- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 April 2019 13:28
- Hits: 2316
บล.กสิกรไทย : Daily View
ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อโดยในสัปดาห์นี้ผู้แทนการค้าจีนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯคาดการเจรจาจะเป็นไปด้วยดี มองว่าวันนี้ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าที่เป็นไปในทิศทางที่ดี และ PMI ภาคการผลิตของจีนที่ฟื้นตัวขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อโดยในสัปดาห์นี้ผู้แทนการค้าจีนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯคาดการเจรจาจะเป็นไปด้วยดี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้น Dowjones(+0.82%) S&P500(+0.67%) Nasdaq(+0.78%) เนื่องจากนักลงทุนตอบรับความคืบหน้าการเจรจาข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวก ได้แก่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค. และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนม.ค. นอกจากนี้ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. 4.9% ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้ผู้แทนการค้าจีนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯคาดการเจรจาจะเป็นไปด้วยดี
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น WTI(+1.4%) Brent(+0.8%) โดยได้รับแรงหนุนจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าที่เป็นในทิศทางที่ดีซึ่งตลาดคาดว่าจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมันในอนาคต ขณะที่อุปทานถูกจำกัดด้วยการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และมาตรการคว่ำบาตรของทางสหรัฐฯ
ประเด็นเศรษฐกิจต่างประเทศที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ วันนี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตประจำเดือน มี.ค. ของทั้งฝั่งสหรัฐฯและยูโรโซน วันอังคารฝั่งยูโรโซนจะมีการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของเดือนก.พ. ฝั่งสหรัฐฯจะมีการรายงานสิค้าคงคลังน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ สุดท้ายวันศุกร์ติดตามอัตราการว่างงานเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ
คาดว่าวันนี้ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าที่เป็นไปในทิศทางที่ดี และ PMI ภาคการผลิตของจีนที่ฟื้นตัวขึ้น
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET Index ปิดที่ 1,638.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,658 ล้านบาท โดยกองทุนขายสุทธิ 348 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,326 ล้านบาท
สัปดาห์ที่ผ่านมา BBG consensus ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการราคาเป้าหมาย และผลประกอบการของหุ้นรายตัวซึ่งหุ้นที่มีการปรับเพิ่มทั้งราคาเป้าหมาย และผลประกอบการมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ได้แก่ STPI PTTGC TOP ส่วนหุ้นที่ถูกปรับลดทั้งราคาเป้าหมาย และผลประกอบการมีโอกาสปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ได้แก่ COM7 LH
มุมมองต่อตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมีแนวต้านที่ 1,650 จุด โดยตลาดจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าที่เป็นไปในทิศทางที่ดี และ PMI ภาคการผลิตของจีนที่ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้จะมีแรงซื้อเข้าเก็งกำไรหลัง MSCI ปรับเกณฑ์ NVDR ทำให้น้ำหนักหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.5% ก่อนที่กองทุน Passive fund จะต้องเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ดีประเด็นการเมืองในประเทศยังเป็นตัวกดดัน แต่คาดว่าตลาดจะค่อยๆให้น้ำหนักน้อยลงก่อนที่จะกลับมาให้ความสนใจอีกครั้งในวันประกาศการผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ (9 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน เน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยเร่ง ได้แก่
1. กลุ่มที่อิงกับกำลังซื้อต่างจังหวัดและผู้มีรายได้น้อย CPALL BJC
2. กลุ่มหุ้นที่อิงกับโครงสร้างพื้นฐาน AMATA STEC
3. กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มน้ำหนักของ MSCI และยังมี upside จากราคาพื้นฐาน INTUCH SCC CPN
หุ้นแนะนำ INTUCH STEC BJC
Daily Picks
Daily Picks Trading Target
INTUCH 60.00
BJC 51.00
STEC 25.50
Monthly pick
AMATA HMPRO AOT RATCH BBL SCC BGRIM STEC BJC BPP CPALL CPF
KS Daily Portfolio
KS Portfolio ถือหุ้น 3 ตัว ได้แก่ BBL IVL SCC และถือเงินสด 40%
ปัจจัยขับเคลื่อนหุ้นใน KS Daily Portfolio
IVL เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" IVL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2562 ที่ 60.00 บาท โดยเรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อ IVL จากการตั้งเป้าหมายการเติบโตของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโต 20% ในปี 2562 และจะเติบโตขึ้นเท่าตัวในช่วง 5 ปีข้างหน้า ส่วนในระยะสั้นดูเหมือนว่ากำไรของ IVL ได้ผ่านจุดต่ำไปแล้วในไตรมาส 4/2561 โดยคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้า
BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2561 ที่ 8.1 พันลบ. ลดลง 5% YoY และ 11% QoQ ด้วยสาเหตุหลักจากการบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานครั้งเดียว(ตั้งสำรองจากการจ่ายเงินชดเชยเพื่อรองรับการเปลี่ยนนโยบายเกษียณและการปลดพนักงานออกตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่) สำหรับปี 2562 เราคาดว่า NIM จะเพิ่มขึ้นจาก 2.33% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 2.37% ในปี 2562 และคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเลขหลักเดียว (single digit) ด้วยปัจจัยหนุนจากค่าธรรมเนียม bancassurance (BA), กองทุนรวม (AM) และสินเชื่อ คงคำแนะนำ "ซื้อ" BBL ด้วยราคาเป้าหมายที่ 240 บาท
SCC คาดว่า SSC จะได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มมูลค่าหุ้นและกำไรจากธุรกิจนอกกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น โดยการเติบโตของอุปสงค์การใช้ซีเมนต์ในกลุ่มประเทศอาเซียนเกือบทั้งหมดกำลังฟื้นตัว ในขณะที่กระแส e-commerce จะยังคงหนุนผลกำไรของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้นทุนพลังงานที่คาดว่าจะลดลงก็จะช่วยลดผลกระทบจากการปรับลดลงของส่วนต่างราคาปิโตรเคมีได้บางส่วน ทั้งนี้เราปรับเพิ่มเป้าหมาย PER สำหรับธุรกิจนอกกลุ่มเคมีภัณฑ์ขึ้นเป็น 19.9 เท่า เพื่อสะท้อนถึงบรรยากาศที่ดีในอุตสาหกรรมตามที่ได้กล่าวมา คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาพื้นฐาน 528 บาท
Strategist
ภาสกร ลินมณีโชติ
ศักดิ์สิทธิ์ ผลมานะ
(Assistant analyst)
KS Research Team
Kasikorn Securities PCL
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 1 เม.ย. 2562