ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ลบ 3.0 จุด (-0.18%) ปิดที่ระดับ 1,659 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,713 จุด นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แต่แรงซื้อลดลงเป็น 77 ล้านบาท พลิกเป็น Net Short TFEX 5,450 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ และยังขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,112 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรากลับมามีมุมมองเป็นกลาง คาด SET Index จะผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุนนำ ปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจนหลังจาก กกต.ยังไม่สามารถประกาศสูตรที่ใช้คำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้ และล่าสุดต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ นอกจากนี้เราเชื่อว่านักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์คล้ายกับเมื่อวานที่ผ่านมา บรรยากาศการลงทุนจะเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นหุ้นในกลุ่มสื่อสารและกลุ่ม TV Digital ที่ได้ Sentiment บวกจากข่าวคสช.ประกาศใช้มาตรา 44 ยืดจ่ายค่าไลเซนส์คลื่น 900MHz เป็น 10 ปี  และ อนุญาติให้กลุ่ม TV digital คืนใบอนุญาติพร้อมได้เงินชดเชยและไม่ต้องจ่ายค่าไลเซนส์ 2 งวดสุดท้าย ส่วนกลุ่มอื่นๆจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ CPALL AOT และ ERW      

กลยุทธ์การลงทุน : เน้น Defensive

•    กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.

•    กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, CPN, EA, BPP, BGRIM, SGP, GFPT

หุ้นแนะนำวันนี้ : CPALL (ปิด 77.25 ซื้อ/เป้า 88) เป็น top pickl กลุ่มค้าปลีก และ ได้ Sentiment บวกจากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์, BDMS (ปิด 25 ซื้อ/เป้า 30) ผ่านพ้นช่วงการลงทุนใหญ่มาแล้ว ต่อจากนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนรอบใหม่มีผล 29 พ.ค.19

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังไม่ผ่านแนวต้านที่ระดับ 65$/bbl เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลัง IEA เตือนอุปสงค์น้ำมันอาจชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาลดลง 1.03 ดอลลาร์ (-1.6%) ปิดที่ 63.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลกับภาวะอุปสงค์ชะลอตัว หลังจาก IEA ระบุในรายงานว่า ความต้องการน้ำมันดิบของประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ลดลง 300,000 บาร์เรล/วัน ใน 4Q18 ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอีกใน 1Q19 อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป

•    (-) สูตรคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่นิ่ง ล่าสุด กกต.มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ : ภาพการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอนและยังเป็นปัจจัยกดดันภาพการลงทุนของตลาดหุ้นไทยไปอีกระยะ โดยล่าสุด กกต.ยังไม่สามารถประกาศสูตรที่ใช้คำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อและจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมีได้และต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสูตรคำนวณที่ กกต.เลื้อกใช้นั้นขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทำให้กระบวนการเลือกตั้งและการนับคะแนนที่ชัดเจนยังคงล่าช้าออกไปอีก

•    (+) กลุ่มสื่อสาร + TV digital - คสช.ใช้มาตรา 44 ยืดจ่ายค่าไลเซนส์คลื่น 900MHz เป็น 10 ปี และ อนุญาติให้กลุ่ม TV digital คืนใบอนุญาติพร้อมได้เงินชดเชยและไม่ต้องจ่ายค่าไลเซนส์ 2 งวดสุดท้าย : วานนี้ คสช.ประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าไลเซนส์คลื่น 900MHz ออกไปเป็น 10 ปี จากเดิม 4 ปี ให้กับผู้ประกอบการมือถือเพื่อจูงใจให้มีการประมูลคลื่น 5G โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการที่ใช้สิทธิดังกล่าวจะต้องรับการจัดสรรคลื่น 700MHz นอกจากนี้ยังเปิดทางให้ผู้ประกอบการ TV Digital สามารถคืนใบอนุญาติ ซึ่งจะได้รับเงินชดเชย และอนุญาติให้ผู้ประกอบการไม่ต้องนำส่งเงินค่าใบอนุญาติ 2 งวดสุดท้าย โดยภาพรวมเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนของกลุ่มสื่อสาร ซึ่งมอง TRUE ได้ประโยชน์สูงสุด และ กลุ่ม TV Digital BEC ได้ประโยชน์สูงสุดจากการมีช่องที่สามารถคืนใบอนุญาติได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเรายังไม่สามารถประเมินผลประโยชน์ออกมาเป็นมูลค่าได้ เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนสำหรับต้นทุนในการได้มาซึ่งคลื่น 700MHz ที่ภาครัฐจะจัดสรรให้