- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 March 2019 16:24
- Hits: 1657
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“วันนี้ตัดสินคดียุบพรรค ทษช ต่างประเทศไม่สดใส”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BOFFICE (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -13.49 จุด ปิดที่ 1625.51 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงที่ 44.3 พันล้านบาท ดัชนีบ้านเราปรับฐานแรงกว่าตลาดอื่นในภูมิภาคแถบนี้ คาดว่าเป็นเพราะกังวลปัจจัยเมืองจะเข้าใกล้วันตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ 7 มี.ค.62 ส่วนปัจจัยต่างประเทศไม่สดใสนัก ดาวโจนส์ น้ำมันปรับลงตลาดรอดูบทสรุปการเจรจาการค้า 27 มี.ค.62 จีนปรับลดเป้า GDP ปีนี้ ดอลลาร์แข็งค่า ความเสี่ยง BREXIT ออกโดยไร้ข้อตกลง สำหรับผู้ขายสุทธิเป็นต่างชาติ 2.6พันลบ. และพอร์ตโบรกเกอร์ 1.3 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ รายย่อย 3.0 พันลบ.และสถาบัน 0.9 พันลบ. สำหรับนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ต่างชาติเป็นขายสุทธิ 4.5พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET อยู่ในเกณฑ์ผันผวนสูง ตลาดฯรอดูการตัดสินคดียุบพรรรค ทษช. หลังดัชนีฯถดถอยรับข่าวมาสักพัก ต่างประเทศไม่สดใสทั้งตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน Beige Book ของเฟด ดาวโจนส์ และดาวโจนส์ล่วงหน้า น้ำมันปรับลง บาทอ่อน ต่างชาติขายต่อเนื่อง
# ปัจจัยบวกที่มีอยู่คือ ทรัมป์พยายามบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน เพื่อประโยชน์การเลือกตั้งสมัยหน้า MSCI มีโอกาสปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยปลายเดือนนี้ และบอนด์ยิลด์สหรัฐทยอยอ่อนตัวลงเป็น 2.688% ซึ่งไม่ดึงดูดใจให้เงินไหลกลับไปสหรัฐ
# กลยุทธ์ คือ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1630-1640 จุด แต่หากมีแรงขายต่อ แนวรับเป็น 1620,1610 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1750 จุด (+0.7 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรของตลาดฯปี 62 ที่ +12% แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น TopPick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
หุ้นเด่น SYNEX : กำไร 4Q18 เป็น 189.6 ล้านบาทใกล้เคียงกับที่คาด และ +17.8%QoQ และ +15.4% YoY ได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มแต่อัตรากำไรขั้นต้น ลงค่อนข้างมากจาก ระดับ 4.22%QoQ และ 4.64% YoY เหลือเพียง 3.86% ในไตรมาสนี้ กำไรที่ยังดีเป็นผลมาจาก SG&A ต่อยอดขาย ที่ลดลงเหลือ 2.13% จาก2.38%QoQ และ 2.70%YoY จ่ายปันผลเป็นหุ้น 10 ต่อ 1 และ เงินสด 0.34 บาทต่อหุ้น(เฉพาะเงินปันผลใกล้เคียงปีก่อนที่ 0.35 แม้ว่าจะมีหุ้นปันผล) ปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2019 เหลือ 4.27% จาก 4.46% ได้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 15.95 บาท ใช้ PER ปี 2019 ที่ 15 เท่า และราคาหลังหุ้นปันผลที่ 14.55แนะนำ ซื้อลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ แบบที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นบวกช่วงสั้นตามมาได้ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”ต่อ(โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของSET50วันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่ก็ลุ้นรีบาวด์ฯจากการลงแรงตามมา(มี“แนวรับย่อย”สำคัญหนุน)ได้ แนวต้าน 1085 (หรือ 1090 – 1095) จุด {แนวขาย “ต่ำกว่า 1085” (แนวรับย่อย “1070 (หรือ 1060 – 1050)” จุด)}
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ TASCO,SYNEX,SPRC,EGCO,PTL หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ MINT, STPI, RATCH, GOLD, HMPRO, TCAP,PSH, TU หุ้นที่หลุด List KTB,UNIQ,AOT,CENTEL ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ ESSO
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Hot Issue: ตลาดหลักทรัพย์ฯ มองมีโอกาสที่ Fund Flow จะไหลเข้าไทย
Company Guide : BOFFICE (ถือ -ราคาพื้นฐาน 13.20)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : คาด OCEAN เข้าเกณฑ์แล้ว ติดตาม TCMC-W2, CPT
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงอ่อนตัว
# ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น183,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง
# ขณะที่เฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจใน 10 เขตจากทั้งหมด 12 เขตนั้น มีการขยายตัวเล็กน้อยถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนม.ค.จนถึงก.พ.ปีนี้ นอกจากนี้ ราวครึ่งหนึ่งของเขตต่างๆที่ได้รับการสำรวจนั้น ระบุว่า การที่หน่วยงานของรัฐบาลปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ(ชัตดาวน์) ในช่วงปลายเดือนธ.ค. 2561 จนถึงเดือนม.ค. 2562 นั้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในบางภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรมรถยนต์ ธุรกิจการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคาร อุตสาหกรรมการผลิตและการบริการ
- สหรัฐ: มีขาดดุลการค้ามากในปี 61 ที่ผ่านมา
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้า 6.210 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขขาดดุลการค้าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยจีนนับเป็นประเทศคู่ค้าที่สหรัฐขาดดุลการค้ามากที่สุด ตามมาด้วยเม็กซิโก, เยอรมนี และญี่ปุ่น
• รอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศ โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/2561
# นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.9%
+/- การเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน: ทรัมป์พยายามผลักดันให้บรรลุข้อตกลง
# นักลงทุนยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า เนื่องจากเขาหวังว่า การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดหุ้นทะยานขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขาในปีหน้า
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 วิตกเศรษฐกิจชะลอตัว
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,673.46 จุด ลดลง 133.17 จุด หรือ -0.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,771.45 จุด ลดลง 18.20 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,505.92 จุด ลดลง 70.44 จุด หรือ -0.93%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ. ขณะที่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ "Beige Book" ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ปัญหาชัตดาวน์ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจสุขภาพ และจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับลง หลังสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มเกินคาด
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 56.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 65.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับเพิ่ม หลังดอลลาร์แข็งค่า
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่1287.60 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำเช่นกัน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-การเมืองไทย: วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน การยุบพรรคไทยรักษาชาติ
# วันนี้หรือ 7 มี.ค.62 เป็นวันครบกำหนดตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน การยุบพรรคไทยรักษาชาติ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ (Wait & See) เพราะหากหายไป 1 พรรค ก็จะทำให้ตัวเลือกในการเลือกตั้งหายไป
-กกร.คงประมาณการเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยปี 2562 ไปก่อน แม้การส่งออกปีนี้มีโอกาสจะขยายตัวได้ต่ำ
# ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ยังคงกรอบประมาณการเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยปี 2562 ไว้ตามเดิมไปก่อน แม้จะมีความเป็นไปได้ที่การส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้ต่ำกว่ากรอบล่างที่ประมาณการไว้ โดยจะขอรอดูสถานการณ์ต่างๆ ก่อนที่จะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจในช่วงการประชุม กกร.เดือนถัดไป โดย กกร.ได้ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปีนี้ขยายตัว 4.0-4.3% การส่งออกขยายตัว 5-7% และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 0.8-1.2%
-ภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อมูลค่าเศรษฐกิจไทยจำนวนมาก
# ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบในเบื้องต้นของสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ที่ส่งผลกระทบต่อความเสียหายของข้าวนาปรังและอ้อยเป็นหลัก อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจราว 15,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.1%ของ GDP แต่ทั้งนี้เป็นการประเมินในเบื้องต้น ซึ่งหากรวมผลเสียหายของพืชเกษตรอื่น อาจทำให้มีมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่าที่ประเมินไว้
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]