- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 March 2019 16:53
- Hits: 1288
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด น้ำมันปรับขึ้นดี รอผลเลือกตั้ง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GOLD (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้พลิก -2.47 จุด ปิดที่ 1627.62 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่ 36.5 พันล้านบาท ดัชนีบ้านเราปรับลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคแถบนี้ รับข่าวพัฒนการเจรจาการค้าที่ด้อยลง หลังมีข่าวจีนไม่ยอมรับเงื่อนไขบางประการ แม้กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ย และเป็นที่คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน และรอดูผลการเลือกตั้งของไทย ผู้ซื้อสุทธิคือ สถาบัน 1.4 พันล้านบาท และรายย่อย 0.4 พันลบ. สำหรับผู้ขายสุทธิเป็นนักลงทุนต่างชาติ 1.4 พันลบ.และพอร์ตโบรกเกอร์ 0.4 พันลบ. ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิแล้ว 12.8 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET อาจมีโมเมนตัมบวก เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด สิ่งที่ดีคือ จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตลอดปีนี้ น้ำมันปรับขึ้นดี ผลของเฟด ดอลลาร์อ่อนมาก บาทแข็งบอนด์ยิลด์สหรัฐดิ่งลงเป็น 2.5254% ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านส่วนใหญ่เปิดมาบวก ดาวโจนส์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น
# ปัจจัยที่มีโอกาสหนุนนำดัชนีฯช่วงปลายเดือนนี้ คือ การเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยจาก MSCI มาช่วย หลังนำ NVDR มาร่วมคำนวณ รวมทั้งการปิดไตรมาส 1/62 จะมีWindow Dressing หรือไม่ และความกังวลเรื่องการขึ้นค่าแรงจากพรรคพลังประชารัฐผ่อนคลายลง หลังมีคำชี้แจง กิจกรรมการซื้อขายในตลาดฯไม่คึกคัก เพราะรอผลเลือกตั้งไทย และการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีเสถียรภาพหรือไม่ ผลเจรจาการค้า และ Brexit
# กลยุทธ์ คือ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1635-1640 จุด แต่หากกลับมีแรงขาย แนวรับเป็น 1620,1610 จุด ไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนสูง กนง.วานนี้ คงดอกเบี้ยเป็นเอกฉันท์ แต่ปรับลดตัวเลขส่งออก และ GDP ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม โดยมีดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1750 จุด (+0.9 SD ที่P/E 16.7 เท่า) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรของตลาดฯปี 62 ที่ +8% y-o-y แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือAOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
หุ้นเด่น ADVANC : ปี 62 คาดรายได้หลักโตเป็นเลขหลักเดียวระดับกลาง ด้านค่าใช้จ่ายการตลาดยังสูง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายลูกค้าใหม่ แต่การใช้เงินลงทุนลดลง เพราะ Peak ไปแล้วในปี 60 ที่ลงทุนอุปกรณ์ 4G จำนวนมาก ทั้งนี้บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน มีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ (ปรับจากให้บริการมือถือเป็นให้บริการดิจิตอล) ทำให้ยั่งยืนในระยะยาว คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี ปี 62 เป็น 4% แนะนำซื้อเพื่อการลงทุน ด้วยราคาพื้นฐานเป็น216.00 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นลบเล็กๆ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นที่จะมีรีบาวด์ฯก่อนได้ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”เล็กน้อย,อีกครั้ง (โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่ “ค่าบวก”จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1635 – 1640 (หรือ 1645) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1625” (แนวรับย่อย “1620 – 1610”) จุด}สำ หรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ DCC,STPI,BDMS หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GOLD,BBL,BGRIM,RATCH,TCAP หุ้นที่หลุด List คือPTTGC,BJC ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ PLANB,SPRC,VNT
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : DCC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.50)
GOLD (ถือ -ราคาพื้นฐาน 10.86)
RJH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 24.00)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : ติดตาม GSC จะเข้าเกณฑ์ติด Cash Balance หรือไม่
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด มีแนวโน้มไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
# คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากเดิมที่ระบุในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
# ทั้งนี้ เฟดระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ยกเว้นสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่วนในปีหน้า เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ระบุไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
# นอกจากนี้ แถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดจะชะลอการปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. จากระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะยุติการปรับลดงบดุลในเดือนก.ย.
+ สหรัฐ: หุ้นเทคโนโลยีปรับขึ้นดี
# หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.01% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 2.4% ส่วนหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลพุ่งขึ้น 2% แม้มีรายงานข่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) มีคำสั่งให้กูเกิลจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 1.49 พันล้านยูโร ในข้อหาขัดขวางการแข่งขันในภาคโฆษณาในตลาดออนไลน์
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับลง เทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.67 จุด ลดลง 141.71 จุด หรือ -0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,824.23 จุด ลดลง 8.34 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,728.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด หรือ +0.07%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งเป็นหุ้นมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มขนส่งร่วงลงหลังจากบริษัทเฟดเอ็กซ์ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562 เนื่องจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบของสงครามการค้
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับขึ้นดี สต็อคสหรัฐร่วงลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 59.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 68.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับลง ตลาดปิดก่อนรู้ผลเฟด
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่1,301.70 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะแถลงมติการประชุม
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสัปดาห์นี้
# นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ปรับลดประมาณการ เงินเฟ้อ ส่งออก และ GDP
# กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% แต่คะแนนโหวตต่างจากเดิม คราวนี้ให้คงไว้ทั้งหมดคือ 7 เสียง แต่ครั้งที่แล้วก.พ.62 คงไว้:ปรับชึ้นเป็น 4:2 สะท้อนการมองเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจไทยชะลอลง จึงมีแนวโน้มว่า กนง.จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกนาน
# ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดว่าเป็น 1.0% และปี 63 ที่ 1.1% สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปีนี้ปรับลดเป็น 0.8% จากเดิม 0.9% ส่วนปี 63 เป็น 0.9%
# สำหรับอัตราการเติบโตส่งออกปีนี้ปรับลดเป็น +3.0% จากเดิม +3.8% ส่วนปี 63 เป็น +4.1%
# ส่วนอัตราการเติบโต GDP ปีนี้ปรับลดเป็น +3.8% จากเดิม +4.0% ส่วนปี 63 เป็น +3.9% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้ว่าจะชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง แต่อุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง
+ คาด MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย หลังจากนำ NVDR เข้าคำนวณ
# MSCI: ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ลุ้น MSCI Index ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยจาก 2.5% เป็น 3% ในช่วงราว 29 มี.ค.62 นี้มั่นใจช่วยดึงเงินต่างชาติไหลกลับ ด้านโบรกฯคาดฟันด์โฟลว์เข้ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมแนะ 4 หุ้นที่จะได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบเดือนพ.ค.62 INTUCH, DTAC, RATCH และ CENTEL (ข่าวหุ้น 7 มี.ค.62 )
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]