เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง นำโดย หุ้นใหญ่ KBANK, CPALL, SCC ในขณะที่ PTT ขึ้น XD 1.20 บาท อย่างไรก็ตาม พบแรงซื้อใน TASCO  ณ.สิ้นวัน ปิดตลาดที่ 1,625.5 จุด (-13.4 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า 4.1 หมื่นลบ.

          นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นเป็นวันที่ 8 ที่ 2,601 ลบ. (สถาบันซื้อสุทธิ 859 ลบ.) พร้อมเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 490 สัญญา

 

          สหรัฐขาดดุลสูงสุด 10 ปี / จับตา ECB จะ Hawkish ลดลงเหมือน FED รึไม่ ?  / ศาล รธน.พิจารณา ทษช :  เมื่อวานที่ผ่านมาสหรัฐรายงานขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 8.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (แต่หากรวม Goods และ Service ประมาณ 6.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) โดยขาดดุลจีนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 12%YoY เป็น 4.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลต่อ มาตรการภาษีกว่า 2.5แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ไม่เพียงไม่ลดยอดขาดดุล แต่กลับเพิ่มให้ยอดขาดดุลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้สหรัฐเพิ่มความเข้มงวดต่อมาตรการภาษี ล่าสุด Trump เบนเป้าไปที่อินเดีย โดยใช้เหตุผล GSP (อินเดียเกินดุลสหรัฐปีที่ผ่านมา 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันตลาดทุนระยะกลาง ในขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยการเงินได้แก่ การประชุม ECB ในวันนี้  จับตาการปรับประมาณการ GDP และรายละเอียดของโครงการปล่อยสินเชื่อเข้าระบบ (LTROs) และการเลื่อนเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเกิดขึ้นจะทำให้เป็นธนาคารกลางที่ 2 ต่อจาก FED ที่ปีนี้เริ่มเห็นมุมมอง Hawkish ที่ลดลง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อสภาพคล่องในระยะกลาง  

          สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : เราประเมินกรอบการแกว่งตัว SET บริเวณ 1,620-1,680 จุด โดยคาดว่าจะเป็นเดือนที่มีความผันผวนสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยการเมืองโลก/ในประเทศ คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเน้นลงทุนในกลุ่มไฟฟ้า (EGCO) , รถไฟฟ้า (BEM) กลุ่มท่องเที่ยว (SPA) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL) และเลือก PTTEP เป็นตัวแทน Global play

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : จีนปรับเป้า GDP เหลือ 6-6.5% เดิม 6.5% / รฟท.เผยกลุ่มซีพีขอเลื่อนเจรจารถไฟ 3 สนามบิน ไป 13 มี.ค.

 

          Trading idea - - ทยอยสะสม SPALI เอาปันผล ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12  มี.ค. 0.60 บาท/หุ้น (ครึ่งปี) Yield 3% ในขณะที่ปัจจุบัน ซื้อขายบน PER19 ต่ำเพียง 7.6x ในขณะที่มีสัดส่วนคอนโดประมาณ 45% ของพอร์ต กล่าวคือ ค่อนข้างได้รับผลกระทบจำกัดเมื่อเทียบกับบริษัทอสังหาอื่นๆจาก LTV คงคำแนะนำ ซื้อ ราคา 22.10 บาท

 

          หลุดแนวรับ 1630 Downside เปิด มองแนวรับระยะกลางถัดไปที่ 1600:  แรงขายในช่วงบ่ายจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทำให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ Neckline 1630 ประกอบกับสัญญาณลบใน MACD ที่ตัดเส้น Signal ลง ส่งผลให้คาดว่าในขณะนี้ดัชนีฟอร์มการกลับตัวลงแบบ Triple Top มอง Downside ระยะกลางถึงยาวเปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที่ 1615 และ 1600 ตามลำดับ หากเกิดจังหวะ Technical Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายลดพอร์ต

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญ 1630 ต้อง Lock Profit หรือ Stop Loss ตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ หากยังมีหุ้นจังหวะ Rebound แนะนำขายเพื่อลดพอร์ต   2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าจะเริ่มมีสัญญาณเริ่มหยุดลงและ Rebound ที่แนวรับต่างๆ

          แนวรับ : 1600, 1615 แนวต้าน : 1633, 1640

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :  27 มี.ค. จับตา Trump พบ Xi Jinping เพื่อยุติสงครามการค้า

          ปัจจัยในประเทศ :   7 มี.ค. ศาล รธน.นัดพิจารณาคดียุบพรรคทษช.

 

          CHG (1.80-1.85, Tp 1.94//2.00-2.04, Cut 1.77)

          SYNEX (13.30-13.50, Tp 14.50//15.00, Cut 13.00)

 

 

คลังลดภาษีรถกระบะ-ไฟฟ้า คาดราคารถใหม่ลดลงทันที 1 หมื่นบาท (ข่าวหุ้น)

          สรรพสามิตปรับลดอัตราภาษีรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู หากมีค่าฝุ่น PM ไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร คาดช่วยให้ราคารถใหม่ลดลงทันที 1 หมื่นบาทต่อคัน ส่วนรถไฟฟ้าผลิตในประเทศ ลดภาษีจาก 2% เหลือ 0% เป็นเวลา 3 ปี ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

          ความเห็น : ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้มีแนวโน้มจะทรงตัว ประมาณ 2.05 ล้านคัน  การปรับลดอัตราภาษีรถยนต์กระบะและรถยนต์กระบะ 4 ประตู หากมีค่าฝุ่น PM ไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร คาดช่วยให้ราคารถใหม่ลดลงทันที 1 หมื่นบาทต่อคัน ส่วนรถไฟฟ้าผลิตในประเทศ ลดภาษีจาก 2% เหลือ 0% เป็นเวลา 3 ปี ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม  คาดจะช่วยกระตุ้นไม่มากนัก  เราให้น้ำหนักกลุ่มเท่าตลาด  สำหรับหุ้นที่กำไรปีนี้คาดจะเติบโตต่อ และ แนะนำซื้อ คือ SAT (เป้าหมาย 25.5 บาท) และ STANLY (เป้าหมาย 300 บาท)

 

GPSC ควบรวม GLOW ฉลุย ชี้เทนเดอร์ลด 92.64 บาท คาดกระบวนการซื้อขายเสร็จไตรมาสนี้ (ข่าวหุ้น)

          "กกพ." ไฟเขียว GPSC ควบรวม GLOW ทันที หลังขายโรงไฟฟ้า SPP1 ให้ BGRIM ตามเงื่อนไข ฟาก GPSC ยันซื้อหุ้น GLOW จาก ENGIE เสร็จไตรมาส 1/62 พร้อมลุยทำเทนเดอร์ฯต่อ ขณะที่โบรกฯคาดราคาเทนเดอร์ฯลดเหลือหุ้นละ 92.64 บาท

          ความเห็น :   เราไม่ประหลาดใจต่อประเด็นข่าวนี้ และเชื่อว่าการเดินหน้าซื้อกิจการ GLOW ของ GPSC จะเป็นไปตามแผน ทั้งนี้มติดังกล่าวทำให้ความชัดเจนการเติบโตในอนาคตของ GPSC จะมีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงกดดันจากการเพิ่มทุน แต่เราเชื่อว่าตลาดได้รับรู้ไปแล้วในช่วงปีที่ผ่านมา แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 66 บาท เทคนิคแกว่งในกรอบ 60-64 บาท

 

CPN ทุ่มงบ 1 พันล้านบาท อัพโฉมเซ็นทรัลเชียงราย รองรับไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่ม (ทันหุ้น)

          CPN อัดฉีด 1 พันล้านบาท ปรับโฉมพร้อมเปิดตัว "เซ็นทรัล พลาซา เชียงราย" หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว และโปรโมตการท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายภาครัฐ

          ความเห็น :  เป็นไปตามแผนในการปรับปรุงศูนย์การค้าในช่วง 1-2 ปีนี้ ได้แก่ เชียงราย ชลบุรี ภูเก็ตเฟส 1 ลาดพร้าว และพัทยาบีช ซึ่งจะทำให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นและดึงดูดลูกค้าเข้าศูนย์การค้า ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ CPN นอกเหนือไปจากการเปิดโครงการใหม่ แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 87 บาท ขณะที่เทคนิคระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน แนวรับ 72 ต้าน 77 บาท

 

ตลท.ลุ้นทุนนอก'ไหลเข้า' รับอานิสงส์'เอ็มเอสซีไอ'เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ดัชนีหุ้นวานนี้ปิดรูด 13 จุด ผวาปัจจัยการเมือง (กรุงเทพธุรกิจ)

          ตลาดหลักทรัพย์ หวังทุนนอกไหลเข้าเดือนมี.ค. หลัง "เอ็มเอสซีไอ" จ่อเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในการคำนวณดัชนีอีก 0.5% คาดประกาศผลปลายเดือนนี้ สวนทางกับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดร่วง 13 จุด นักลงทุนผวาปัจจัยการเมือง ส่วนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง วันที่แปด อีก 2.6 พันล้าน

          ความเห็น :  ประเด็นในเรื่องของ Fund Flow จากการปรับของ MSCI อาจจะมี 2 ประเด็นที่ต้องจับตา คือ ประเด็นที่ 1 โอกาสในการเปลี่ยนวิธีคิดคำนวน โดยอาจนำ NVDR เข้ามาคิดเพิ่มเติม ซึ่งประเด็นนี้หากเกิดขึ้นจริงคาดจะเป็นบวกต่อ Flow ไหลเข้า ขณะที่ประเด็นที่ 2 คือการปรับน้ำหนักหุ้น A-shares ของจีน ซึ่งคาดจะส่งผลให้ Flow มีโอกาสไหลออกจากกลุ่มประเทศ EM เดิม แต่อย่างไรก็ตามเราคาดผลกระทบโดยรวมต่อไทยน่าจะจำกัด