- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 March 2019 16:31
- Hits: 1348
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
MARKET SUMMARY
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องใน PTTEP, GULF ในขณะที่กลุ่มสื่อ OOH มีแรงซื้อเด่นเช่นกันนำโดย VGI, MACO, PLANB ณ.สิ้นวัน ปิดตลาดที่ 1,629.4 จุด (-2.9 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.1 หมื่นลบ. (วันก่อนหน้า 3.8 หมื่นลบ.)
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยที่ 2,254 ลบ. (สถาบันขายสุทธิ 510 ลบ.) และเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 3,758 สัญญา
INVESTMENT THEME
ตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนับสนุน: เมื่อวานที่ผ่านมามีการแถลงร่วมลงสัตยาบัน นำโดยพรรคเพี่อไทย (137-138 เสียง), พรรคอนาคตใหม่ (87 เสียง), พรรคเสรีรวมไทย (11 เสียง), พรรคประชาชาติ (6 เสียง), พรรคเพื่อชาติ (5 เสียง) และพรรคพลังปวงชนไทย (1 เสียง) รวมทั้งหมดประมาณ 247-248 เสียง โดยคะแนนดังกล่าว ยังไม่นิ่ง เนื่องจากยังกกต.นับเพียง 95% อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พรรคเศรษฐกิจใหม่ (6 เสียง) ไม่ได้มาร่วมเมื่อวานแต่ก็ถือว่ามีโอกาสเข้าร่วม แต่มีการแถลงในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา พร้อมเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย ทำให้คาดคะแนนเสียงทั้งหมดประมาณ 253-254 เสียงในสภาล่าง เบื้องต้นเราคาดคะแนนเสียงจะอยู่บริเวณดังกล่าวไปจนกว่าจะเปิดสภาโหวตเลือกประธานส.ส.คาดในช่วงเดือนมิ.ย. ฉะนั้นเราประเมินตลาดหุ้นจะแกว่งบริเวณ 1,620/45 จุด จนกว่าเห็นความชัดเจน อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างประเทศใน 1-2 วันนี้ เราคาดเริ่มเห็นความชัดเจนเพิ่มขึ้นของการเจรจาการค้า ซึ่งหากออกมาดี กล่าวคือ ยกเลิกวงเงินภาษีบางส่วนจากระดับ 2.5แสนล้านเหรียญ อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทุนโลก อย่างไรก็ตาม แนะนักลงทุนติดตามรายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติม เช่น บางบริษัทอาจได้รับผลกระทบหากจีนเลือกที่จะเปลี่ยนเป้าหมายการนำเข้าสินค้าจากภูมิภาค Asean ไปยังสหรัฐเพื่อลดยอดเกินดุล เช่น เนื้อหมู, แผงวงจรไฟฟ้า, เม็ดพลาสติก, ผลิตภัณฑ์ยาง
สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,620/45 จุด +/- เนื่องจาก รอ 3 ปัจจัย อย่าง 1) คะแนนเสียงอย่างเป็นทางการจากกกต.ในเวลา 14.00 วันนี้ เพื่อคาดการณ์การจัดตั้งรัฐบาล 2) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 27-28 มี.ค. และ 3) การแกว่งตัวของ Bond Yield สหรัฐระยะยาวที่ถูกดดัน แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% และถือ BEM, CPALL, PTTEP
BIG ISSUE
เมื่อคืนที่ผ่านมา : จับตา กกต. ประกาศผลคะแนนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ / สภาอังกฤษลงมติเลื่อนวัน Brexit จาก 29 มี.ค. เป็น 12 เม.ย. หรือ 22 พ.ค.
STOCK PICK & TRADING IDEA
ช่วงนี้เราคาดตลาดหุ้นจะผันผวนสูงจาก ความเคลื่อนไหวทางการเมืองและกกต. เบื้องต้นเราแนะนักลงทุน Wait & see รอความชัดเจนของการประกาศผลการเลือกตั้งอีกครั้งจากกกต.ในวันพรุ่งนี้
TECHNICAL VIEW
ผันผวนในกรอบ Uptrend ย่อย อ่อนตัวไม่หลุด 1620 ยังมีโอกาสขึ้นปิด Gap: ดัชนีผันผวนตลอดทั้งวัน โดยแรงขายหลักมาจากกลุ่มพลังงาน ขนส่งและโรงพยาบาล ทำให้ดัชนียังคงดีดตัวไม่พ้นแนวต้าน Gap ที่ 1637 ระยะสั้นหากอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับ 1620-1625 ของกรอบ Uptrend ย่อย มองว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นปิด Gap ที่ 1637 และ 1645 โดยขณะนี้จังหวะ Rebound ระหว่างวันยังเน้นพิจารณาแรงขายตามแนวต้าน 1637 และ 1645 หากยังมีมากแนะนำขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ขึ้นทดสอบแนวต้านระหว่างวัน มองเป็นโอกาสขายหุ้นเพื่อเล่นรอบ 2) ไม่มีหุ้น: ทยอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน และเน้นเป็นเพียงการ Trading เล่น Rebound
แนวรับ : 1613, 1620 แนวต้าน : 1637, 1645
EYES ON
ปัจจัยต่างประเทศ : 27-28 มี.ค. สหรัฐบินเจรจาการค้ากับจีน
ปัจจัยในประเทศ : เช้านี้จับตาพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆ แถลง
หุ้นเทคนิค :
SAWAD (51.50-52.50, Tp 55.00//57.00, Cut 51.00
NWR (0.86-0.88, Tp 0.94//1.00, Cut 0.85)
5 ข่าวเด่นเช้านี้
TU
ดันบริษัทย่อย TFM เข้าตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เป็นการ Unlock value ของ TFM ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดี ทำให้มีความคล่องตัวในการขยายธุรกิจมากขึ้น ขณะที่ TU จะมีสัดส่วนถือหุ้น TFM ลดลงจาก 66.9% เป็น 51% โดยจะยังรวมงบการเงินของ TFM และมีอำนาจควบคุมอยู่เหมือนเดิม จึงคาดว่าส่งผลกระทบจำกัดต่อกำไรของ TU อีกทั้งคาดกำไรจากการขายหุ้นจะบันทึกในงบเดี่ยว ไม่ได้บันทึกในงบรวมของ TU แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท
ZEN
รุกร้านเล็กเจาะตึกแถว-ปั๊มน้ำมัน (กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น : อิงข้อมูลจาก Opportunity day บริษัทเน้นกลยุทธ์เชิงรุก ตั้งเป้าขยาย +123 สาขา +93%YoY จากปัจจุบัน 132 สาขา ประกอบด้วย สาขาตนเอง 36 สาขา และ Franchise 87 สาขา โดยมากกว่าครึ่งมาจากแบรนด์ "เขียง" ที่เป็นร้านอาหารตามสั่ง ขนาดเล็กขยายตัวไปกับปั๊มน้ำมัน โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ ขยายตัว 15-20%YoY ล่าสุด 1Q62 แนวโน้ม SSSG ติดลบ low single digit จากผลกระทบเรื่องฝุ่นในเดือนม.ค.
WICE
มั่นใจรายได้โต 25% (กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น : ในปี 2562 การเติบโตจะมาจากการขยายเครือข่าย network ในจีน ระหว่างปี 2561 ทำให้ในแง่รายได้จะยังคงเห็นการเติบโตต่อ อย่างไรก็ดี แรงกดดันเรื่องสงครามการค้ายังคงมีอยู่ แนะ สะสม ซื้อ 5.20 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ
Research Department Tel. 02-658-5000