เมื่อวานราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่น TOP SPRC ESSO และหุ้นกลาง-เล็ก เช่น PRM JMART BEC CBG ฯลฯ ขึ้นดีกว่าตลาด ส่วนดัชนีฯ มีหลุด 1,630 จุด ระหว่างวัน แต่สุดท้ายดีดกลับขึ้นมาได้. "ตามที่ประเมิน"               

          วันนี้คาดดัชนีฯแกว่งในกรอบ 1,634-1,645 เพื่อรอขึ้นในอีก 1-2 วันข้างหน้า ส่วนการขึ้น XD รับปันผลของหุ้นใหญ่วันนี้ เช่น PTT BH BCP CBG TU คาดจะให้ปันผลฟรี (ราคาหุ้นลงน้อยกว่าปันผล) เหมือน หุ้นใหญ่หลายตัวที่ XD ฟรี ไปก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวสะท้อน ภาวะความโลภที่มากกว่าความกลัว ในตลาด และ จะหนุนให้ดัชนีฯปรับขึ้นต่อได้ (แนะไม่ต้องไปสนว่า XD กี่บาทจะกระทบดัชนีฯกี่จุด เพราะ เราไม่ได้ซื้อดัชนี)   

          ระยะสัปดาห์ เรายังคงมองตลาดหุ้นไทย พักฐาน เพื่อเล่นขึ้นต่อ กรอบสัปดาห์นี้ ต้องมาลุ้นการตั้งหลัก แนวรับ 1,630 จุด อีกครั้ง และให้น้ำหนัก 60% ไม่หลุด ระหว่างสัปดาห์ อาจหลุดแล้ว จะดีดกลับมายืนเหนือ 1,630 ได้ 

          ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพักตัวของตลาด... 1) การเมืองในประเทศ; คดียุบพรรค ทษช.อาจสร้างความสับสนต่อตลาดจากความวิตกการร้องเรียนและชุมนุมต่างๆ (แต่เราเชื่อว่า จะผ่าน ความวุ่นวายทางการเมื่องในสัปดาห์นี้ไปได้) 2) พักรอข่าวดี รอลุ้นข้อสรุปผลเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน เป็นต้น ส่วนการฟนตัว ช่วงปลายสัปดาห์ คาดว่าจะหนุนด้วย ถ้อยแถลง ประธาน FED และ ECB...              

 

What to watch: 

          (+) วันพุธนี้ (คืนนี้) รายงาน FED beige book คาดเฟดจะย้ำสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น และ ย้ำเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าไม่ได้อยู่ในระดับที่เสี่ยงต่อวิกฤต (ซึ่งดูได้จาก การขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และล่าสุดเมื่อวาน ดัชนีฯ ISM ภาคบริการ (กพ.) ยังคงเพิ่มขึ้น เป็น 59.7 ดีกว่าตลาดคาดที่ 57.2)       

          (+) พรุ่งนี้ การประชุมธนาคารกลางยุโรป คาดว่าประธาน ECB จะให้มุมมองต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เช่นเดียวกับ เฟด 

          (+) เดือน มีค. (คาดช่วงกลางเดือนรู้ผล) MSCI จะพิจารณานำ กระดาน NVDR มารวมคำนวณในดัชนีฯ MSCI Thailand / รอลุ้นถ้ารวมคำนวณจริงคาด น้ำหนักหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จาก 2.5% บลจ.บัวหลวง คาดดึงดูดเม็ดเงินต่างชาตเข้าไทย 6.4 หมื่นล้านบาท  

          (*) ศาล รธน.นัด แถลงด้วยวาจา และ ลงมติ วินิฉัย คำร้อง ยุบพรรค ทษช.วันที่ 7 มีค.นี้

          (+) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทั้งหมดที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้   

 

          WORK BEC RS  การเรียกคืนคลื่น 2600MHz จาก MCOT ซึ่งจะมีผลจากนี้ไปอีก 120 วัน และจะเข้าสู่ขั้นตอนจัดสรรคลื่น และ ประมูลคลื่น ซึ่งความชัดเจนนี้ จะส่งผลบวกต่อการเก็งกำไรหุ้น ทีวีดิจิตอล จากประเด็นการได้รับการเยียวยา บวกกับตัวเลข โฆษณา ที่ Nielsen รายงานพบว่า เม็ดเงินโฆษณา เดือน มค.พลิกบวกแล้ว    

 

          เราคาดการณ์กำไรสุทธิของหุ้นที่เรา Cover ทั้งหมดปรับตัวลดลง 14% YoY  (จากกำไรพิเศษใน 1Q18 โดยเฉพาะกลุ่ม พลังงานและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงอาจจะไม่มากเท่าที่คาด หากราคาน้ำมันใน 1Q19 ปิดเหนือ $53.8 ซึ่งเป็นราคาปิด ณ สิ้นไตรมาส 4Q18 จะทำให้บริษัทในกลุ่มมีการบันทึก Inventory gain) และกำไรหลักปรับตัวลดลง 4% YoY สำหรับ 1Q19 เราคาด 9 จาก 19 กลุ่มรายงานกำไรหลักเติบโต YoY โดยกลุ่มที่เติบโตหลักๆมากกว่า 15% YoY ประกอบด้วย กลุ่มอาหาร (การฟนตัวของราคาหมูและไก่), Consumer finance (สินเชื่อเติบโต), กลุ่มนิคมฯ (ยอดโอนทีดินมากขึ้น) และกลุ่มอสังหาฯ (เร่งโอนก่อนปรับใช้มาตรการ)   

 

BPP: Coal's still got a lot of juice! 

          ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟาปรับตัวขึ้นมา 5% นับแต่ต้นปี มากกว่า SET ที่ขึ้นมา 3.2% ในขณะที่ BPP ขึ้นมาเพียง 1% เรามองเป็นโอกาสที่ BPP จะวิ่งไล่ตามกลุ่มเพราะแนวโน้มที่สดใสเราคาดกำไร 1Q19 จะโตแรง 167%QoQ เพราะไตรมาสนี้ไม่มีปิดซ่อมบำรุง และในมุม YoY โตถึง 185%YoY เพราะปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายคดีหงสา นอกจากนี้ valuation ถูกที่สุดในกลุ่มฯ เพียง PE 13 เท่า และยังมีโอกาสปรับกำไรขึ้นหากเงินบาทอ่อนค่าไปมากกว่า 31.9 บาท/$ แนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 27 บาท 

 

DDD: Recovery in the price 

          DDD ตั้งเป้า top 3 ของตลาด facial skin care ในไทยภายใน 5 ปี ซึ่งต้องเพิ่ม market share เป็น 12% และอัตราการเติบโตของยอดขายในประเทศเฉลี่ย 20% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า นอกจากผลักดันยอดขายแล้ว ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สิ่งที่เน้นในปีนี้คือช่องทาง traditional trade บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มร้านขายในช่องทางนี้ บริษัทคาดว่ายอดส่งออกไปจีนจะเท่ากับปีที่แล้ว และจะหันไปเน้นที่ฟิลิปปินส์มากกว่า สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นนั้นบริษัทมองว่าจะอยู่ใกล้เคียงจากปีก่อน เราจึงแนะนำ "ถือ" อย่างไรก็ดีประมาณการกำไรของเรายังต่ำกว่าเปาหมายของบริษัทซึ่งราคาเปาหมาย 30 บาท มีโอกาสปรับขึ้นหากบริษัททำได้ตามเปาหมาย 

 

FN: Now RISKS VS. Rewards 

          กลยุทธ์ได้เคย แนะนำ ซื้อเก็งกำไร FN เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2019 ราคาหุ้นขณะนั้น 1.20 บ. สะท้อน PBV 0.80 เท่า ด้วยเราเห็นว่าความเสี่ยงด้านล่างค่อนข้างจำกัด และ Upsides ด้านบนเปิดกว้าง เราเชื่อว่าบริษัทฯมี Assets ที่ดีในมือ เช่น ทรัพย์สินที่ดินทำเลงาม ซึ่งพร้อมต่อยอดและเพิ่มมูลค่ากิจการ สินค้ายอดนิยมเช่น Bedding accessories, เครื่องนุ่งห่ม และ สินค้าต่างๆ ที่เป็น House Brand ที่แข็งแกร่ง ในตลาด และบริษัทมีแผนที่จะพลิกฟนรายได้จาก 3 กลยุทธ์ คือ 1) หาพันธมิตรเพิ่มการใช้ประโยชน์รอบม Mall  2) เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้ง offline/online 3) ปรับรูปแบบ Mall ให้เป็น lifestyle มากขึ้น อย่างไรก็ดีเรามองว่าอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะเห็นความชัดเจน และราคาหุ้นที่ราคาหุ้นแรลรี่มาถึง 1.9 บ. (PBV 1.3x) สะท้อน Risk ที่ดูมากกว่า Reward เราจึงปิดสถานะซื้อเก็งกำไร

 

Media: Ad spend dipped in Jan 

          เม็ดเงินโฆษณาเดือน ม.ค. ปรับตัวลดลง 2% YoY และ 14% MoM โดยหลายๆสื่อเม็ดเงินโฆษณาที่ถูกใช้ลงไปมีการปรับตัวลดลง จะมีเพียงสื่ออินเทอร์เน็ต, ทีวี และวิทยุที่มีการใช้งบปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY  ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดก่อนหน้า โดยปกติในเดือน ม.ค. จะเป็นช่วง Low season ของการใช้งบโฆษณาอีกทั้งปีนี้ผู้ใช้งบต่างรอความชัดเจนของการเลือกตั้ง แต่หลังจากมีการประกาศวันที่แน่นอนช่วงปลายเดือน ม.ค. เรามองว่าจะเริ่มเห็นเม็ดเงินโฆษณากลับเข้ามาในตลาดมากขึ้นในเดือน ก.พ. โดยเฉพาะในเดือน มี.ค. ที่ปกติจะเป็นช่วง High season ของการใช้งบ และยังมีงบที่อั้นมาจากช่วงต้นปี เรายังชอบสื่อนอกบ้านอย่าง VGI และ PLANB รวมถึง RS มากที่สุดในกลุ่ม 

 

          (*) AAV  ยกเลิกแผนการเข้าซื้อหุ้น NOK จาก ผถห.ใหญ่ (ที่มา ตลท.) 

          (*) ครม. อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช แล้วในกรอบวงเงิน 6,645.03 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ที่มา เดลินิวส์) 

          (+) DDD  นายสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดูเดย์ดรีม ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แบรนด์สเนลไวท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ราย โดยปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 30-40 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ รองรับการเพิ่มไลน์การผลิตให้มากขึ้น และสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรม โรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ที่มา เดลินิวส์)  

          (+) BCP GGC  ครม.ไฟเขียวภาษีรถยนต์ลดฝุนพิษ หั่นภาษีรถไฟฟาเหลือ 0% สำหรับรถที่ผลิตในปี 2563-65 จากเดิม 2% ส่วนรถปิกอัพที่ใช้มาตรฐานยูโร 5 ใช้บี 20 ได้ ลดภาษีตามเครื่องยนต์ สูญรายได้ 1,500 ล้าน (ที่มา เดลินิวส์) / ข่าวบวกต่อ (BCP GGC) ผู้ประกอบการที่เชื่อมโยงกับ น้ำมันดีเซล B20 ที่จะเพิ่มส่วนผสมของปาล์มน้ำมันลงในน้ำมันดีเซล 

          (+) MCOT  (BEC RS WORK) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า วันนี้ (5 มี.ค.62) ที่ประชุม กสทช. เห็นชอบการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) จำนวนรวม 190 MHz โดยเรียกคืนจากบมจ. อสมท (MCOT) จำนวน 154 MHz กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก และกรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย รวม 2 หน่วยงานอีก 12 MHz ที่เหลือเป็นคลื่นว่างที่ไม่มีการใช้งาน เพื่อนำมาจัดสรรใหม่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล เพื่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น 

          ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็น 45 วันนับจากวันที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่ พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขการยุติการใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืน โดยในระหว่างดำเนินการให้สามารถใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืนดังกล่าวไปพลางก่อนได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 120 วันนับจากที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่ (ที่มา กสทช.) 

          BLS ประเมินตัวเลขรายได้จากการจ่ายเงินชดเชยค่าคลื่น 2600 ให้กับ MCOT ครั้งนี้ ขั้นต่ำราว 1 พันล้านบาทหรือ คิดเป็น 1.5 บาท ต่อหุ้น ซึ่งราคาหุ้นเมื่อวาน ได้ขึ้นมาสะท้อนข่าวนี้ไปแล้ว 

          ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ตามมา คือ ทีวีดิจิตอล ซึ่งการประมูลคลื่น 2600 ยิ่งทำได้เร็วเท่าไร ความชัดเจนในการเยียวยาผู้ประกอบการ ทีวี ดิจิตอล จะยิ่งหนุนราคาหุ้น (+ BEC RS WORK) 

          (+) เปิดรายชื่อ ผู้เข้าซื้อซองงาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 สาย รวมมูลค่ากว่า 6.1 หมื่นลบ.  

          ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.- 5 มี.ค.62 มีเอกชน 11 ราย เข้าซื้อซองงาน O&M มอเตอร์เวย์ สายบางปะอินนครราชสีมา  ได้แก่. 1. บมจ.ทางยกระดับ ดอนเมือง 2.บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) 3.บมจ.กัลฟ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) 4. บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) 5. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 6.บริษัท ซีวิลเอนจิเนียริ่ง จำกัด 7.Metropolitan Expressway Company Limited 8.China Horbour Engineering Company Limited 9.บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) 10.บริษัท สี่แสงโยธา จำกัด 11. บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟากรุงเทพ (BEM)  

          ส่วนเอกชนเข้าซื้อซองงาน O&M มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 7 ราย ได้แก่ 1. UNIQ 2. GULF 3. BTS 4. ITD และ 5. บริษัท ซีวิลเอนจิเนียริ่ง จำกัด 6.Metropolitan Expressway Company Limited 7.China Horbour Engineering Company Limited 8.STEC 9. บริษัท สี่แสงโยธา จำกัด 10. BEM  

          ทั้งนี้กำหนด ให้ยื่นซองเอกสารร่วมลงทุนดังกล่าวในวันที่ 27 มิ.ย.62 (ที่มา ASPEN)  

 

          SET Index แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2,390 ต้าน 2,410 BSET100 รับ 10.40 ต้าน 10.50 / BMSCITH รับ 12.33 ต้าน 12.43 

 

Topic: "Short-term bull, Long-term bear" 

 

          ดัชนีดีดกลับจากจุดต่ำสุดที่ 1629 ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณกลับตัวระยะสั้น (Rising sun) อย่างไรก็ตามเครื่องมือวัดโมเมนตัมระยะกลาง MACD, Stochastic, DI- ส่งสัญญาณเตือนการอ่อนแรงให้ผลลัพธ์เชิงลบ ภาวะตลาดมีแรงซื้อกลับในหุ้นที่ปรับตัวลงลึก สอดคล้องกับกราฟแท่งเทียนบ่งชี้สัญญาณกลับตัว อย่างไรก็ตามแนวโน้มระยะกลางเครื่องมือวัดโมเมนตัม บ่งชี้ความอ่อนแรงด้านราคา ขณะที่โครงสร้างหลักดัชนีปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 25-days EMA 

 

          แม้ดัชนีจะรีบาวด์กลับขึ้นมาจากการปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ตามโครงสร้างตลาดแต่ยังไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25-days EMA ทำให้แนวโน้มระยะกลางมีความเสี่ยงและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นเกิดใหม่ Emerging markets 

 

          แนะเลือกหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัวหรือกลุ่มที่ได้ประโยนช์เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาล    

          Technical screen Bull Signal: ESSO, SPRC, TCAP 

          Technical screen Bear Signal: BEM, CPN, MTC, KBANK, SCB (close below 5&25-days EMA ) 

          Port หุ้นคงเหลือแนะถือต่อ: PTTGC, IVL, TASCO, UTP, DTAC, PSL, JMT, PRM, BGC, BJC, RS  

 

          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 

          [email protected] +662-618-1334 

 

          ESSO 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 11.00  

          ต้าน 13.00/13.50  

          เหตุผล Bollinger band บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง หนุนด้วย RSI แสดงความแข็งแกร่งด้านราคา 

 

          SPRC 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 10.40  

          ต้าน 11.40  

          เหตุผล ส่งสัญญาณฟนตัวจากกรอบล่างหนุนด้วย Stochastic บ่งชี้การกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้น 

 

          TCAP 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 55.00 

          ต้าน 60.00 

          เหตุผล ทะลุกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น "Ascending triangle" พร้อมกับวอลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญบ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง