- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 September 2014 16:38
- Hits: 1826
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ SMA 5วัน 1,587
Technical : แนวรับ : 1,587 /1,577 แนวต้าน : 1,592 / 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ : CPN แนวรับ 46.5 / 46 แนวต้าน 49 / 50.25
หุ้นเด่นรายวัน : KAMARTS
วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดบวกแต่ไม่มาก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,591.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด(+0.11) มูลค่าการซื้อขาย 52,051.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 4,622.84 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 ตลาดยังขาดปัจจัยทั้งด้านลบและด้านบวกใหม่เข้ามากระทบ แต่แรงซื้อสุทธินักลงทุนต่างชาติเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นและมีโอกาสเป็นสัญญาณชี้นำการผ่านยืนแนวต้านจิตวิทยา 1,600 โดยความมั่นใจหรือความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสัปดาห์หน้า ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนสร้างจุดสูงใหม่(1,067.88)แต่ไม่สามารถปิดเหนือ โดยการเรียงตัวแท่งเทียนยังคงเป็นการแกว่งตัวขึ้นตามSMA5วัน 1,059 เน้นยืนแนวรับเป็นหลัก GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,650-18,950 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,710-19,010
กลยุทธ์ แรงขายทำกำไรกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะBBLที่กังวลเรื่องการปรับลดน้ำหนัก (การปรับตัวแนะนำเข้าซื้อ) และกลุ่มสื่อสารที่ปรับขึ้นมามาก เป็นแรงกดดันการปรับตัวทดสอบแนวรับ 1,587-1,585 ซึ่งเป็นจุดแนวรับที่คาดจะเกิดการกลับตัวขึ้นทางเทคนิค กลุ่มอสังหาฯ CPN ESTAR PF TFD กลุ่มอาหาร SST TUF กลุ่มเหล็กซื้อระยะสั้นเพื่อเล่นรอบ SAM MAX กลุ่มวัสดุก่อสร้าง GEL TASCO SCCC RCI กลุ่มพลังงาน BANPU RATCH SUSCO หุ้นรายหลักทรัพย์ IFEC MAX TMB ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
CPN (ราคาปิด 47.25 ซื้อ เป้าหมาย 65 บาท) ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกให้เช่าที่มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เป้าการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 15% ต่อปี รายได้ในอนาคตมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ให้เช่าและการปรับขึ้นของอัตราค่าเช่า กำไรครึ่งปี 57 เท่ากับ 3,552 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15%YoY โดยคิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 57 ที่ 7.4 พันล้านบาทซึ่งเติบโตราว 18%YoY โดยยังมี upside ได้อีกจากการขายเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ตเข้ากองทุนรวม CPNRF ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปราว 3Q57ว่าจะบันทึกครั้งเดียวหรือทยอยตัดจ่ายตลอดอายุเช่า 30 ปี สำหรับปี 58 ฝ่ายวิจันคาดการณ์ว่ากำไรปกติจะเติบโตราว 18%YoY เป็น 8.8 พันล้านบาท
หุ้นเด่นรายวัน
KAMART (ปิด 6.80 ซื้อเก็งกำไรConsensus 7.50) ราคาซื้อขายยังถูกกว่าเมื่อเทียบกับ BEAUTY โดยปัจจุบัน KAMART ซื้อขายบน PE ปีนี้ที่ 22 เท่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ BEAUTY ซึ่งมี PE สูงถึง 34 เท่า ด้านผลประกอบการคาดกำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรกหลังจากประชาชนเริ่มมีความมั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองจึงกล้าใช้จ่ายกันมากขึ้น ส่วนปีหน้าคาดกำไรสุทธิยังเติบโตต่อเนื่องจากช่องทางการขยายสาขา และการรุกตลาดต่างประเทศ อาทิ พม่า เวียดนาม และ จีน
S (ราคาปิด 8.05 ซื้อเก็งกำไร) บมจ.สิงห์ เอสเตท เดิมชื่อ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (RASA) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันนี้เป็นวันแรก (26 ก.ย.) หลังจากเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบจ.เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ และบริษัท สันติบุรี จำกัด ของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 264.26 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 264.26 จุด เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อการชะลอตัวของภาคการผลิตหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. ลดลง 18.2% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 18% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในรัสเซีย หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียได้ยื่นร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อขออนุมัติการยึดทรัพย์สินของต่างชาติที่อยู่ในดินแดนรัสเซีย ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 264.26 จุด หรือ -1.54% ปิดที่ 16,945.80 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 88.47 จุด หรือ -1.94% ปิดที่ 4,466.75 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 32.31 จุด หรือ -1.62%ปิดที่ 1,965.99 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 27 เซนต์ ตลาดได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกับตลาดหุ้นวอลสตรีทคือนักลงทุนผิดหวังกับรายงานตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.ก็ปรับตัวลดลงจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 59.5เป็น 58.5 นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ เพราะการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 92.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 97 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์