SET แกว่ง +/- ในกรอบแคบ 1643-49 ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบางเพียง 2.69 หมื่นลบ. ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนลท.ชะลอการลงทุนก่อนหยุดยาว 3 วัน ประกอบกับตลาดหุ้นภูมิภาค อาทิ จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน ปิดในวันเชงเม้ง (5 เม.ย.) ต่างชาติขายสุทธิ 439 ลบ. 3 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 7,613 สัญญา 

 

หุ้นโลกเมื่อวาน (8 เม.ย.) +/- คละเคล้า โดยหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน นลท.จับตาทางออก Brexit ก่อนกำหนดเส้นตาย 12 เม.ย. นี้ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดกระจัดกระจาย ดัชนี DJ ปิดลบ 0.3% ถูกกดดันจากราคาหุ้น Boeing ร่วง 4% หลังบริษัทประกาศแผนลดการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 แต่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.1% และ 0.2% ตามลำดับ ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 2.1% ปิดที่ 64.40 $/บาร์เรล เป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน กังวลอุปทานตึงตัวจากเหตุรุนแรงในลิเบีย  มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ ให้น้ำหนักอิงทางแดนบวก แต่ยังอยู่คงอยู่ในกรอบจำกัด แม้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ภาพตลาดโดยรวมรอดูพัฒนาการของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนและสถานการณ์ Brexit ประกอบกับเป็นช่วงคาบเกี่ยวก่อนหยุดยาวอีกครั้งในเทศกาลสงกรานต์ อาจทำให้นลท.ชะลอการลงทุนต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนนี้ แนวรับ 1640+/- แนวต้าน 1650, 1655 

 

แนะหาจังหวะสะสม, เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1675, 1700 ตามลำดับ, การปิดต่ำกว่า 1645 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี พอร์ตเทรดดิ้งสั้นยังคงใช้ 1625 เป็นจุด Stop ส่วนพอร์ตลงทุนรอบ 1-2 เดือน ถือทนแกว่ง

•    ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TRUE – ผลประกอบการ 1Q19F ที่คาดว่าจะพลิกมีกำไรเทียบทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายที่กดดันเหมือนไตรมาสที่ผ่านมา ประกอบกับโอกาสที่รัฐบาลจะขยายเวลาการชำระคลื่น 900MHz ออกไป มองหุ้น TRUE จะได้ประโยชน์สุด, เป้าพื้นฐาน 7.8 บ. / CPF, GFPT ได้ประโยชน์หลัง EU เพิ่มโควต้าไทยส่งออกเนื้อไก่-สัตว์ปีกเพิ่มขึ้น / ผลสำรวจ IAA มองหุ้นไทย Q2 ในทิศทางบวก 48% : ไม่เปลี่ยนแปลงมาก 40% : ทิศทางลบ 12% และมอง SET Q2 เฉลี่ยที่ระดับ 1689 ขณะที่หุ้นเด่น 5 ตัวที่โบรกเกอร์เห็นตรงกัน คือ AOT, BBL, CPALL, SCC, STEC / หุ้นคาดได้ประโยชน์จาก MSCI เปลี่ยนกฎใหม่ – SCC, BDMS, INTUCH*, CPN, RATCH*, LH, BANPU, CENTEL*, DTAC* (* เข้าใหม่) และมีอีก 7 หุ้นที่คาดว่าจะเข้า MSCI Small Cap – BLA, AEONTS, LHFG, TASCO, EASTW, COL, TIP / หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะได้ร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม ด้านการบริโภค CPALL, BJC, CPN, AEONTS, RS ด้านการลงทุน AMATA, WHA, STEC, SEAFCO, BTS, BEM / เราคาดกลุ่มแบงก์มีกำไรรวม 1Q19F ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 24% QoQ โดย BAY จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดเนื่องจากมีรายการขายเงินลงทุน “เงินติดล้อ” แต่เราแนะนำ “ถือ” ขณะที่หุ้นแบงก์ที่เราชอบสุด คือ BBL (เป้าพื้นฐาน 235 บ.), KBANK (231 บ.) / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP

•    หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) AEONTS, ANAN, JWD, LH, PTTEP, ROJNA, RS, SEAFCO 

 

9-19 เม.ย.    TH    กลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2019

10 เม.ย.    JP, US    ดัชนีราคาผู้ผลิตญี่ปุ่นใน มี.ค., คำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นใน ก.พ., งบประมาณสหรัฐฯ ใน มี.ค.

    CH    ปริมาณเงินในระบบ (M0 & M1 & M2) และการปล่อยสินเชื่อเงินหยวนของจีนใน มี.ค.

    EU, US    ประชุม ECB, ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน มี.ค., รายงานประชุม FED ครั้งก่อน (19-20 มี.ค.)

11 เม.ย.    JP, CH    ปริมาณเงิน M2 & M3 ญี่ปุ่นใน มี.ค., การลงทุนโดยตรงจากตปท.ของจีนใน มี.ค.

    CH, US    ดัชนีราคาผู้ผลิต-ผู้บริโภคจีนในมี.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯในมี.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการฯสหรัฐฯ