- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 March 2019 16:21
- Hits: 3338
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาดดัชนี SET ฟื้นตัว หนุนด้วยปัจจัยบวกจาก ตปท. ราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อหลัง OPEC ส่งสัญญาณลดกำลังการผลิต บวกกับดัชนีความกลัวที่ปรับลดลง (VIX Index) ในช่วงรอผลการประชุม FED คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,625
Market Factors
• (Watch)จับตาการประชุม FED เกี่ยวกับสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยการประชุมครั้งนี้ในวันที่ 19-20 มี.ค. คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25-2.50% จาก Impled Prob. ที่ระดับ 97.7%
• (Watch) นับถอยหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. เพื่อรอดูความคืบหน้า และทิศทางการบริหารงานของรัฐบาลใหม่
• (Watch) จับตาผลประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับทิศทาง และความเห็นต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบาย
• (Watch) VIX Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 13.1 แสดงให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงโดยปรับลดลง 48.47% YTD และ ลดลง 3.46% MTD
• (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน Month to date ต่างชาติขายสุทธิ 15,287.6 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้มอง SET Index ได้อานิสงส์จากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน เพราะเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. นี้คาดจะทำให้ลดความกังวล Political Risk พร้อมกับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น หนุนให้ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนั้นมอง SET Index มีแรงซื้อกลับในช่วงปลายเดือนมองภาพรายเดือนดัชนีมีแนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,675 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
• กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง:กลุ่มค้าปลีก (มองได้อานิสงส์บวกจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคการเมืองหลักทั้ง 4 นำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของค่าแรงขั้นต่ำใหม่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 330 บาทต่อวัน ราว 25-26.9% คาดหนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าให้ปรับตัวดีขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ CPALL, AEONTS), กลุ่มท่องเที่ยว (คาดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ AAV, AOT) และ กลุ่มสื่อ (คาดเอเจนซี่ที่ชะลอการใช้เม็ดเงินในช่วงก่อนหน้าจะกลับมาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแนะนำกลุ่มที่เห็นสัญญาณบวกจากส่วนแบ่งในเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ได้แก่ กลุ่มดิจิตอลทีวี (เพิ่มจาก 62.7% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 64.8%) แนะนำ BEC และกลุ่ม Out of Home (เพิ่มจาก 12.2% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 13.7%) แนะนำ VGI
• Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoY แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
• กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
18-Mar-19 Change (pts.) 15-Mar-19
SET Index 1,617.57 -8.00 1,625.57
SET50 Index 1,074.63 -5.38 1,080.01
SET100 Index 2,367.28 -12.95 2,380.23
High 1,630.45 Gainers 360
Low 1,612.85 Unchanged 404
Value (Bt m) 38,474.99 Losers 1,029
Volume (*000) 13,554,993
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.7 13.5 13.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 7.4
EV/EBITDA (x) 9.9 9.3 9.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.3 3.5 3.9
ROE 11.5 11.7 11.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 18-Mar-19 WTD MTD YTD
Institution 177.33 177.33 625.65 27,388.98
Proprietary (853.43) (853.43) (1,100.17) 2,845.44
Foreign (1,016.45) (1,016.45) (15,287.62) (11,976.14)
Individual 1,692.55 1,692.55 15,762.14 (18,258.28)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary