สรุปภาวะตลาดวันก่อน    : SET +4.39 จุด ต่างชาติซื้อคืนต่อเนื่อง, ลุ้น คสช. ใช้ ม.44

SET ปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ถูกกดดันจาก IMF หั่นคาดการณ์ศก.โลกลง และวิตกข้อพิพาทการค้า US-EU โดย SET แกว่งตัวบวกแคบๆ ในกรอบ 1658-64 กลุ่มสื่อสารปรับขึ้นนำตลาด ลุ้น คสช.ใช้ ม.44 ยืดเวลาจ่ายค่าคลื่น 900 MHz ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 1.72 พันลบ. 2 วันติด และ Long S50 Futures 2,938 สัญญา 3 วันติด 

 

ทิศทางตลาดวันนี้    : ไซด์เวย์อัพ สัญญาณเจรจาสหรัฐฯ-จีนคืบหน้า, เงินนอกเข้า

หุ้นโลกเมื่อวาน (10 เม.ย.) ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ขานรับรายงานประชุม FED ครั้งก่อน (มี.ค.) ยืนยันไม่ขึ้นดบ.ในปีนี้ และมีสัญญาณเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนคืบหน้า หลังนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกในการบังคับใช้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุ โดยจะมีการเจรจาต่อในวันนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 64.61 $/บาร์เรล +63 เซนต์ หรือ +0.9% สูงสุดในรอบ 5 เดือนอีกครั้ง หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 7.7 ล้านบาร์เรลมากกว่าคาดที่ 2 ล้านบาร์เรล  มอง SET แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ หลังธ.กลางสำคัญ ทั้ง FED และ ECB ส่งสัญญาณใช้ความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป โดยดบ.ไม่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งปีนี้ ผสานกับ MSCI เปลี่ยนกฎนำ NVDR เข้าคำนวณดัชนี คาดจะหนุนเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่ Brexit ผู้นำ EU เสนอเลื่อนกำหนดเส้นตายให้อังกฤษไปจนถึง ต.ค. นี้ ซึ่งยาวกว่าที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะเลื่อนให้ถึง มิ.ย. ส่วนกรณีไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ คาดจะกดดันราคาหุ้น CPN เล็กน้อยในระยะสั้น แต่เชื่อว่าเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่นลท.จ้องซื้อ เนื่องจากเป็น 1 ในหุ้นอันดับต้นๆ ที่จะได้รับการเพิ่มน้ำหนักจาก MSCI อนึ่ง การขึ้น XD วันนี้ ถ่วง SET เล็กน้อย -0.8 จุด แนวรับ 1658, 1650+/- แนวต้าน 1670-75 

 

กลยุทธ์การลงทุน    : หาจังหวะสะสม-ถือทนแกว่ง เล็งเป้า 1675, 1700 ตามลำดับ

หาจังหวะสะสม, เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1675, 1700 ตามลำดับ /  SET ปิดต่ำกว่า 1645 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี, พอร์ตเทรดดิ้งสั้น ปรับ Trailing Stop ขึ้นจาก 1625 เป็น 1635 ส่วนพอร์ตลงทุนรอบ 1-2 เดือน ถือทนแกว่ง

•    ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick ORI – มองราคาหุ้นที่ร่วงเกือบครึ่งในปีที่แล้วซึบซับมาตรการ LTV ไปมากแล้ว ขณะที่ดบ.คาดว่าจะนิ่งตลอดทั้งปีนี้ ราคาหุ้นมี Downside จำกัด หลังซื้อขายที่ PER ประมาณ 9 เท่าปีนี้ และมีปันผล 30 สต./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 4.2% รออยู่ XD 2 พ.ค. นี้, เป้าพื้นฐาน 11.1 บ. / CPF, GFPT ได้ประโยชน์หลัง EU เพิ่มโควต้าไทยส่งออกเนื้อไก่-สัตว์ปีก / ผลสำรวจ IAA มองหุ้นไทย Q2 ในทิศทางบวก 48% : ไม่เปลี่ยนแปลงมาก 40% : ทิศทางลบ 12% และมอง SET Q2 เฉลี่ยที่ระดับ 1689 หุ้นเด่น 5 ตัวที่โบรกเกอร์เห็นตรงกัน คือ AOT, BBL, CPALL, SCC, STEC / หุ้นคาดได้ประโยชน์จาก MSCI เปลี่ยนกฎใหม่ SCC, BDMS, INTUCH*, CPN, RATCH*, LH, BANPU, CENTEL*, DTAC* (* เข้าใหม่) และมีอีก 7 หุ้นที่คาดว่าจะเข้า MSCI Small Cap BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW, COL, TIP / หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาล ด้านการบริโภค CPALL, BJC, CPN, AEONTS, RS ด้านการลงทุน AMATA, WHA, STEC, SEAFCO, BTS, BEM / กลุ่มแบงก์คาดมีกำไรรวม 1Q19F -2% YoY แต่ +24% QoQ โดย BAY จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดเนื่องจากมีรายการขายเงินลงทุน “เงินติดล้อ” แต่เราแนะนำ “ถือ” ขณะที่หุ้นแบงก์ที่เราชอบสุด คือ BBL, KBANK / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP

•    หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) AEONTS, ANAN, JWD, LH, PTTEP, ROJNA, RS, SEAFCO 

 

9-19 เม.ย.    TH    กลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2019

11 เม.ย.    JP, CH    ปริมาณเงิน M2 & M3 ญี่ปุ่นใน มี.ค., การลงทุนโดยตรงจากตปท.ของจีนใน มี.ค.

    CH, US    ดัชนีราคาผู้ผลิต-ผู้บริโภคจีนในมี.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯในมี.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการฯสหรัฐฯ

12 เม.ย.    CH, EU    ส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้าจีนใน มี.ค., ผลผลิตภาคอุตฯ สหภาพยุโรปใน ก.พ.

    UK, US    กำหนดเส้นตาย Brexit, ดัชนีราคาสินค้านำเข้าสหรัฐฯ ใน มี.ค.

     US    ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan Conf.) สหรัฐฯ ใน เม.ย. (เบื้องต้น)

ที่มา : Bloomberg, TISCO Research