เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่นในช่วงบ่าย โดยโรงไฟฟ้ายังมีแรงซื้อต่อนำโดย EGCO, RATCH, BCPG , GULF และหุ้นใหญ่อย่าง AOT, CPF มีแรงซื้อเด่น ในขณะที่หุ้นใหม่อย่าง GSC ปิดบวก 47% ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,639.6 (+12.0จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.5 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า 3.7 หมื่นลบ.

          นักลงทุนต่างชาติพลิกซื้อหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 13 วันทำการ ที่ 290 ลบ. (สถาบันซื้อสุทธิ 274 ลบ.) พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 4,708 สัญญา

 

          พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประกาศใช้แล้ว ประเมินผลกระทบจำกัด / Brexit รอเลื่อน  :  เมื่อคืนวันอังคาร  ที่ผ่านมาเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเกษตรกรรม, ที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ภาษีไม่เกินร้อยละ 0.15, 0.3 และ 1.2% ตามลำดับ) ภาพรวมใกล้เคียงกับที่เราเคยประเมินไปก่อนหน้านี้กล่าวคือ คาดกระทบบนระดับน้อย-กลาง และไม่กระทบประชาชนที่เป็นผู้อยู่อาศัยจริง โดยเริ่มบังคับใช้    1 ม.ค. 2563 กลุ่มคนที่กระทบมากที่สุดคือ กลุ่มผู้มีที่ดินที่ไม่ทำประโยชน์ โดยเฉพาะเป็นที่ดินที่มูลค่าสูงและกลุ่มผู้มีบ้านหลายหลัง ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ไม่นิยมสะสม Land Bank ในปัจจุบัน ดังนั้นในครั้งนี้อาจได้รับผลกระทบไม่มาก ในขณะเดียวกันคาดเห็นการระบายที่ดินเปล่าออกมาส่วนหนึ่งโดยเฉพาะที่ดินในเขตเมืองซึ่งอาจเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถซื้อเพื่อนำมาพัฒนาโครงการใน 2H19 ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาสภาอังกฤษโหวตคว่ำร่าง No deal Brexit ด้วยคะแนนสูงกว่า 321 : 278 เสียงทำให้ใน 1-2 วันนี้ EU และอังกฤษต้องลงมติเลื่อน Deadline ออกไปจากกำหนดวันที่ 29 มี.ค. เบื้องต้นเรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว คาดผลกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด

          สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : เราประเมินกรอบการแกว่งตัว SET บริเวณ 1,620-1,680 จุด โดยคาดว่าจะเป็นเดือนที่มีความผันผวนสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยการเมืองโลก/ในประเทศ คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเน้นลงทุนในกลุ่มไฟฟ้า (EGCO) , รถไฟฟ้า (BEM) กลุ่มท่องเที่ยว (SPA) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL) และเลือก BCP, PTTEP เป็นตัวแทน Global play

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : พาณิชย์เผย ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่เดือนก.พ.ลดลง 10% MoM / Brent ปรับขึ้น 67.6 เหรียญ หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล (ตลาดคาดเพิ่ม 3.3 ล้านบาร์เรล) โดยสหรัฐผลิตลดลง 1.0 แสนเหลือ 12.0 ล้านบาร์เรล

 

          Trading idea - - ทยอยสะสม BCH (เช้านี้มีประชุมนักวิเคราะห์) โดยเราประเมินรายได้ประกันสังคมจะปรับตัวได้ดีขึ้นในปีนี้ เนื่องจากได้รับ quota เพิ่มรวม 5.7 หมื่นราย เป็น 1.2 ล้านราย และคาดว่าจะมีผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 9% เป็น 8.8 แสนราย (ปีที่แล้วลดลง 1% ) เบื้องต้นคาดกำไรปีนี้เติบโตประมาณ 15-20% ภายหลังมีการบันทึกค่าใช้จ่ายเปิดโรงพยาบาลใหม่ เกษมราษฎร์รามคำแหง ซึ่งกดดัน margin ในขณะที่WMC เติบโตต่อ และคาดเปิด IVF ใน2H19 สนับสนุนการเติบโต โดยปัจจุบัน BCH เทรดที่ PER19 บริเวณ 32x ใกล้เคียงกับ regional peers แต่มี ROE ที่ 18% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 14% ในเชิงเทคนิคแนวต้าน 17.40 และ 18.0 บาท

          เริ่มมีมมุมมองเชิงบวกมากขึ้น แต่แนวโน้มหลักยังแกว่ง Sideway 1630-1660 : ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ขณะนี้เริ่มมีแนวโน้ม Break แนวต้านกรอบ Sideway ระยะสั้น พร้อมกับเริ่มเกิดสัญญาณซื้อทั้งใน MACD และ Modified Stochastic จึงเริ่มมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น แต่ยังคาดดัชนีแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1630-1660 จังหวะ Rebound ยังเป็นโอกาสขายทำกำไรตามแนวต้าน 1645 และ 1660 แนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นอีกครังเมื่อดัชนีผ่านแนวต้านที่ 1660 (EMA200Day)

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายทำกำไรตามแนวต้าน 1645 และ 1660  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุดแนวรับ 1630-1635 มองเป็นโอกาสซื้อสะสม เพื่อ Trading และขายทำกำไรตามแนวต้าน

          แนวรับ : 1623, 1630 แนวต้าน : 1645, 1660

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :  27 มี.ค. จับตา Trump พบ Xi Jinping เพื่อยุติสงครามการค้า

          ปัจจัยในประเทศ :   19 มี.ค. จับตาความคืบหน้าการประมูลรถไฟ 3 สนามบิน / 24 มี.ค. เลือกตั้งประเทศไทย

 

          CPALL (76.00-77.00, Tp 79.00//80.50, Cut 75.50)

          PTTEP (118.00-120.00, Tp 125.00//128.00, Cut 117.00)

 

BGRIM ซื้อเอสพีพี 1 แล้ว ดันกำลังการผลิตเพิ่ม 6% (ข่าวหุ้น)

          "BGRIM" ซื้อหุ้น "โกลว์ เอสพีพี 1" ขนาด 124 เมกะวัตต์ มูลค่า 3,300 ล้านบาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว หนุนกำลังการผลิตเพิ่มอีก 6% จากกำลังการผลิตปัจจุบัน 2,076 เมกะวัตต์ โบรกฯเชียร์ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 35 บาท

          ความเห็น : เรามองการเข้าซื้อนี้เป็นบวกต่อการเติบโตในอนาคต แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 30 บาท โรงไฟฟ้า GLOW SPP1 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 124 MW และไอน้ำ 90 tphสามารถขอต่ออายุได้ 3 ปี หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่และทำการต่อสัญญา 25 ปี เป็น upside ให้กับ BGRIM ในด้านกำลังการผลิตและมูลค่าเพิ่ม รวมถึงโอกาสเข้าสู่พื้นที่นิคมมาบตาพุดที่มีการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง เทคนิคสวยต้านสั้น 31 รับ 29 บาท

 

SQ คว้างานเหมืองหงสาที่ลาว มูลค่า 2,265 ล้าน แบ็กล็อกพุ่ง 3.52 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)

          SQ ชนะประมูลคว้างานการบริหารและบำรุงรักษาเหมืองหงสาในลาว 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,265 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 35,200 ล้านบาท การันตีปี 62 ผลงานเทิร์นอะราวด์ โบรกฯ ฟันธง Q1 มีกำไรมากกว่า 70 ล้านบาท อัพเกรดเชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท/หุ้น

          ความเห็น :   งานบริหารและบำรุงรักษาระบบสายพานโครงการเมืองหงสา มูลค่ารวม 2,265 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จะทำให้งานขุดขนดินเหมืองหงสามูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีประสิทธิภาพมากขึ้น  Backlog ปัจจุบัน เพิ่มเป็น 3.52 หมื่นล้านบาท  งานใหม่นี้มีระยะเวลารับรู้รายได้ 7 ปี หรือ ตกปีละ 325 ล้านบาท เทียบกับประมาณการรายได้ในปี 2563 เท่ากับ 4,500 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มรายได้ 7% ต่อปี ซึ่งไม่มากนัก  คงแนะนำ ถือ เป้าหมาย 3.20 บาท ด้านเทคนิคคาดแกว่งกรอบ 2.3-2.5 บาท

 

'บีเจซี' ทุ่มลงทุนปีนี้หมื่นล้าน ผุดสาขา 'บิ๊กซี 'เพิ่ม 200 แห่ง (กรุงเทพธุรกิจ)

          "เบอร์ลี่ ยุคเกอร์" ตั้งงบ ลงทุนปีนี้ 1 หมื่นล้าน เปิดสาขาบิ๊กซี กว่า 200 สาขา ที่เหลือใช้ขยายธุรกิจเดิม พร้อมคาดรายได้ปีนี้ โต 7-9% จากปีก่อน ที่ 1.72 แสนล้าน เหตุทุกธุรกิจเติบโต เตรียมขายหุ้นกู้ 1.6 หมื่นล้านบาท มี.ค. เพื่อทดแทน หุ้นกู้เดิมครบกำหนด

          ความเห็น :   การเปิดสาขา 200 แห่งเป็นมินิบิ๊กซี ขณะที่จะขยายสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 8 สาขา ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย อีกทั้งเริ่มขยายไปกัมพูชาและลาว คาดจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 65 บาท เทคนิคฟื้นตัว ต้านสั้น 52.5 รับ 50 บาท

 

ประมูลดิวตี้ฟรีแข่งขันดุ! AOT รอรับส่วนแบ่งสูง 40% (ข่าวหุ้น)

          AOT เปิดฉาก! ประมูลงานดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน พร้อมงานบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่สุวรรณภูมิ ประเมินบิ๊กไซซ์ไทย-เทศเข้าร่วมแข่งขันดุไม่ต่ำกว่า 4 ราย โบรกฯเชื่อ BA มาแน่ ส่วนคิง เพาเวอร์พร้อมรักษาฐานที่มั่นเดิม คาดเสนอผลตอบแทนรายได้ให้ AOT ไม่ต่ำกว่า 30-40% ต่อปี

          ความเห็น ประกาศ TOR การประมูล duty free แล้ว เพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้ในช่วงถัดไป โดยกำหนดการซื้อซอง 19 มีค - 1 เม.ย. รู้ผล 10 พค. ผสานกับภาพรวมท่องเที่ยวไทยที่ยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 75 บาท เทคนิคสวย ต้าน 70 รับ 68 บาท

 

BBL ยืนเป้าสินเชื่อโต 4-6% มั่นใจหุ้นกลุ่มธนาคารรับมือ IFRS 9 ได้ (ข่าวหุ้น)

          แบงก์กรุงเทพ (BBL) วางเป้าหมายสินเชื่อรวมปีนี้โต 4-6% ชี้ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา หนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4% ส่งผลให้อุตสาหกรรมแบงก์ปีนี้เติบโต 4-6% ส่วนมาตรฐานบัญชี IFRS 9 ไม่กระทบกลุ่มแบงก์ เหตุได้รับสัญญาณจากแบงก์ชาติมานานทำให้รับมือได้ดี ส่วนแผนควบรวมสองแบงก์ในขณะนี้ เชื่อ เป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพสถาบันการเงินไทยให้แข็งแกร่ง ถือเป็นเรื่องที่ดี

          ความเห็น :   คาดกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปีนี้ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จุดเด่นของ BBL จะอยู่ที่พอร์ตสินเชื่อที่เน้นลูกค้าขนาดใหญ่ซึ่งมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ากลุ่ม SME ผสานกับ Valuation ที่เทรดเพียง PBV 0.89 เท่า เพิ่มความน่าสนใจ แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 240 บาท เทคนิค เริ่มฟื้นตัวบริเวณแนวรับสำคัญ ต้านถัดไป 218 บาท