เมื่อวานหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้ามาคำนวณใน MSCI Thailand standard index และ หุ้นน้ำหนักถูกปรับขึ้น บวกรับข่าวดี ยกแผง หุ้นบวกเด่นๆ เช่น CENTEL INTUCH GULF DTAC CPN KCE ฯลฯ ยกเว้นแบงก์ใหญ่ เช่น BBL KBANK SCB KTB และ AOT IVL (IVL โดนเรื่องโรงงานใหญ่ใน US ปิดซ่อม) ที่เล่นได้แย่กว่าดัชนีฯ

วันนี้คาด ข่าวบวก/ลบ ของหุ้นรายตัว จะมีผลต่อราคาหุ้นมากกว่า ขณะที่ดัชนีฯ จะบวกได้ ด้วยแรงซื้อหุ้นพลังงาน (น้ำมัน, โรงกลั่น) 

- Underperform ข่าวลบกดดัน กลุ่มยานยนต์-สินเชื่อรถยนต์ จะมาจาก โอกาสในการเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อทั้งรถเก่า และ ใหม่ อาจจะชะลอกว่าที่นักวิเคราะห์ คาด เป็นผลจากคำเตือน "แบงก์ชาติ" ในการคุม สินเชื่อ รถเก่า-ใหม่ ที่มีการปล่อยสินเชื่อในลักษณะ อัพราคาเพื่อทอนเงิน (ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำอาจส่งผลต่อ การก่อหนี้ที่เกินตัว) 

+ Outperform พลังงาน โรงกลั่น ด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่ MS และ Goldman Sachs คาด เมื่อวาน Brent ยังเดินหน้าบวกต่ออีก 2.5% 

+ โรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน การท่าฯ ชงต่อวีซ่านักท่องเที่ยวออกไปถึง กค.นี้ (จากเดิม Visa on arrival จะหมดอายุมาตรการ 30 เมย.นี้) 

คาดภาพตลาดในเดือน เมย. ดัชนีฯหุ้นไทย จะยังคงมีโอกาส แรลรี่ รับสถิติหลังเลือกตั้ง ภายใน เดือน เมย. มอง Upside กลับขึ้นไปแถว 1,680 จุด โดยประเมินกรอบแนวรับสำคัญ 1,615 จุด (ถ้าหลุดให้หยุดซื้อ) ส่วนภาพย่อยใน สัปดาห์แรกของเดือน เมย. คาดดัชนีฯหุ้นไทย จะแกว่งตัว รอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ Preview งบ 1Q19 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งเราคาด เห็นกำไรฟื้นตัวจาก 4Q18 จะช่วยประคองดัชนีฯ

 

(+) US ISM 55.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 54.1 

(0/+) หุ้นรถยนต์ยุโรปเมื่อวาน บวกแรง หนุนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดพุ่ง จากข่าว จีนระงับการเก็บภาษีรถยนต์ บวกกับ การเริ่มลดภาษี VAT ในประเทศจีนเป็นวันแรก หนุนการบริโภคในจีน โดยหุ้นเดมเลอร์ เอจี ของเยอรมนี +4.11% เป็นต้น (+KCE) 

(*) ก.พาณิชย์ รายาน เงินเฟอทั่วไป เดือน มีค.+1.24% สูงกว่าคาดที่ 0.90% y-y เป็นผลจากราคาอาหารสด (หมู ไก่ กุ้ง) ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 5 และราคาพลังงาน (ราคาขายปลีกหน้าปั๊ม) ขยับขึ้น เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 เดือน (คาดเป็นจิตวิทยาบวก ต่อหุ้น CPF GFPT TU และ หุ้นปั๊มน้ำมัน PTG PTT BCP) 

(+) สมาคมนักวิเคราะห์ รายงานผลสำรวจล่าสุด เปาหมายดัชนีฯปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1740 จุด (ใกล้เคียงกับของ BLS) โดยคาด ดัชนีฯเฉลี่ยใน 2Q19 ที่ 1689 จุด (ใกล้เคียงกับเปาหมายรายเดือน ของทางกลยุทธ์) โดยมองจุดต่ำสุดที่ 1583 จุด หากการเมืองในประเทศยังไม่นิ่ง สำหรับ EPS ปีนี้ เฉลี่ย คาด 110.02 บ.และ EPS growth 9.67% / 5 หุ้นแนะนำ AOT BBL SCC CPALL STEC

 

PTTEP แนวรับ 126.5 ต้าน 130 stop loss 125 

PTG แนวรับ 10 ต้าน 10.7/11 Stop loss 9.5

 

 

GRM ขยายตัวต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก Gasoline และ Jet fuel crack spread ซึ่งหนุนโดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอุปทานที่ตึงตัว เรายังคงตาด GRM ค่อยๆปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนข้างหน้าจากอุปทานที่ตึงตัว เพราะเป็นช่วงปิดปรับปรุงโรงงาน และเป็นช่วงที่อุปสงค์ในอเมริกาเหนือ เรายังคงชอบ TOP ที่สุดในกลุ่ม

 

จากประเด็นการ ธปท. เข้าตรวจสอบสินเชื่อเช่าชื้อรถยนต์หลังจากที่ NPL เพิ่มขึ้นเป็น 1.66% ในปี 2018 (จาก 1.6% ในปี 2017) หากพบว่ามีมาตรการปล่อยสินเชื่อที่ผ่อนคลายเกินไป หรือมีการให้เงินทอนหรือเงินกู้เพิ่มเติมจากสินเชื่อ อาจมีการใช้มาตรการคล้ายกับมาตรการ LTV ภาคอสังหาฯ ซึ่งอาจกำหนดให้ต้องมีการวางเงินดาวน์เพิ่มขึ้น // ความเห็น ในเชิงพื้นฐานเรามองว่ากระทบต่อ แบงค์เช่าซื้ออย่าง TISCO KKP TCAP น้อยมาก (คาด TCAP อาจการทบมากกว่า TISCO และ KKP เล็กน้อย เพราะ TCAP มีพอร์ตรถมือ1 มากกว่า) ในขณะที่กลุ่ม non-bank อย่าง MTC และ SAWAD คาดไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดีในมุมมองกลยุทธ์ เราแนะให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มแบงค์เช่าซื้อไว้ก่อน รอดูความชัดเจนของมาตรการอีกครั้ง

 

อิงตามข้อมูลจากเพจ Ad Addict ซึ่งรวบรวมข้อมูลมาจากรายงานการประชุมของ กสทช. และกรมประชาสัมพันธ์ 

1. งดโฆษณาทุกชนิด ณ ช่วงเวลาการถ่ายทอดสด - ช่วงวันที่มีการถ่ายทอดสด: 6/18/19 เมษายน และ 3/4/5/6 พฤษภาคม โดยช่วงสำคัญที่สุดอยู่ที่เดือนพฤษภาคม 

2. สื่อออนไลน์ทำได้แต่ต้องระมัดระวังอย่างมาก (คาดส่วนใหญ่จะเลี่ยงไปเลย) - ห้ามมีแบนเนอร์ (Banner) หรือโฆษณาอยู่บนหน้าจอเดียวกับ Content ที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธี - ห้ามมี Spot โฆษณาคั่น หรือ แทรกระหว่าง Content พระราชพิธีโดยเด็ดขาด 

3. สื่อ OOH (Out Of Home) ยังอยู่ในช่วงพิจารณา

 

Flow Tracker: ในสัปดาห์ที่ผ่านต่างชาติขายหุ้นไทยเล็กน้อยมาก่อนเข้าสู่วันเลือกตั้ง 

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขายต่อเนื่องจากการซื้อสุทธิ 171 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 1,414 ล้านเหรียญ หลังจากที่ขาย 7 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับสัปดาห์นี้ เราคาดว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคจะเผชิญแรงขายอีกระลอกเนื่องจากดัชนีระยะสั้นของเรายังคงส่งสัญญาณอ่อนแอ ทั้งนี้ดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงขายในหุ้นกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์และค้าปลีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเราคาดว่าสัปดาห์นี้แรงขายจะกระจายไปยังหุ้นหลายกลุ่มมากขึ้นเนื่องจากประเด็นเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกลับมาสร้างมากังวลให้กับตลาดอีกครั้ง

 

(-) ธปท.จ่อคุมปล่อยกู้'ซื้อรถ'หวังสกัดสินเชื่อเงินทอน-ปองก่อหนี้เกินตัว พบพฤติกรรมอัพราคา เพื่อขอเงินกู้ทั้งรถใหม่-เก่า "แบงก์ชาติ" กำชับสถาบัน การเงินคุมเข้มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หลังพบ พฤติกรรม "อัพราคา" จนเกิดปัญหาสินเชื่อ เงินทอน ทั้งรถใหม่-เก่า ย้ำหากยังพบการปล่อยกู้หย่อนยาน อาจออกมาตรการควบคุม (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 

(+) WHA เปิดนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ปักธงอีอีซี "พรินซ์ เฉิงซาน" ยักษ์ใหญ่ผลิตยางรถยนต์จากจีนนำร่องซื้อ 280 ไร่ ตั้งเปาปีนี้ยอดขายที่ดิน 1.6 พันไร่ เผยต่างชาติไม่กังวลการเมือง คาดจีน-ญี่ปุนจับมือลงทุนประเทศที่ 3 ดันยอดลงทุนไทยปีนี้โต 5% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 

 

 

SET Index ปิด 1644.64 (+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท 

 

SET Index แนวรับ 1,640 แนวต้าน 1,655 / SET100 รับ 2,405 ต้าน 2,425 BSET100 รับ 10.52 ต้าน 10.60 / BMSCITH รับ 12.38 ต้าน 12.50

 

Topic: "Find the turning points" ดัชนีถึงจุดเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้วหรือยัง...

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนภายหลังจากมูลค่าหุ้นถูก ดัชนีปรับฐานลงแรง จับตาปัจจัยบวกภายนอก อาทิเช่น ตัวเลขภาคการผลิต PMI เดือนมี.ค.หลายประเทศในเอเชียฟนตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะจีน PMI ดีกว่าคาดที่ 50.5 นอกจากนี้การเจรจาทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐมีความคืบหน้ามากขึ้น ปัจจัยในประเทศ รอการจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าหากมีความชัดเจน มุมมองทางเทคนิค ดัชนีขยับขึ้นมาทดสอบจุดยอดเดิมของเดือน มี.ค.ที่ 1646 จุด พร้อมกับเครื่องวัดโมเมนตัม MACD Stochastic RSI และ DI ปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน บ่งชี้โครงสร้างขาขึ้นกำลังเริ่มขึ้น!

 

มุมมองตลาดเดือนเม.ษ.จะมีทิศทางที่ดีขึ้นและเป็นช่วงที่ Indicator ส่งสัญญาณฟนตัว มองโอกาสขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เหนือเดือนมี.ค. เพื่อยืนยันโครงสร้างขาขึ้น

 

1. ส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นอาจเป็นหุ้นในกลุ่มนำตลาดซึ่งราคาปรับตัวลงมาแล้ว 

2. เกิดสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นหรือฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับพร้อมกับวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ 

3.ระมัดระวังหุ้นทีมีโครงสร้างอ่อนแอปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น แนะขายหรือหลีกเลี่ยง 

Bull signal: AMATA, CPALL, CENTEL 

Bear signal: KBANK, SCB, WORK (Closed below 5-days EMA) 

Portfolio: KTC, AOT,RS, PTTEP, AMATA, BEC, BDMS, OSP

 

 

AMATA 

แนะนำ ซื้อ 

รับ 21.30 

ต้าน 22.50 /23.00 

เหตุผล ราคาปิดจ่อทะลุกรอบสามเหลี่ยมใหญ่ หนุนด้วยโครงสร้างการกลับตัวเป็นขึ้น Bull MACD

 

CPALL 

แนะนำ ซื้อ 

รับ 75.00 

ต้าน 80.00 

เหตุผล CPALL เตรียมทะลุเส้นกลาง Bollinger band ขณะที่ RSI บ่งชี้ค่าความแข็งแกร่งและฟนตัวขึ้นจากกรอบล่าง

 

CENTEL 

แนะนำ ซื้อ 

รับ 45.00 

ต้าน 51.00 

เหตุผล วอลุ่มเพิ่มขึ้นยืนยันการเปลี่ยนโครงสร้าง ราคาปิดเหนือแนวรับสำคัญ 44 บ. ลุ้นการดีดขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน