- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 April 2019 16:14
- Hits: 1583
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
-------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET แกว่งตัวลง โดยมีปัจจัยกดดันจาก Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการกลุ่มธนาคารในช่วง 1Q62 กำไรจะหดตัว 2.27%YoY และมีประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองเกี่ยวกับเสถียรภาพการบริหารงานหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประเมิน SETเคลื่อนไหวลงในกรอบ1,650-1,665 จุด
Market Factor
• (watch) เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงานของบมจ. ในสหรัฐฯทำให้ดัชนีหุ้นยังมีโอกาสผันผวนตามทิศทางกำไรของหุ้นที่จะประกาศออกมา โดยตลาดคาดว่ากำไรช่วง 1Q62 จะหดตัว 4.3%YoY
• (watch) นักลงทุนรอการประกาศตัวเลข ศก. ของจีนโดยตลาดคาดว่าGDP ของจีนจะอยู่ที่ระดับ6.3%YoY เติบโตต่ำสุดในรอบ 27 ปี
• (-) ผลสำรวจอีสานโพล ของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน ม.ขอนแก่น เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสาน 1Q/62 ต่ำกว่า 100 และเป็นการต่ำกว่า 100 ต่อเนื่อง 7 ไตรมาส พร้อมมีมุมมองลบต่อใน 2Q/62 เนื่องจากภาคครัวเรือนอีสานส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเกษตรกรและกลุ่มอาชีพที่มีรายได้น้อยที่กำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ราคาสินค้าเกษตรไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่สูง และมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ (กรุงเทพธุรกิจ)
• (+) กระทรวงอุตสาหกรรม เผยมีแผนอนุมัติวงเงิน 1,000 ลบ. จากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐวงเงิน 20,000 ลบ.ใช้ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็ก Micro SMEs เพื่อสนับสนุน SMEs ในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น (ประชาชาติธุรกิจ)
• (+) MSCI นำ NVDR เข้ามาคำนวณใน MSCI EM Indexส่งผลให้มี Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้น โดยMTD พลิกกลับมาซื้อสุทธิ 4,114.84 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรามองทิศทางของ SET Index แกว่งลงจาก 2 ปัจจัยเสี่ยง 1) ปัจจัยลบจากความมีเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลผสมชุดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดกรณีสัดส่วนใกล้เคียงกันระหว่างจำนวน ส.ส.ฝ่ายค้านและ 2) Bloomberg Consensus คาดกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วง 1Q62 หดตัว 2.27%YoY ซึ่งผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น Leading Indicator ของ Real Sector ท่ามกลางความผันผวนจากดัชนีมีโอกาสย่อตัวเข้าหาฐานแนวรับ 1,640 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นใน 4 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มหุ้นกระแสเงินสดแข็งแกร่ง: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีความมั่นคงทางกระแสเงินสดและมีลักษณะคล้าย Fixed Income ได้แก่ กลุ่มพลังงานทางเลือก แนะนำ BGRIM (บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 15-20%YoY หลังรับรู้รายได้โครงการ ABPR3, ABPR4 และ ABPR5 กำลังการผลิตไฟรวม 399 MW เต็มปี บวกกับมีโครงการใหญ่ที่จะ COD ในปี 62 ทั้งโครงการ Solar DTE1&2 กำลังการผลิต 420MW และโครงการ Phu Yen TTP อีก 257MW ซึ่งบริษัทคาดเริ่ม COD ในช่วง 2H62) และ SSP (ปี 62 ตั้งเป้า COD เพิ่มอีก 65.6 MW จากโซลาฟาร์มมองโกเลีย 16 MWและโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 49.6MW ส่งผลให้สิ้นปีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 157.1MW จากปี 61 ที่ 90.4MW)
• กลุ่มท่องเที่ยว: อานิสงส์บวกจากการท่องเที่ยวในประเทศที่คึกคัก แนะนำ AOT (นอกจากช่วงสงกรานต์ที่แนวโน้มผู้โดยสารจะโต YoYแล้วในช่วง ม.ค.-ก.พ. 62 เผยจำนวนเที่ยวบินโต 5.59%YoY และจำนวนผู้โดยสารโต 3.47%YoY)และ ERW (ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 10-15%YoY หนุนด้วยแผนเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่งให้ปีนี้ โดยแบ่งเป็นโรงแรม Hop Inn 7 แห่ง 573 ห้อง และโรงแรมขนาดกลาง 2 แห่งจำนวนห้องรวม 501 ห้อง อีกทั้งตั้งเป้า RevPar ไม่รวม Hop Inn โต 3-5%YoY และ Occupancy Rate ที่ 80% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง)
• กลุ่มนิคมและโลจิสติกส์: กลุ่มนิคม อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,274 ไร่, พื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,837 ไร่และที่ดินสำหรับ Commercial Area รวม 1,227 ไร่ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ไว้ที่ 1,005 ไร่จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 863 ไร่), WHA (คาดได้แรงหนุนจากธุรกิจนิคมและโลจิสติกส์ที่เติบโตดี โดยบริษัทตั้งเป้าขายที่ดินใหม่ 1,600 ไร่ จากปีก่อนมียอดขาย 1,232 ไร่ หลังล่าสุดเปิดตัวนิคมแห่งใหม่พื้นที่ 2,000 ไร่ ซึ่งมีลูกค้าจีนเตรียมเซ็นสัญญาซื้อแล้วราว 285 ไร่ พร้อมปรับราคาขายและค่าเช่าที่ดินในเขต EEC ขึ้นอีก 10%) นอกจากนี้มองกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ได้อานิสงส์บวกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แนะนำ BEM (ตั้งเป้าปีนี้ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 5-7%YoY จากปีก่อนมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 3.1 แสนเที่ยวคน/วันทั้งนี้ตั้งเป้าปี 64จำนวนผู้โดยสารจะแตะ 5-5.5 แสนเที่ยวคน/วัน จากการเปิดเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก.ย. 62 และช่วงเตาปูน-ท่าพระ มี.ค. 63 ส่วนปริมาณจราจรบนทางด่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 1-2%YoY ใกล้เคียงปีก่อนที่เติบโต 1.3%YoY)
• กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
12-Apr-19 Change (pts.) 11-Apr-19
SET Index 1,660.45 1.36 1,659.09
SET50 Index 1,105.42 -0.06 1,105.48
SET100 Index 2,436.80 1.37 2,435.43
High 1,662.60 Gainers 510
Low 1,654.46 Unchanged 537
Value (Bt m) 33,085.87 Losers 673
Volume (*000) 9,076,681
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.3 13.9 13.9
EPS Growth (%) 13.9 9.3 7.7
EV/EBITDA (x) 10.2 9.5 9.2
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.5 3.8
ROE 11.5 11.7 11.6
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 12-Apr-19 WTD MTD YTD
Institution 972.96 1,067.21 4,957.33 37,439.81
Proprietary 815.95 2,961.20 2,489.02 5,205.78
Foreign (1,072.01) 3,934.50 4,114.82 (8,971.08)
Individual (716.89) (7,962.90) (11,561.17) (33,674.51)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary