใต้: 1Q19 GDP
           - สหรัฐ: Durable good orders (มี.ค.)
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!