เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อกระจายในกลุ่มค้าปลีก นำโดย BJC, CPALL และหุ้นขนาดกลางอย่าง TKN, BEAUTY, CBG, PTG ณ.สิ้นวัน ปิดตลาดที่ 1,633.2 จุด (+7.7 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.8 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า 4.4 หมื่นลบ.

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นเป็นวันที่ 9 ที่ 569 ลบ. (สถาบันซื้อสุทธิ 355 ลบ.) พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 13,024 สัญญา

 

เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว /  ECB เตรียมออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่อง :  เมื่อคืนที่ผ่านมา ECB ได้แถลงเตรียมออกมาตรการ TLTRO (Targeted Longer Term Refinancing Operations) ในเดือนกันยายนนี้ เป้าหมายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณชิย์ในยุโรปด้วยต้นทุนดอกเบี้ยต่ำจาก ECB โดยถือเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2014 ที่ทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาพดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของเรา ที่มองว่าทั้ง 3 ธนาคารกลางหลักของโลกอย่าง FED ที่ล่าสุด Powell ออกมาแถลงยุติการลดขนาดงบดุลในปลายปีนี้ ในทิศทางเดียวกันกับ ECB ที่เริ่มกลับลำมาในเชิง Dovish ขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เร็วกว่าคาด (ล่าสุดปรับ GDP ลงเหลือ 1.1% ในปีนี้) ผลจากสงครามการค้า และเป็นที่มาของปีนี้ว่า “Happy Problem” ในขณะที่เราคงมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นการเมืองไทย (ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ และเพิกถอนสิทธิการเมืองกรรมการพรรคเป็นเวลา 10 ปี ) โดยเราประเมินผลกระทบค่อนข้างจำกัดต่อตลาดทุน ในขณะที่แนะนักลงทุนติดตามผลลัพธ์การจัดตั้งรัฐบาลหลังวันที่ 24 มีนาคม เบื้องต้นเราประเมินมีโอกาสสูงที่รัฐบาลจะเป็นรัฐบาลผสม (ไม่ใช่รัฐบาลเดี่ยว) ซึ่งในระยะแรกอาจมีความผันผวนเล็กน้อย 

สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : เราประเมินกรอบการแกว่งตัว SET บริเวณ 1,620-1,680 จุด โดยคาดว่าจะเป็นเดือนที่มีความผันผวนสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยการเมืองโลก/ในประเทศ คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเน้นลงทุนในกลุ่มไฟฟ้า (EGCO) , รถไฟฟ้า (BEM) กลุ่มท่องเที่ยว (SPA) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL) และเลือก PTTEP เป็นตัวแทน Global play

 

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา : ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคทษช. / ECB ปรับเป้า GDP ยุโรปเหลือ 1.1% จาก 1.7% / Dollar แข็งค่าทะลุ 97.6

 

 

 

Trading idea – – หลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม Commodity / ทยอยสะสม SPALI เอาปันผล ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12  มี.ค. 0.60 บาท/หุ้น (ครึ่งปี) Yield 3% ในขณะที่ปัจจุบัน ซื้อขายบน PER19 ต่ำเพียง 7.6x ในขณะที่มีสัดส่วนคอนโดประมาณ 45% ของพอร์ต กล่าวคือ ค่อนข้างได้รับผลกระทบจำกัด เมื่อเทียบกับบริษัทอสังหาอื่นๆจาก LTV คงคำแนะนำ ซื้อ ราคา 22.10 บาท

 

 

กลับมายืนเหนือ 1630 ได้ แต่มองเป็นการฟื้นตัวในกรอบ Sideway เท่านั้น:  ดัชนีแกว่งผันผวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงบ่าย  โดยสิ้นวันสามารถกลับมายืนเหนือแนวต้านระยะสั้นที่ 1630 ได้ด้วยแรงซื้อของหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีกและธนาคาร หลังกลับมายืนเหนือ 1630 ได้ พร้อมสัญญาณบวกใน Modified Stochastic เราคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้น ภาพหลักมองดัชนีเป็นเพียงการแกว่ง Sideway ในกรอบ 1630-1660 เท่านั้น ฉะนั้นจังหวะ Rebound ยังมองเป็นโอกาสขายลดพอร์ตตามแนวต้านเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายทำกำไรตามแนวต้านเพื่อเล่นรอบ และหากหลุด 1625 แนะนำขายทำกำไรหรือ Stop Loss  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1625-1630 อาจใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อเล่นเก็งกำไรในจังหวะ Rebound ระยะสั้น

แนวรับ : 1615, 1625 แนวต้าน : 1645, 1660

 

ปัจจัยต่างประเทศ :  27 มี.ค. จับตา Trump พบ Xi Jinping เพื่อยุติสงครามการค้า

ปัจจัยในประเทศ :   -

CPN (72.00-73.00, Tp 76.50//79.00, Cut 71.50)

PTG (10.20-10.40, Tp 11.00//11.50, Cut 10.00)

 

หมาก CPALL ผนึกเอสเอ็มอี ลุ้นสยายปีกกัมพูชา-ลาว Q2 (ทันหุ้น)

ประธาน CPALL "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" เดินหมากผนึก "สตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอี" อัพเกรดผลิตภัณฑ์ เพิ่มแวลู เล็งผุด 700 สาขาใหม่ทั่วไทย ขยายช่องรับทรัพย์เพิ่ม ส่วนปีนี้วางเป้ารายได้โต 8-10% ลุ้นผลขอแฟรนไชส์ลุยกัมพูชา-ลาว ไตรมาส 2/2562

 

ความเห็น : CPALL ยังคงทยอยเพิ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รวมทั้งขยายสาขาในไทย 700 สาขา/ปี ขณะที่มีการพิจารณาเงื่อนไขการเข้าทำสัญญาเปิดร้านเซเว่นฯ ในกัมพูชาและลาว หากได้เซ็นสัญญา การขยายสาขาจะเป็นแบบไปค่อยเป็นค่อยไป เราคาดไม่ส่งผลบวกอย่างมีนัยยะในช่วงสั้น แต่จะเป็นบวกในระยะยาว แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 86 บาท เทคนิคลุ้นรีบาวน์ ต้าน 80 รับ 77 บาท

 

MINT ส่งซิกปี 62 รายได้โตเท่าตัว บันทึก NHH เต็มปี (ข่าวหุ้น)

MINT ลั่นรายได้ปี 62 โตเท่าตัว หลังรวมงบ NHH เข้ามาเต็มปี แย้มงบไตรมาส 2/62 พีกสุดรับไฮซีซั่น ส่วนแผน 5 ปี ตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละ 10% อัดงบลงทุน 1-1.5 หมื่นล้านบาท/ปี ลุยขยายธุรกิจโรงแรม-อาหาร

 

ความเห็น :   MINT เริ่มรวบงบของ NHH เข้ามาตั้งแต่ ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้จะรับรู้รายได้และกำไรจาก NHH เต็มปี หาก NHH มีกำไรปีละ EUR100m ตามที่ MINT คาดการณ์ จะเพิ่มกำไรให้ MINT ประมาณ 17% ในปี 2019 อย่างไรก็ตามเนื่องจาก 1Q19 เป็นช่วง low season ของ NHH คาดว่าจะขาดทุน และ ธุรกิจร้านอาหารยังไม่ฟื้นตัว จึงแนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 42 บาท เทคนิคแกว่งสร้างฐาน แนวต้านสั้น 39 รับ 37.5 บาท  

 

BCH หุ้นผันผวนต่ำโตสูง ได้ฤกษ์เก็บดอกผล (ทันหุ้น)

BCH ปักหมุดรายได้เติบโตมากกว่า 15% หลังผู้ป่วยทั้งเงินสด-ต่างชาติ-ประกันสังคมเพิ่ม ขณะที่ WMC ช่วยอัพกำไรไตรมาส 1 ปีนี้พุ่งจากฐานต่ำ ระบุปีนี้ไม่ลงทุนใหญ่หลังทุ่มหนักก่อนหน้า รอเก็บดอกผล ส่วน รพ.ใหม่ 3 แห่ง เปิดครบปี 2564 ดันพอร์ตสูง 15 แห่ง กูรูชี้เข้าข่ายหุ้นผันผวนต่ำโตสูง เคาะเป้า 22 บาท อัพไซด์เพียบ

 

ความเห็น :  ในปีนี้ BCH ไม่มีแผนเปิดโรงพยาบาลใหม่ จึงเน้นการเติบโตจากโรงพยาบาลเดิมเป็นหลัก โดยผู้บริหารมองรายได้โตมากกว่า 10% มีปัจจัยหนุนจาก จำนวนผู้ประกันที่น่าจะเพิ่มขึ้น หลังจากได้โควต้าผู้ประกันตนเพิ่มจากโรงพยาบาลหลัก ในขณะที่ WMC ได้พลิกกลับมามีกำไร ตั้งแต่ 3Q18 และน่าจะมีกำไรต่อเนื่องไปทั้งปี 2019 นี้ (1H18 WMC ยังมีผลประกอบการขาดทุนอยู่) ด้านเทคนิคสร้างฐานรอลุ้นการฟื้นตัว ต้าน 16/17 รับ 15.5 บาท

 

TPIPP ประมูลโครงการอื้อขยายพอร์ตไฟฟ้า-ผลงานโต (ทันหุ้น)

TPIPP ลุ้นผลประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอ่อนนุช-หนองแขม กำลังการผลิตรวม 40 เมกะวัตต์ ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562 จ่อเข้าชิงโรงไฟฟ้าโคราช-สงขลา ภายในปีนี้ มองอนาคตเห็นโอกาสเข้าประมูลโรงไฟฟ้าใน PDP ใหม่ราว 600 เมกะวัตต์ คาดปีนี้รับรู้ไฟฟ้า 440 เมกะวัตต์ เต็มปี โบรกเคาะกำไรแตะ 4.8 พันล้านบาท

 

ความเห็น :  แผน PDP 2018 ฉบับใหม่ จะขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอีก 400MW จะเอื้อประโยชน์ต่อ TPIPP เพราะสามารถสร้างโรงไฟฟ้าขยะได้ในพื้นที่โรงงานปัจจุบัน  นอกจากนี้ TPIPP ยังได้ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าขยะอ่อนนุช และ หนองแขม แห่งละ 20MW โดยมีกำหนดเวลาตัดสินภายใน 180วัน  ปี 2562 TPIPP จะ COD ครบ 440MW จะหนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง  เราคงคำแนะนำ ซื้อ ลักษณะลงทุนรับปันผล ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท แต่ระยะสั้นเกิดสัญญาณปรับฐาน แนวรับ 5.8 บาท

 

IRPC ทุ่ม 1.05 แสนล้าน เดินหน้าแผนลงทุน 5 ปี (ข่าวหุ้น)

IRPC เดินหน้าแผน 5 ปี ทุ่มงบลงทุนกว่า 1.05 แสนล้านบาท ชงบอร์ดอนุมัติสร้างโครงการ MARS มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ในช่วงกลางปีนี้ ส่วนโครงการ GALAXY วางเป้าสร้างอีบิทด้าเพิ่มกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ความเห็น :  งบลงทุนตามแผน 5 ปีของ IRPC สำหรับโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้วเท่ากับ 71,000 ล้านบาท  (รวมโครงการ MARS มูลค่า 41,203 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากบอร์ด ช่วงกลางปี 2562) ทั้งนี้งบดังกล่าวยังไม่รวมการซื้อกิจการอีก 30,000 ล้านบาท เรายังไม่รวมมูลค่าโครงการต่างๆ ดังกล่าวในประมาณการ เราแนะนำ ทยอยสะสม IRPC ราคาเป้าหมาย 6.70 บาท เทคนิคคาดแกว่งในกรอบ 5.6-6.2 บาท