- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 March 2019 14:21
- Hits: 2461
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบกว้างหลังนักลงทุนยังจับตาความชัดเจนจากบทสรุปรูปแบบการจัดตั้งรัฐบาลผสม ขณะที่ตลาดมีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP ลง ขณะที่ Sentiment ต่างประเทศเป็นลบ หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจเขาสู่ภาวะชะลอตัว ประเมิน SETเคลื่อนไหวในกรอบ1,610-1,635 จุด
Market Factors
• (-) นักลงทุนยังคงกังวลภาวะ ศก. ที่ชะลอตัวและภาวะ Inverted Yield Curve หลัง Yield ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ10 ปียังต่ำกว่า Yield ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ3 เดือนอยู่ 1.6 bps
• (-) สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลง 0.4% DoD ปจบ.อยู่ที่ระดับ US$ 58.82/barrel เนื่องจาก นลท.กังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากประกาศตัวเลขดัชนี PMI ต่ำกว่าคาด ทั้งสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป
• กกต. รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 95% รวม 350 เขต 77 จังหวัด โดยพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง ส.ส.มากสุด 138 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคพลังประชารัฐ 96 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 39 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 33 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ 30 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 6 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 6 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 1 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 ที่นั่ง (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 25 มี.ค. 16:00 น.)
• (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนลท.ต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน MTDต่างชาติขายสุทธิ 16,203.62 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้มองทิศทางของ SET Index ผันผวน จับตาบทสรุปของรัฐบาลผสม สัดส่วนจำนวน ส.ส. ระหว่างพรรคฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะบ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงสิ่งที่นักลงทุนต้องระวังคือความเสี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจหลังธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 62 โตลดลงเหลือ 3.8% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 4.0%ดังนั้นมอง SET Index มีความผันผวนสูง โดยดัชนีมีแนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,635 จุดมองหากดัชนีย่อเป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
• กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง: กลุ่มค้าปลีก (มองได้อานิสงส์บวกจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคการเมืองหลักทั้ง 4 นำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของค่าแรงขั้นต่ำใหม่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 330 บาทต่อวัน ราว 25-26.9% คาดหนุนกำลังซื้อกลุ่ม รากหญ้าให้ปรับตัวดีขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ CPALL, AEONTS), กลุ่มท่องเที่ยว (คาดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ AAV, AOT, PLAT) และกลุ่มสื่อ (คาดเอเจนซี่ที่ชะลอการใช้เม็ดเงินในช่วงก่อนหน้าจะกลับมาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแนะนำกลุ่มที่เห็นสัญญาณบวกจากส่วนแบ่งในเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ได้แก่ กลุ่มดิจิตอลทีวี (เพิ่มจาก 62.7% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 64.8%) แนะนำ RS, BEC และกลุ่ม Out of Home (เพิ่มจาก 12.2% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 13.7%) แนะนำ VGI
• Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62 เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
• กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoY จากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการ Wellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
SET100 Top Overvalued Gainer/ Undervalued Loser
• หุ้น SET100 ที่เป็น Top Gainer แต่ราคาหุ้น Overvalued เทียบกับ Bloomberg Median Consensus : CBG (+83.7%YTD, Downside 9.5%), DTAC (+16.8%YTD, Downside 1.6%) และ GULF (+11.7%YTD, Downside 6.1%)
• หุ้น SET100 ที่เป็น Top Losers แต่ราคาหุ้น Undervalued เทียบกับ Bloomberg Median Consensus : STA (-11.3%YTD, Upside 25.0%), IVL (-11.1%YTD, Upside 40.7%) และ ROBINS (-10.2%YTD, Upside 27.3%)
25-Mar-19 Change (pts.) 22-Mar-19
SET Index 1,625.91 -20.38 1,646.29
SET50 Index 1,083.05 -15.80 1,098.85
SET100 Index 2,384.14 -34.01 2,418.15
High 1,636.93 Gainers 317
Low 1,617.89 Unchanged 303
Value (Bt m) 47,064.83 Losers 1,221
Volume (*000) 13,722,656
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.8 13.5 13.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 7.6
EV/EBITDA (x) 10.0 9.4 9.1
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.3 3.5 3.9
ROE 11.5 11.7 11.5
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 25-Mar-19 WTD MTD YTD
Institution (856.76) (856.76) 7,385.76 34,149.09
Proprietary (1,188.68) (1,188.68) (2,284.03) 1,661.57
Foreign (1,642.45) (1,642.45) (16,203.65) (12,892.16)
Individual 3,687.90 3,687.90 11,101.92 (22,918.49)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary