- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 April 2019 16:18
- Hits: 2659
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective and Energy Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลวันหยุด โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่ออีกเล็ก้นอย 439 ลบ. (แต่พลิกมา Long ใน Index Futures 7.6 พันสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 762 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังไม่สูงเนื่องจากยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวเทศกาลวันหยุด อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานคาดว่าจะนำตลาดได้ตามราคาน้ำมันดิบที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง โดยประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้คือการขอยืดเส้นตาย Brexit ออกไปจากวันที่ 12 เม.ย.นี้ เราคาดว่าการเคลื่อนไหวของตลาดจะยังจำกัดในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ และมองว่าหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มกำไร 1Q19 โดดเด่นจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและกลุ่มพลังงาน //ส่วนที่สะสมไปแล้วยังเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, EA, GLOBAL, KTC, STEC
หุ้นเด่นวันนี้: MINT
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 48 บาท (DCF)
- แม้กำไร 1Q19 จะลด Q-Q, Y-Y เพราะ Rev Par ต่างจังหวัดและแอฟริกาใต้หดตัว และ NH Hotel ที่คาดขาดทุนเพราะ low season แต่การเติบโตในระยะถัดไปจะได้แรงหนุนจากการรวมงบฯ NH Hotel เต็มปี
- มี Synergy กับ NHH ทั้งขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม NHH การ Repositioning รร.เครือ NHH โดยใช้แบรนด์ในเครือของ MINT ช่วยเพิ่มราคาห้องพัก
- มีแผนขายและเช้ากลับ รร.บางแห่งในยุโรป จึงมีกำไรพิเศษไปลดดอกเบี้ย
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$604ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$280ล้าน สำหรับกระแสเงินทุนในวันศุกร์ก่อนหน้าที่ตลาดไทยปิดทำการเม็ดเงินไหลเข้าภูมิภาค US$107 ล้าน โดยไหลออกจากไทย US$14ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามกลุ่มพลังงานที่น่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจากเหตุการณ์รุนแรงในลิเบีย
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) สถานการณ์ลิเบีย อาจทำให้ supply น้ำมันโลกตึงตัว เป็นบวกต่อ PTTEP, PTT, PTTGC, TOP, SPRC
(0) กม.แรงงานฉบับใหม่มีผลต้นเดือนหน้า ทุกบริษัทจะตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานอายุงาน 20 ปีขึ้นไปจาก 300 วันเป็น 400 วันใน 2Q19 เราพบว่าในจำนวน 157 บจ.ที่อยู่ใน FSS coverage (81% ของ market cap) มีรายจ่ายสำรองส่วนนี้ราว 2.4 หมื่นลบ. คิดเป็น 2.8% ของกำไรสุทธิทั้งปี กลุ่มที่ตั้งสำรองมากสุดได้แก่ กลุ่มเกษตรอาหารโดยเฉพาะ CPF (12% ของกำไร), GFPT, TU, OSP ค้าปลีก (BJC, CPALL, MAKRO) แบงก์ (SCB, KTB, BAY, KBANK) และ THAI, BDMS, MCOT รายการดังกล่าวไม่กระทบกระแสเงินสดและราคาเป้าหมายของเรา
(+) ลุ้นแพคเกจท่องเที่ยวสัปดาห์นี้ ททท.จะหารือการกระตุ้นท่องเที่ยวกับกท.คลัง คาดเป็นมาตรการภาษีและการขยายมาตรการวีซ่า เป็นบวกกับ ERW, AOT
(+) จีนเล็งเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดภาษี VAT ภาษีนิติบุคคลและค่าธรรมเนียมอื่นๆ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา และหาวิธีจูงใจการซื้อรถเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้น GDP ที่คาดว่าปีนี้จะโต 6.1-6.3% ต่ำสุดในรอบ 9 ปี ขณะที่ 1Q19 อาจทรุดก่อนเริ่มฟื้นใน 2H19 หากเจรจาการค้าจบใน 1-2 เดือนนี้ ถ้าจีนฟื้น จะเป็นบวกต่อราคาปิโตรเคมี สินค้าโภคภัณฑ์ (PTTGC, IRPC, IVL) อิเล็กทรอนิคส์ (แนะนำ HANA ยังไม่แนะนำ KCE, DELTA เพราะยังมีวัตถุดิบแพงอยู่) ท่องเที่ยว (ERW) นิคมฯ (AMATA, WHA) และอื่นๆได้แก่ TVO, TU, CPF, CBG, STA
(+) GLOBAL เราคาดกำไรปกติสดใส +38% Q-Q, +3% Y-Y เป็น 585 ลบ. คาด SSSG +5.2% Y-Y เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน สาขาใหม่ที่กัมพูชาเริ่มมีกำไรตั้งแต่ ม.ค. และจะฟื้นต่อเนื่องตามฤดูกาลใน 2Q19 เราคาดกำไรปกติทั้งปี +22% เป็น 2.47 พันลบ. คงราคาเป้าหมาย 21 บาท แนะนำซื้อ
(+) TOP เราคาดกำไรสุทธิ 4.8 พันลบ.ใน 1Q19 พลิกจากขาดทุนสุทธิ 4.8 พันลบ.ใน 4Q18 หลักๆจาก stock gain แต่ Core operation ลดทั้ง Q-Q, Y-Y ตามค่าการกลั่นที่คาดเหลือ US$5.2/บาร์เรล -21% Q-Q, -37% Y-Y เชื่อว่ากำไรจะทยอยฟื้นในช่วงที่เหลือของปีจากอานิสง์ของ IMO ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 81 บาท
(-) ตลาดดาวโจนส์ปรับตัวลง นำโดยหุ้น Boeing ที่ปรับลดเป้าการผลิต Boeing Max 737 ลง
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยล่าสุดตลาดคาดว่าการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะเลื่อนออกไปอีก 1 ปี
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลง หลังราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกลับมากดดันเงินเฟ้อ เพราะประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียเป็นผู้นำเข้าสุทธิ
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. พุ่งขึ้น +1.32 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปัญหาความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย ที่อาจส่งผลกระทบต่อ Supply
(+) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น +6.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1301.9 ดอลลาร์/ออนซ์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 760.49 ตัน /-1.18 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 เม.ย. - ยูโรโซน: ECB ประชุม
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
11 เม.ย. - สหรัฐ: FOMC Meeting Munutes
- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
12 เม.ย. - ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.), อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
- จีน: ส่งออก นำเข้า ดุลการค้า (มี.ค.)
16 เม.ย. - ยูโรโซน: Zew Survey Expectations (เม.ย.)
- สหรัฐ: Industrial Production (มี.ค.)
17 เม.ย. - จีน: 1Q19 GDP
- ยูโรโซน: ยอดขายรถ (เม.ย.), อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research