ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เพิ่มขึ้น 1.96 จุด (+0.12%) ปิดที่ 1,646 จุด มูลค่าซื้อขายเบาบาง 2.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวเนื่องในวันจักรี นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 439 ล้านบาท แต่พลิก Net Long TFEX 7,613 สัญญา ส่วนตลาดพันธบัตรต่างชาติยังขายสุทธิ 641 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เราคงมุมมองเป็นกลางคาด SET Index จะยังผันผวนในกรอบแคบที่ระดับ 1,640-1,650 เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุนนำ ส่งผลให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของการเมืองในประเทศ ซึ่งสัปดาห์นี้คาดว่า กกต.จะประกาศสูตรในการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รวมไปถึงการประกาศให้ใบเหลือง ส้ม แดง และ ดำ พร้อมประกาศวันเลือกตั้งซ่อม ซึ่งจะมีผลต่อจำนวน ส.ส. ทั้ง ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ทำให้โมเมนตัมของการจัดตั้งรัฐบาลยังเปลี่ยนไปมา การลงทุนในวันนี้จึงเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ หุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน PTTEP, TOP (ราคาน้ำมันดิบพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน), กลุ่มท่องเที่ยว AOT, ERW (ลุ้น ครม.อนุมัติต่ออายุมาตรการฟรีซ่า), กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE, HANA, SVI (จีนลดภาษีนำเข้าสินค้า)  และกลุ่มที่ได้อานิสงส์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ CPALL, ERW และ KTC

•    กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.

•    กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, EA , BPP , BGRIM , SGP , GFPT

หุ้นแนะนำวันนี้ : AOT (ปิด 67.25 ซื้อ/เป้า 70) คาดได้ผลบวกโดยตรงหากวันนี้ ครม.อนุมัติต่ออายุมาตรการฟรีวีซ่า (VOA) นอกจากนี้ AOT ยังมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประมูลพื้นที่ Duty ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ PTTEP (ปิด 127.5 ซื้อ/เป้า 150) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ขณะที่ PTTEP มี Growth story จากการเข้าซื้อ Murphy oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี

Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP

KSS report วันนี้ : PLANB (ปิด 6.95 ซื้อ/เป้า 8.0)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (+) รัฐสภาอังกฤษอนุมัติเลื่อนกำหนด Brexit เพื่อเลี่ยงการออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ EU ว่าจะยอมขยายเส้นตายได้หรือไม่ : อังกฤษใกล้ถึงกำหนดเส้นตายที่จะออกจาก EU ในวันที่ 12 เม.ย.19 นี้แต่ล่าสุด รัฐสภาอังกฤษลงมติให้ขยายเส้นตายออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Brexit แบบไร้ข้อตกลงซึ่งขั้นตอนถัดไป นางเทเรซาร์ เมย์ จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปเรียกร้องให้ EU เลื่อนกำหนดเส้นตาย ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า EU จะเห็นด้วยให้เลื่อนเส้นตายหรือไม่ โดย EU จะมีการประชุมเพื่อหารือกับประเด็นดังกล่าวในวันที่ 10 เม.ย.นี้ (ปัจจุบันกระแสข่าวเป็นบวกคาด EU อาจจะขยายเวลา Brexit เป็น 22 พ.ค. 19 หรือขยายเวลา Brexit ให้อังกฤษออกไปอีก 1 ปี)

•    (+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - น้ำมันดิบ WTI พุ่งทะลุระดับ 64 $/bbl สูงสุดในรอบ 5 เดือน กังวลอุปทานตึงตัวหลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในลิเบีย: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.32 $ (+2.1%) ปิดที่ 64.4 $/bbl ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกังวลอุปทานตึงตัวหลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบหรือเกิดเหตุสงครามการเมืองส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 35 ราย และ มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 80 ราย ทั้งนี้ปัจจุบันลิเบียมีการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 1-1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตลาดมีการคาดการณ์กันว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ลิเบียส่งออกน้ำมันดิบลดลงประมาณ 8 แสนบาร์เรลต่อวัน

•    (+) กลุ่มท่องเที่ยว – วันนี้คาด ครม.อนุมัติต่ออายุมาตรการฟรีวีซ่า (VOA) ออกไปอีก 3-6 เดือนก่อนที่โครงการเดิมจะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย.19: วันนี้คาดที่ประชุม ครม. จะอนุมัติต่อายุมาตรการฟรีวีซ่า (VOA) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวออกไปอีก 3 หรือ 6 เดือน ตามที่ สตม.เสนอ ก่อนที่มาตรการเดิมจะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย. 19 เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มที่เกี่ยวข้อง อาทิ AOT, AAV, ERW และ CENTEL

•    (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม การเมืองในประเทศ คาดสัปดาห์นี้ กกต.จะประกาศให้ใบเหลือง ส้ม แดง และ ดำ รวมถึงประกาศวันเลือกตั้งซ่อม ส่งผลให้อุณภูมิการเมืองร้อนแรงขึ้น