ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index บวกแรงเกินคาดจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในหุ้นกลุ่มธุรกิจน้ำมันและปิโตรฯตอบรับราคาน้ำมันดิบพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน นำโดย PTTEP, PTT และ PTTGC ส่งผลให้ SET Index เพิ่มขึ้น 12 จุด (+0.7%) ปิดที่ 1,658 จุด มูลค่าซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ  3,204 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ และ  Net Long TFEX ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 28,957 สัญญา แต่ยังขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,000 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คงมุมมองเป็นกลางคาด SET Index จะพักตัวในกรอบ 1,650-1660 จุด เนื่องจาก 1) เป็นการพักตัวหลังจากที่วานนี้ปรับตัวขึ้นแรงมาแล้วกว่า 11 จุด, 2) รอดูความชัดเจนจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก โดยเฉพาะปัญหา Trade war ซึ่งล่าสุดสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปมูลค่ารวมประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และ ปัจจัยเสี่ยงจาก IMF ปรับลดคาดการณ์ World GDP, 3) รอดูความต่อเนื่องของ Fund flow ของต่างชาติหลังจากที่วานนี้มีแรงซื้อหนาแน่นทั้งในตลาดหุ้นและตลาด TFEX และ 4) รอดูความชัดเจนของปัญหาการเมืองในประเทศ อาทิ การประกาศสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงการประกาศใบเหลือง ส้ม แดง และ ดำ ของ กกต.

กลยุทธ์การลงทุน : เน้น Domestic play

•    กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.

•    กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, CPN, EA, BPP, BGRIM, SGP, GFPT

หุ้นแนะนำวันนี้ : TRUE (ปิด 5 ซื้อ/เป้า 6.8) วันนี้ได้ Sentiment บวกจากข่าว คสช.เตรียมใช้มาตรา 44 ยืดค่าไลเซนต์คลื่น 900MHz งวดสุดท้ายให้ผู้ประกอบการมือถือเพื่อจูงใจให้เกิดการประมูลคลื่น 5G เรามอง TRUE ได้ประโยชน์มากสุด 1) มีกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง 2 พันล้านบาทต่อปี 2) ลดแรงกดดันต่อประเด็นของการเพิ่มทุน, CPN (ปิด 74.25 ซื้อ/เป้า 93) คาดงบ 1Q19 พลิกเป็นเติบโตทั้ง qoq และ yoy ขณะที่ภาพรวมทั้งปีโตต่อเนื่องอีก 15% จากการเปิดโครงการใหม่และปรับขึ้นค่าเช่า นอกจากนี้ CPN ยังเป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ MSCI จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในการคำนวนรอบใหม่

Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP

KSS report วันนี้ : Bank Sector (Top pick: BBL และ TISCO)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (-) IMF มองลบปรับลดคาดการณ์ World GDP ในปีนี้เป็น 3.3% จากเดิม 3.5% จากการลดคาดการณ์ GDP ของสหรัฐและยูโรโซน : IMF ออกรายงานวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ (World economic outlook) ฉบับล่าสุดได้ปรับลดคาดการณ์ World GDP ในปีนี้ลงเป็น 3.3% จากเดิม 3.5% เป็นผลจากการปรับลดคาดการณ์ GDP ของสหรัฐและสหภาพยุโรป เนื่องจากกังวลผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า โดย IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ของสหรัฐในปีนี้เป็น 2.3% จากเดิม 2.5% และ ลดคาดการณ์ GDP ของยูโรโซนเป็น 1.3% จากเดิม 1.6%

•    (-) Trade war ยังไม่จบ สหรัฐเปลี่ยนคู่ชกจากจีนเป็นสหภาพยุโรป ล่าสุดขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ : โดยสหรัฐอ้างคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งระบุว่า การที่ EU ให้เงินอุดหนุนแอร์บัสส่งผลลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐโดยตรง ดังนั้นสหรัฐจึงจำเป็นต้องตอบโต้การกระทำดังกล่าว โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยสินค้าต่างๆอาทิ เฮลิคอปเตอร์โดยสาร, ชีส, ไวน์, ชุดสกี, รถจักรยานยนต์บางประเภท ด้านฝั่งของ EU ขู่ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน

•    (-) ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงสู่ระดับ "ทรงตัว" ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ผลสำรวจเลือกกลุ่ม ค้าปลีก น่าสนใจมากสุด : สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงสู่เกณฑ์ ทรงตัว ที่ระดับ 107.53 ลดลงจาก 130.68 ในเดือน ก.พ. นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน (เกณฑ์ทรงตัวจะมีช่วงดัชนีที่ 80-119) เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง รวมถึงการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังยืดเยื้อ อย่างไรก็ตามเราไม่ได้วิตกกังวลต่อผลสำรวจในครั้งนี้มากนักเพราะความเชื่อมั่นที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์ ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติยังมีความเชื่อมั่นอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงตามเดิม โดยกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดคือกลุ่มค้าปลีก (Commerce) ส่วนกลุ่มที่ไม่น่าสนใจคือ กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (Media)

•    (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม – วันนี้ ECB meeting คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% , EU ประชุมขยายเส้นตาย Brexit ให้กับอังกฤษเรายังมองบวกคาด EU ขยายเส้นตายให้อังกฤษจาก 12 เม.ย.เป็น 22 พ.ค. และวันพรุ่งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุม (Fed Minute) ติดตามสัญญาณขึ้นหรือลดดอกเบี้ย