ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +5.99 จุด ปิดที่ 1644.64 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 44.5 พันล้านบาท ดัชนีบวกรับข่าวเจรจาการค้าจีน-สหรัฐมีความคืบหน้า ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดออกมาดี และคาดหวังเงินไหลเข้าไทย หลัง MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนัก ผู้ซื้อสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 2.5 พันลบ. สำหรับผู้ขายสุทธิเป็นนักลงทุนทั่วไป 2.0 พันล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันลบ.และต่างชาติ 0.2 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิแล้ว 13.3 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ

# ระยะสั้นคาด SET ยังมีโมเม็นตัมดี ปัจจัยต่างประเทศสดใส ตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐ-จีน ออกมาดี น้ำมันและดาวโจนส์ปรับสูงขึ้น การเจรจาการค้า-จีนเยือนสหรัฐฯสัปดาห์แรก และจะบรรลุข้อตกลงภายใน เม.ย.62 บอนด์ยิลด์ 10 ปี สูงขึ้น ลดกังวล Inverted Yield Curve

# ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน และดาวโจนส์ล่วงหน้าเช้านี้ปรับขึ้น เป็นแรงสนับสนุน SET ในระยะสั้นด้วย ปัจจัยลบคือ Brexit ยังไม่แน่นอน บาทอ่อน

แม้ปัจจัยการเมืองมีความเข้มมากขึ้น การจะฟ้องร้อง กกต. แต่คาดว่าในช่วงพิธีมงคล ยังจะไม่มีอะไรรุนแรง

# ประเด็น MSCI เพิ่มน้ำหนักไทย มีผล พ.ค. แต่จะมีการเก็งกำไรล่วงหน้า คาดว่าหุ้นใหญ่จะได้ประโยชน์ หลักทรัพย์พื้นฐานแกร่งแนะนำ ซื้อ คือ CPALL, PTT, PTTGC, CPF, ADVANC, BEM เป็นต้น

# กลยุทธ์ คือ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1650-1660 จุด แต่หากกลับมีแรงขาย แนวรับเป็น 1620,1610 จุด ไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนสูง หากดัชนีต่ำกว่า 1635 จุด จะเป็นจุดตัดขาดทุนในระยะสั้น ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม โดยมีดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1750 จุด (+0.9 SD ที่ P/E 16.7 เท่า) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรของตลาดฯปี 62 ที่ +8% y-o-y แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 2Q62 คือ AMATA,BBL,ERW,KKP,STEC

หุ้นเด่น AEONTS : กำไรเติบโตแข็งแกร่งตามคาด โดยกำไรสุทธิงวดก.ย.-พ.ย.61 ออกมา 901 ล้านบาท (+20.1%YoY, +4.5%QoQ) เป็นไปตามคาด การเติบโตมาจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลง และหนี้สูญกลับคืนดีเกินคาด ส่วนรายได้โต 12%YoY ทั้งนี้รายได้เครดิตการ์ด (41% ของทั้งหมด) โต 13%YoY, รายได้จากสินเชื่อ (57% ของทั้งหมด) โต 9%YoY สำหรับงวด 9 เดือนของปีมีกำไรคิดเป็น 74% ของทั้งปี สินเชื่อขยายตัวดี 7.9%YoY, 7.3% YTD ด้าน NPL Ratio ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.8% ในสิ้นพ.ย.61 เทียบกับ 2.7% ในสิ้นส.ค.61 แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 250 บาท อิงกับ Gordon Growth Model, หรือเทียบเท่ากับ P/BV ปี 62 ที่ 2.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/BV ของ MTC และ SAWAD ที่ 5.7 เท่า และ 4.3 เท่า ตามลำดับ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆ {"ปิดบวก"เหนือ"SMA10วัน"ต่อ (แต่ยังถูกกดดันจาก"โครงสร้างขาลง - ระยะกลาง")} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้"แกว่ง"แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่"ค่าบวก" จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1650 (หรือ 1660) จุด {แนวตัดขาดทุน "ต่ำกว่า 1635" (แนวรับย่อย "1620 - 1610") จุด}

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AEONTS,TCMC,DTAC,CKP,CPALL,GFPT,CENTEL หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GOLD,DCC,BEC,BGRIM หุ้นที่หลุด List OSP,TPCH ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ CPN,MBK,BPP,MEGA,ADVANC