- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 March 2019 15:09
- Hits: 3229
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
MARKET SUMMARY
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงานนำโดย PTTEP, TOP และโรงไฟฟ้า GULF, EA ณ.สิ้นวัน ปิดตลาดที่ 1,634.0 จุด (+6.3 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.9 หมื่นลบ. (วันก่อนหน้า 3.6 หมื่นลบ.)
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 757 ลบ. (สถาบันซื้อสุทธิ 3,217 ลบ.) แต่เปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 4,373 สัญญา
INVESTMENT THEME
จับตาผลการเลือกตั้งไทย 24 มี.ค. : วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ ประเทศไทยจัดการเลือกตั้งส.ส. เบื้องต้นเราคาดจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิในครั้งนี้จะสูงกว่า 80% โดยครั้งนี้ประชากรไทยมีสิทธิเลือกตั้งสูงกว่า 50.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 40.6 ล้านเสียง (เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิสูงกว่า 86% และหากเทียบกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2011 ที่ 75%) ซึ่งหากนำมาคำนวณจากจำนวน ส.ส. 500 คน จะได้เสียงประมาณ 81,200 เสียงต่อหนึ่งส.ส. เบื้องต้นเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 2 Cases ได้แก่ 1) หากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสามารถรวมคะแนนเสียงพรรคร่วมได้มากกว่า 376 เสียง เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น 2) หากรวมกลุ่มพรรคได้คะแนนเสียงมากกว่า 251 แต่ไม่ถึง 376 และไม่ได้เสียงสนับสนุนจากส.ว.ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อาจเป็นลบต่อตลาดหุ้น (การบริหารงานสภาบนและสภาล่างโดยคนละกลุ่มพรรคอาจส่งผลต่อการขัดแย้ง อย่างที่เห็นในฝั่งสหรัฐเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา) อย่างไรก็ตามเราประเมินว่านักลงทุนจะเริ่มเห็นการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงเดือนพ.ค. ฉะนั้นในระยะสั้นหากคะแนนเสียงของ 2-3 พรรคใหญ่ ไม่ต่างกันมาก คาดตลาดแกว่งในกรอบ 1,620-1,680 จุด เพื่อรอดูการจัดตั้งรัฐบาล ในระหว่างนี้เชิงกลยุทธ์ เราแนะทยอยสะสม กลุ่มที่คาดได้รับผลจำกัด ต่อผลการเลือกตั้ง ได้แก่ 1) กลุ่มการบริโภค 2) กลุ่มการท่องเที่ยว
สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : เราประเมินกรอบการแกว่งตัว SET บริเวณ 1,620-1,680 จุด โดยคาดว่าจะเป็นเดือนที่มีความผันผวนสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยการเมืองโลก/ในประเทศ คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเน้นลงทุนในกลุ่มไฟฟ้า (EGCO) , รถไฟฟ้า (BEM) กลุ่มท่องเที่ยว (SPA) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL) และเลือก PTTEP เป็นตัวแทน Global play
BIG ISSUE
เมื่อคืนที่ผ่านมา : ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. เติบโต 5.9% ดีกว่าคาด
STOCK PICK & TRADING IDEA
ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ PTTEP ราคาเหมาะสม 150 บาท ไม่รวม Upside จาก Murphy มูลค่าประมาณ 8.10 บาท/หุ้น คาด EBITDA เพิ่มประมาณ 15% ในปี 2020 โดยสินทรัพย์ Murphy มีปริมาณปิโตรเลียมสำรอง (2P) 274 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (MMBOE) คิดเป็น 27% ของปริมาณปิโตรเลียมสำรองของ PTTEP โดยสัดส่วนของ Murphy เป็นของเหลว 37% และก๊าซฯ 63% ทำให้โครงสร้างปริมาณสำรองของ PTTEP มีของเหลวเพิ่มขึ้นเป็น 27% จาก 25% ณ. สิ้นปี 2018 โดยก๊าซฯ ลดสัดส่วนเหลือ 73% (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม)
เพิ่มปริมาณขาย 7.5% และ 14.8% ให้ PTTEP ในปี 2562-2563
TECHNICAL VIEW
ระหว่างวันหากย่อไม่หลุด 1630 ยังคาดหวังการ Break แนวต้าน 1640 ได้: ดัชนี Break แนวต้านกรอบ Downtrend จากแรงซื้อหลักหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารและธนาคาร แต่ยังคงไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1640-1645 ได้ ขณะนี้มองว่าระหว่างวันหากดัชนีอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับ 1630 คาดยังมีโมเมนตัมส่งต่อขึ้นผ่าน 1640-1645 ได้ แต่หากผิดคาดหลุดแนวรับดังกล่าวดัชนีจะเกิดเป็น False Break และกลับไปแกว่งในกรอบ Downtrend อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายลดพอร์ตตามแนวต้าน แต่หากหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น: ทยอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน และเน้นเป็นเพียงการ Trading เล่น Rebound เท่านั้น
แนวรับ : 1623, 1630 แนวต้าน : 1640, 1660
EYES ON
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตา EC พิจารณายืดเวลา Brexit
ปัจจัยในประเทศ : 24 มี.ค. เลือกตั้งประเทศไทย
หุ้นเทคนิค :
IVL (48.00-48.50, Tp 50.50//52.00, Cut 47.00
OSP (26.50-27.00, Tp 28.25//29.00, Cut 26.00)
5 ข่าวเด่นเช้านี้
GLOBAL
ลุ้นกำไรนิวไฮรุกขยายสาขาใน-นอก (ทันหุ้น)
ความเห็น : คาดกำไร 1Q62 แข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของการขายจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับรายได้หลังฤดูเก็บเกี่ยว อีกทั้งการจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้ง โดย SSSG คาดจะอยู่ที่ประมาณ 5% และขยายสาขา แนะนำ Trading เป้าหมาย 20 บาท
รับเหมา
'ซีพี-บีทีเอส' ชิงเดือด 'อู่ตะเภา' (กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น : โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก 2.9 แสนล้านบาท มี 3 กลุ่ม มีบริษัทรับเหมาในตลาด คือ 1.) ITD CK จับมือกับ กลุ่มซีพี 2.) STEC จับมือกับกลุ่ม BTS 3.) CNT จับมือกับ แกรนด์ แอสเสท หลังจากนั้นจะพิจารณา คุณสมบัติ เทคนิค ราคา และ ข้อเสนอเพิ่มเติม โดยคาดจะได้ผู้ชนะการประมูลเดือน เม.ย. จะลงนามในเดือน พ.ค.-มิ.ย. แต่ปกติการเจรจาจะมีความล่าช้า ถ้าล่าช้าจนเปลี่ยนรัฐบาลใหม่อาจจะมีผล เราให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด แนะนำเก็งกำไรช่วงอ่อนตัวใน STEC (เป้าหมาย 29 บาท) และ NWR (เป้าหมาย 1.3 บาท)
SCC
ไล่ซื้อกิจการอาเซียนส่องกลุ่มแพ็กเกจจิ้งโต (ทันหุ้น)
ความเห็น : กลุ่มแพ็กเกจจิ้งเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดี แต่สัดส่วนกำไรยังต่ำเพียง 15% เราคาดกำไร SCC ปีนี้จะเติบโตได้เล็กน้อย แรงหนุนธุรกิจปูนซีเมนต์ที่ฟื้นตัว และ เพจเกจจิ้งที่โตต่อเนื่อง เรามองกระแส Fund Flow ต่างชาติที่กลับทิศมาซื้อจะเป็นบวกต่อSCC ประเมินราคาเป้าหมาย 490 บาท แนะนำ ซื้อ ในช่วงอ่อนตัว
VGI
ร่วมทุน AnyMind Group จัดตั้งบริษัทพัฒนาสื่อโฆษณา (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : VGI นอกจากจะเดินหน้าธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านแล้ว ยังกำลังเจาะเข้าไปในกระบวนการผลิต และ การเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (Vertical Integration) ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ VGI ยกระดับเหนือกว่าคู่แข่งในการสามารถเป็น One stop service ได้ แนะนำ ซื้อ 10.20 บาท
ATP30
ส่งสัญญาณงบ Q1 ผงาดเปิดกรุรับทรัพย์ลูกค้าใหม่เต็มที่ (ทันหุ้น)
ความเห็น : เป็นไปตามประมาณการของเราแล้ว โดยปี 2563 เราคาดว่า ATP30 จะมีกำไร all time high ติดต่อกันอีกปีที่ 54 ลบ. +32% YoY โดยจุดแข็งมากๆ คือ การทำ กระแสเงินสดได้มากอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันสามารถควบคุมได้ดีมาก แนะนำ ซื้อลงทุน 2.20 บาท/ หุ้น
Research House 02 658 5000
นักกลยุทธ์ : สรพล วีระเมธีกุล | วิจิตร อารยะพิศิษฐ