- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 April 2019 16:05
- Hits: 2578
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ในที่สุดก็ผ่านแนวต้าน...
เมื่อวานหุ้น พลังงาน น้ำมัน โรงกลั่น ปิโตร ขึ้นยกแผงเป็นไปตามที่เราประเมิน โดยในรายงาน "รอบด้านฯ" ฉบับเมื่อวันที่ 4 เมย. เราระบุว่า...
"การฝาด่านแนวต้าน จิตวิทยาสำคัญ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน และ Down trend line บริเวณ 1,655 จุด...ต้องอาศัยแรงส่งจากกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น และเสริมด้วยธนาคาร"
และในที่สุด...หุ้นพลังงาน ได้ผลักดัน ดัชนีฯให้ขึ้นทะลุแนวต้าน 1655 จุด ได้สำเร็จ และ การทะลุผ่านแนวต้านสำคัญนี้ได้จะเปลี่ยนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไปให้ปรับขึ้นต่อ ด้วยความเชื่อมั่นผ่าน สัญญาณบวกทางเทคนิค (1.) เบรก Downtrend สำคัญ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (2.) RSI เพิ่งจะ 60 แรงส่งต่อยังมี ขณะที่ Peak รอบก่อนๆอยู่แถว 70 กว่าๆ
ส่วนพื้นฐาน และปัจจัยแวดล้อม เราได้ย้ำผ่าน รายงาน Tactical strategy เมื่อวันที่ 9 เมย. ว่ากลุ่มพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ รอบนี้มี โอกาสจะรายงาน "Earnings positive surprise" บวกกับ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีลุ้นฟนตัว จากการเจรจาการค้า จีน-สหรัฐฯ จะจบลงด้วยดี และ MS อัพเดท การค้าโลกมีสัญญาณเชิงบวก
วันนี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทย จะลดความร้อนแรงลง แต่เชื้อไฟยังไม่มอดแค่ระอุๆรอ แล้วเล่นขึ้นต่อ โดยตลาดหุ้นโลกที่ปรับลง จากข่าว IMF ปรับ GDP โลกลง ฯลฯ เรามองว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปรับขึ้นต่อของตลาดหุ้นไทย กรอบวันนี้ 1,648-1,660 จุด
What to watch:
(0) IMF ปรับคาดการ GDP โลกลงจาก 3.5% เหลือ 3.3% (ให้เหตุผลความตึงเครียดการค้า จีน สหรัฐฯ และ BREXIT ซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่ ตลาดซึมซับไปนานแล้ว)
ขณะที่ MS คาด GDP โลก +3.4% y-y และมอง 1Q19 จะขยายตัว 3.2% ต่ำสุดของปี และค่อยๆฟนตัวขึ้นใน 2Q19 เป็น 3.3% เร่งตัวใน 4Q19 เป็น 3.5% เราเห็นว่าตัวเลขที่ IMF ปรับลง เป็นตัวเลขที่ Laggard เมื่อเทียบกับ Economist Consensus และ มุมมองของ MS ซึ่งถ้าหาก พัฒนาการ จีน สหรัฐฯ ดีขึ้นเร็วกว่าที่คาด สุดท้าย IMF จะมีการไล่ปรับตามหลัง Consensus และ MS
(+) PTTGC TOP: Formosa Chemical & Fibre Corp's ท่อก๊าซ LPG รั่ว และ เกิดการระเบิด เมื่อวันที่ 7 เมย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการสั่งปิดซ่อมบำรุงแก้ไขชั่วคราว อิงเหตุการณ์ครั้งที่แล้วปี 2015 โดนปิดไป 5 สัปดาห์ คาดรอบนี้ปิดราว 1 เดือน ส่งผลให้ อุปทาน benzene, PX, SM, phenol และ PTA หายไปจากตลาดเอเชีย เนื่องจากโรงงาน ARO#3's แห่งนี้ มีกำลังการผลิต benzene ที่ราว 640k metric tons (mt)/ปี และ PX ราว 870k mt/ ปี (วันนี้ดูรายงาน อัพเดท ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตร และ ค่าการกลั่น)
(+) ทรัมป เผย อีก 4 สัปดาห์ จะลงนามข้อตกลงการค้ากับจีน หลังได้ข้อสรุปผ่านเจรจาล่าสุด
(+) รายงานการประชุม เฟด วันพุธนี้ ตลาดคาดหวังจะได้รายละเอียดสำหรับการยุติลดงบดุล 1) เปาหมายระยะยาวของประเภททรัพย์สิน ที่ธนาคารกลางจะเข้าซื้อ 2) การเข้าซื้อทรัพย์สินจะเปลี่ยนรูปแบบเร็วแค่ไหน ด้วยปัจจุบัน เฟด ซื้อแต่ ทรัพย์สินระยะยาว แต่รอบนี้คาดจะย้ายเงินมาสู่ ทรัพย์สินระยะสั้น เช่น Treasury bill เพิ่มขึ้น และด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอลง คาดจะผลักดันให้ เฟดกลับมาใช้ QE อีกครั้ง
(+) การประชุมธนาคารกลาง ยุโรป คาด ECB จะไม่ตัดสินใจส่งสัญญาณใดๆ ต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น TLTRO III
(+) ตัวเลขการค้าโลกจะเริ่มพบสัญญาณที่ดีขึ้น ผ่านตัวเลขส่งออก จีน ที่พลิกบวก 6.7% จาก -20.8% และฟิลิปปินส์ ส่งออกคาด -0.8% y-y จาก -1.7% y-y
หุ้นแนะนำ
ADVANC แนวรับ 187 ต้าน 190 Stop loss 185
KBANK แนวรับ 192 ต้าน 197 Stop loss 190
BEC ดูรายงานวันนี้
รายงานวันนี้
BEC: Rainbow is waiting on the other side
เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมหุ้น โดยในอดีตราคาหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นแรงจาก 1) ละครเรตติ้งดี, 2)มาตรการช่วยเหลือจาก กสทช. และ 3) การเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ซึ่งในเดือน เม.ย. นี้ทั้ง 3 ปัจจัยคาดจะเข้ามาพร้อมกัน ทั้งละครใหม่ แรงเงา 2, การใช้ ม.44 ช่วยเหลือ และการเข้ามาของคุณอริยะ พนมยงค์ ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการสื่อดิจิตอล มาต่อยอดให้ BEC จากการเป็น content provider
CHG: Just the matter of time
เราแนะให้นักลงทุนรอผลประกอบการ 1H19 ที่อ่อนแอสะท้อนในราคาหุ้นก่อนแล้วค่อยหาจังหวะซื้อ โดยเราคาดกำไร 1Q19 จะลดลง 20%YoY เป็น 154 ล้านบาท และต่อด้วย 2Q19 ที่คาดลดลง 15%YoY เพรา รพ. 304 ที่คาดจะยังขาดทุนอยู่ แต่ใน 3Q19 คาดกำไรจะกลับมาเติบโตได้เพราะ รพ.304 คาดจะเท่าทุนได้ ดังนั้นตอนนี้เราแนะนำเพียงถือ รอจังหวะซื้อเมื่อเวลามาถึง (ราคาเป้าหมาย 2 บาท)
Automotive: Growth momentum sustained into Feb
ตัวเลขยอดขายรถยนตร์ในประเทศเดือน ก.พ. ยังคงแข็งแกร่งหนุนโดยกาฟนตัวของรายได้ภาคการเกษตรและการเปลี่ยนรถทดแทนของเดิม ในขณะที่ตัวเลขการจองรถยนตร์ในงานมอเตอร์โชว์เติบโตแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน จากการออกโมเดลใหม่ของแต่ละค่าย เรายังคงชอบ STANLY และ SAT ที่สุดในกลุ่ม
Flow Tracker: ในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติเข้าซื้อตลาดหุ้นภูมิภาคหนัก
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลับจากการขายสุทธิ 58 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 1,915 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดซื้อสุทธิ 157 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ดัชนีระยะสั้นของเราชี้ว่าเม็ดเงินจากต่างชาติจะยังคงเข้าซื้อตลาดหุ้นภูมิภาคอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และหุ้นกลุ่มปิโครเคมีและเคมีภัณฑ์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทะลุเส้นกลางเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อหุ้นทั้งสองกลุ่มดังกล่าว
หุ้นมีข่าว/ประเด็นข่าวที่มีผลต่อตลาด
(+) PTTGC TOP IVL: Formosa Chemical & Fibre Corp's ท่อก๊าซ LPG รั่ว และ เกิดการระเบิด เมื่อวันที่ 7 เมย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการสั่งปิดซ่อมบำรุงแก้ไขชั่วคราว อิงเหตุการณ์ครั้งที่แล้วปี 2015 โดนปิดไป 5 สัปดาห์ คาดรอบนี้ปิดราว 1 เดือน ส่งผลให้ อุปทาน benzene, PX, SM, phenol และ PTA หายไปจากตลาดเอเชีย เนื่องจากโรงงาน ARO#3's แห่งนี้ มีกำลังการผลิต benzene ที่ราว 640k metric tons (mt)/ปี และ PX ราว 870k mt/ ปี (ที่มา Bloomberg)
(*/+) AIS DTAC TRUE "คสช." เตรียมออกม.44 เร็วๆ นี้ อุ้มค่ายมือถือยืดจ่ายค่าคลื่น 900 MHz งวดที่ 4 ออกไป เพื่อให้มีเงินมาประมูล 5G (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) TAPAC เตรียม ขยาย สาขา Hej street beauty "ร้านรวมเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่แบรนด์จากเอเชียไปจนถึงอเมริกาและยุโรป" แห่งที่ 6 ในจังหวัดภูเก็ต ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยอยู่ระหว่างหาทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าทัวร์ต่างชาติ ตามสถานที่ท่องเที่ยว หลังจากที่ ในวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา เปิดสาขาที่ 5 ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี และ Hej Street Beauty เตรียมรุกขยายสาขาทั่วภูมิภาคของไทย (ที่มา ASPEN)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1657.74 (+0.7%) มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,654 แนวต้าน 1,665 / SET100 รับ 2,430 ต้าน 2,445 BSET100 รับ 10.62 ต้าน 10.70 / BMSCITH รับ 12.50 ต้าน 12.65
หัวข้อ: "จัดหมวดผลตอบแทนตลาดเอเชียรอบ 13 สัปดาห์"
กลยุทธ์เทคนิค:
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเอเชียตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 13 สัปดาห์พบว่าปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน หากแบ่งตามผลตอบแทนจะแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ 1.ผลตอบแทนเกิน 10% จีน ฮั่งเส็ง ไต้หวัน 2.ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% เวียดนาม เกาหลีใต้ นิเคอิ 3.ผลตอบต่ำกว่า 10% ไทย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เห็นได้ชัดว่าตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึงเป็นตลาดที่เล็กกว่าปรับตัวขึ้นน้อยกว่า กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามหากเกิดช่องว่างที่มากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเห็นเม็ดเงินไหลกลับมาสู่ตลาดหุ้นบ้านเราหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
มุมมองตลาด:
สัปดาห์นี้มองตลาดปรับขึ้น Sideway up ขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค ยังมองโอกาสการลงทุนเพิ่ม
วิธีการเลือกหุ้น:
1.วอลุ่มเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟื้นตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic&MACD
Bull signal: CPALL, SGP ,TRUE
Bear signal: SCC, WORK, JMT (1-week low)
Portfolio: PTTEP, AMATA, OSP, GGC, KCE, TRUE, GFPT, TFG, PLANB, MTC
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
CPALL
แนะนำ ซื้อ
รับ 76.00
ต้าน 81.00
เหตุผล โมเมนตัมเครื่องมือทางเทคนิค Golden cross & Bull MACD บอกสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น
SGP
แนะนำ ซื้อ
รับ 9.70
ต้าน 11.00
เหตุผล ทะลุต้านใหญ่ยืนยันด้วยวอลุ่มสูงกว่า 100 ล้านบาทต่อวันแสดงผลการเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
TRUE
แนะนำ ซื้อ
รับ 4.96
ต้าน 5.50
เหตุผล เส้นค่าเฉลี่ย 25-days EMA แสดงจุดซื้อ-ขายและมีความแม่นยำสอดคล้องกับ RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา