SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1617-36 นลท. “Risk-off” ห่วงศก.โลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังตลาดบอนด์สหรัฐฯ เกิด Inverted Yield Curve ในพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 3 เดือน รวมทั้งผิดหวังแถลงการณ์ กกต.ยังไม่สร้างความชัดเจนผลเลือกตั้ง ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.64 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 16,346 สัญญา 

 

หุ้นโลกเมื่อวาน (25 มี.ค.) เริ่มยืนได้-ปิดทรงตัว +/- เล็กน้อย โดยดัชนี DJ ปิดบวกจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นโบอิ้ง หลังบริษัทเชิญนักบินและบุคลากรทางเทคนิคทั่วโลกชี้แจงเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระบบควบคุมการบินในเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลการสอบสวนของอัยการพิเศษสหรัฐฯ ที่ไม่พบว่าทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์สบคบคิดกับรัสเซียในการแทรกแซงการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในปี 2016 มอง SET มีโอกาสดีดกลับทางเทคนิค นลท.น่าจะรู้สึกผ่อนคลายบ้าง หลังอัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรยังไม่ส่งสัญญาณเลวร้ายเพิ่ม ด้านเงินบาทมีทิศทางที่แข็งค่าหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางการเมืองภายในปท. เพียงแต่ยังต้องรอความชัดเจนของการจับขั้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในระยะถัดไป โดย กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. 350 เขตอย่างไม่เป็นทางการแล้ว แต่ยังไม่ประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 150 ที่นั่ง รอรับรองผลอย่างเป็นทางการ ส.ส. ครบทั้ง 500 ที่นั่งภายใน 9 พ.ค. นี้ ผสานกับแรงซื้อเก็ง “Window Dressing” ซึ่งตามสถิติ Q1 มีโอกาสเกิด 70% และให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 0.6% อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากภาพรวม นลท.ยังระมัดวังการลงทุนอยู่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของศก.ทั่วโลก และความไม่แน่นอน Brexit แนวรับ 1620+/-, 1610-12 แนวต้าน 1630-35 

 

 

มองการปรับตัวลงของ SET เป็นโอกาสดีในการทยอยซื้อ เชื่อความชัดเจนของการรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. และการจัดตั้งรัฐบาลจะค่อยชัดเจนขึ้น คาดจะช่วย SET ปรับขึ้นในระยะถัดไป, ใช้ Stop ที่ SET ปิดต่ำกว่า 1625

•    ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick STEC – ผลกำไรเริ่มเข้ามาดีต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังปีที่แล้วจากการรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการใหม่ที่เร่งตัวขึ้น เรามองแนวโน้มกำไรปีนี้ในเชิงบวก ทั้งจากงานในมือที่มีสูงถึง 1.2 แสนลบ. และการประมูลงานใหม่ ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว, เป้าพื้นฐาน 29 บ. / เราคาดกลุ่มแบงก์มีกำไรรวม 1Q19F ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 24% QoQ โดย BAY จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดเนื่องจากมีรายการขายเงินลงทุน “เงินติดล้อ” แต่เราแนะนำ “ถือ” ขณะที่หุ้นแบงก์ที่เราชอบสุด คือ BBL (เป้าพื้นฐาน 235 บ.), KBANK (231 บ.) / หุ้นคาดได้ประโยชน์จาก MSCI เปลี่ยนกฎใหม่ – SCC, BDMS, INTUCH, CPN, RATCH, LH, BANPU, CENTEL, DTAC / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing เด่น AEONTS, HMPRO, MINT, SEAFCO, VGI / หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะได้ร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม การบริโภค CPALL, BJC, CPN, AEONTS, RS การลงทุน AMATA, WHA, STEC, SEAFCO, BTS, BEM / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรและเป้าราคาหุ้นขึ้น – GGC, JWD, MAJOR, MINT, NWR, RS, S, SQ, STEC / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP

•    หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) BDMS, BEM, DTAC, JWD, MAJOR, RATCH, RS, SCC, STEC 

 

25-29 มี.ค.    TH    อาจมีการทำราคาปิด Window Dressing

26 มี.ค.    TH    ผลผลิตภาคอุตฯ และอัตราการใช้กำลังการผลิตไทยใน ก.พ.

    US    คำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ใน ก.พ.(เบื้องต้น), ดัชนีชี้วัดภาคอุตฯ Richmond ใน มี.ค.

    US    ดัชนีราคาบ้าน FHFA, S&P/CaseShiller ใน ม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในมี.ค.

27 มี.ค.    CH, US    ผลกำไรภาคอุตฯ จีนใน ก.พ., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ใน ก.พ. (เบื้องต้น)

ที่มา : Bloomberg, TISCO Research