WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASPบล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์การลงทุน    
 
วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562
ตลาดยังกังวลต่อการเมืองหลังเลือกตั้ง กับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามสถิติ 4 ครั้งที่มีการเลือกตั้ง บ่งบอกว่าตลาดหุ้นจะตอบรับด้านบวกก่อนและหลังเลือกตั้ง 1-2 วัน ขณะที่เชื่อว่ายังมีแรงหนุนรายหุ้นที่คาดว่ากำไร 1Q62 จะฟื้นตัว/สดใส  (SCC, SCCC, BCH, PTTGC, TOP, IRPC) หรือ Turnaround (SAPPE, STPI, TTCL) Top picks เลือก  STPI([email protected]) และ PTTEP(FV@B168) ราคาหุ้น Laggard สวนทางราคาน้ำมันที่ยืนเหนือสมมติฐานของ ASPS ที่กำหนดไว้ 65 เหรียญฯต่อบาร์เรล
        SET Index    1,617.57
        เปลี่ยนแปลง (จุด)    -8.00
        มูลค่าการซื้อขาย (ล้านบาท)    38,475
            
ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย … SET Index แกว่งทรงตัวในแดนลบตลอดวัน
วานนี้ SET Index แกว่งทรงตัวในแดนลบตลอดวัน จนทำให้ปิดที่ระดับ 1617.57 จุด ลดลง 8.00 จุด (-0.49%)  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.84 หมื่นล้านบาท จากประเด็นความไม่แน่นอนเรื่องการเมือง โดยหุ้นกลุ่มที่กดดันตลาดคือ กลุ่มค้าปลีก BEAUTY(-3.70%) CPALL(-1.66%) ROBINS(-3.78%) กลุ่มพลังงาน GPSC(-2.59%) PTT(-1.04%) รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ AOT(-1.47%) CPF(-1.89%) และ DTAC(-1.90%)
แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสย่อตัวต่อ แต่น่าจะมีแนวรับ 1605-1610 จุด แม้ตลาดยังกังวลต่อ  การเมืองหลังเลือกตั้ง กับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามสถิติ 4 ใน 5 ครั้งที่มีการเลือกตั้ง บ่งบอกว่าตลาดหุ้นจะตอบรับด้านบวกก่อนและหลังเลือกตั้ง 1-2 วัน  ขณะที่เชื่อว่ายังมีแรงหนุนรายหุ้นที่คาดว่ากำไร 1Q62  จะฟื้นตัว/สดใส  (SCC, SCCC, BCH, PTTGC, TOP, IRPC) หรือ Turnaround (SAPPE, STPI, TTCL) Top picks เลือก  STPI([email protected]) และ PTTEP(FV@B168) ราคาหุ้น Laggard สวนทางราคาน้ำมันที่ยืนเหนือสมมติฐานของ ASPS ที่กำหนดไว้ 65 เหรียญฯต่อบาร์เรล         
Fed เดินหน้าใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย กดดันดอลลาร์อ่อนค่า  
ปัจจัยต่างประเทศวันนี้ตลาดให้น้ำหนักการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) 19-20 มี.ค. คาดคงดอกเบี้ยที่ 2.5% หลังเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจนนับจาก 2H61 หลังผ่านจุดสูงสุดงวด 2Q61 (ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิต ล่าสุดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน, ยอดขายบ้านใหม่ และบ้านมือสอง ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน และต่ำสุดในรอบ 4 ปี) และเงินเฟ้อเดือน ก.พ. 2562 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี  7 เดือน ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ อาจมีโอกาสเกิดยากขึ้น จากแผนเดิมที่คาดจะขึ้น 2 ครั้ง กดดัน Dollar Index มีแนวโน้มอ่อนค่า (อ่อนค่า 1.2% นับตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. และทรงตัว 0.09% นับตั้งแต่ต้นปี) ซึ่งเป็นบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ และทองคำ 
การตัด Supply ใกล้เคียง Demand หนุนสินค้าโภคภัณฑ์  
ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง  ผลจากวานนี้ซาอุดิอาระเบีย (ผู้ผลิตน้ำมันราว 38% ของการผลิตทั้งหมดในกลุ่ม OPEC) ออกมาตอกย้ำถึงการตัดลด Supply น้ำมันมีแนวโน้มที่จะยืดระยะเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี 2562 จากแผนเดิมที่กำหนดไว้ถึงกลางปี 2562 (ตามข้อตกลง OPEC และ Non OPEC ทำสัญญาล่าสุด ธ.ค. 2561 จะตัดลดการผลิตถึงกลางปี 2562 ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน  โดยให้น้ำหนักการตัดสินใจในการประชุมใหญ่ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน วันที่ 25-26 มิ.ย. ว่าจะขยายระยะเวลาต่อไป   
เมื่อผนวกกับดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าน่าจะหนุนทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบแกว่งตัว ล่าสุดอยู่ที่  67.15 เหรียญฯต่อบาร์เรล ใกล้เคียงสมมติฐานของ ASPS ที่กำหนดไว้ 65 เหรียญ ในปี 2562 แต่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวยืนเหนือ 60 เหรียญฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ (และกำหนด 70 เหรียญฯ นับจากปี 2563 เป็นต้นไป) ดีต่อ PTTEP(FV@B168) , PTT(FV@B56) และ PTTGC(FV@B79) คาดกำไรสุทธิงวด 1Q62 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวด 4Q61 หนุนหลักจากการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน
การเลือกตั้งยังเป็นความหวังให้ SET เดินหน้าต่อ
แม้ใกล้เข้าสู่วันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 แต่ SET Index วานนี้ยังผันผวนและปรับตัวลดลงไปอีก 8 จุด หรือ -0.49% ปิดที่ 1617.57 จุด จากทิศทางการเมืองในประเทศยังคลุมเครือ อีกทั้งต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคอีก 1.02 พันล้านบาท (ขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 3)   
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาสถิติช่วงก่อนที่มีการเลือกตั้งในปี 2544- 2554  พบว่า  Fund Flow ชะลอๆ และไหลออกบ้างช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตามพบว่า Fund Flow จะเริ่มไหลกลับมาช่วง 1-2 วันก่อน และหลังเลือกตั้ง  กล่าวคือในช่วง  1-2 วันแรกหลังเลือกตั้ง Fund Flow มีโอกาสไหลเข้า 100% และ 5 วันหลังเลือกตั้ง Fund Flow ไหลเข้าเฉลี่ยกว่า 8.1 พันล้านบาท ถือว่าสูงมาก เนื่องจากมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในอดีตปี 2544-2554 เพียง 0.6–2.83 หมื่นล้านบาทต่อวัน น้อยกว่าปี 2561 เฉลี่ย 5.6 หมื่นล้านบาทต่อวัน ดังนั้นแม้ก่อนการเลือกตั้งในรอบนี้  Fund Flow ยังไม่ไหลเข้ามาถือเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่การเลือกตั้งผ่านพ้นไปได้ด้วยดีมีโอกาสที่ Fund Flow จะไหลกลับเข้ามาดังสถิติในอดีต
มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยของต่างชาติรายวัน ช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง ปี 2544-2554
 
ที่มา : ฝ่ายวิจัย ASPS
ผลจากการวิเคราะห์เชิงปริมาณพบว่า ผลตอบแทนในอดีตช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง ปี 2544-2554  ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้นเป็นบวกช่วง 2 วันก่อนเลือกตั้ง เฉลี่ย 0.9% และ 1.7% ช่วง 1 วันก่อนเลือกตั้ง) และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงหลังวันเลือกตั้ง 1 วันเสมอ โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 3.1% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 100%  
ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยรายวัน ช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง ปี 2544-2554
 
ที่มา : ฝ่ายวิจัย ASPS
สรุปหากความตึงเครียดทางการเมืองผ่อนคลายลง พร้อมกับการเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี มีโอกาสสูงที่ตลาดหุ้นไทยจะขยับปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนสถิติในอดีตและตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค  
กลยุทธ์การลงทุนภายใต้ตลาดผันผวน เน้น 5 themes  
ใกล้วันเลือกตั้ง 24 มี.ค. ตลาดให้น้ำหนักกับการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลใหม่ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่   กดดัน SET Index แกว่งตัวลงลง  ต่ำกว่า 1620 จุด อีกครั้งหลัง  กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเลือกเป็นรายหุ้นใน  5 Theme คือ 
1.หุ้นที่มีผันผวนน้อยกว่าตลาด (1L2H) โดย 1L คือ Low Beta คือ หุ้นที่ผันผวนต่ำน้อยกว่าตลาด  และ 2H คือ High Upside และ High Growth ปี 2562 ดังตาราง
หุ้นผันผวนต่ำ (1L2H) 
 
ที่มา SET, ฝ่ายวิจัย ASPS
 
2. หุ้น Domestic Play 
•    กลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มนิคมฯ ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน: STEC ([email protected]), SEAFCO (FV@ ก่อน XD 12.40 บาท หลัง XD 11.30 บาท), SCCC (FV@B269), AMATA ([email protected]), WHA ([email protected])  
•    กลุ่มธ.พ. จากการขยายตัวของสินเชื่อ: BBL (FV@B227), KBANK (FV@B246
•    กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของพรรคการเมือง ที่มุ่งเน้นผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร: BJC (FV@B61), M (FV@B84),  SAWAD (FV@B54), MTC([email protected]), JMT ([email protected])
 
3. หุ้นที่มีผลกำไรโดดเด่นใน 1Q62 และมี upside มากกว่า 10%: กลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ PTT(FV@B56), PTTGC(FV@B79) หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทน BPP([email protected]) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC(FV@B269), TPIPL([email protected]) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS(FV@B30), BCH(FV@B21) กลุ่มเกษตร-อาหาร CPF(FV @B31.50), TFG(FV @B4.50) ปิดท้ายด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ PSH ([email protected]), QH ([email protected]) และ CPN ([email protected]) **สามารถรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Market Talk วันที่ 13-14 มี.ค.62 และในบทวิเคราะห์รายหุ้น**
 
4.หุ้น Turnaround ในปี 2562 ดังตาราง
ที่มา SET, ฝ่ายวิจัย ASPS
และ 5. หุ้น Global ที่อิงตามราคาน้ำมันดิบโลก: ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากจุดต่ำสุด (ปลาย ธ.ค 61) สอดรับกับการลด supply ตามความต้องการใช้ที่ชะลอตัว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาหุ้น PTT PTTEP PTTGC ยังไม่ได้ตอบรับปัจจัยบวกเท่าที่ควร มิหน่ำซ้ำยังมีแรงชอร์ตเซล (Short Sale เป็นการขายหลักทรัพย์ที่ไม่มีในครอบครอง โดยเป็นการยืมหุ้นมาเพื่อขาย แต่ในที่สุดต้องซื้อหุ้นกลับเมื่อราคาต่ำ เพื่อคืนแก่ผู้ให้ยืม) ออกมาต่อเนื่อง(ytd) จึงเชื่อว่าหากราคาหุ้นปรับฐานลงจนมี Upside เปิดกว้าง และด้วยพื้นฐานแข็งแกร่งจึงมีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นจะฟื้นกลับมาจากการ Cover Short
ภรณี ทองเย็น
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
 ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
 โยธิน ภูคงนิล
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
เจิดจรัส แก้วเกื้อ
   ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร
ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์
ภวัต ภัทราพงศ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!