- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 March 2019 16:44
- Hits: 1565
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์แต่ไปไม่ไกล... ภาพใหญ่ยังไซด์เวย์
KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์รีบาวด์แต่ไปไม่ไกล... ภาพใหญ่ของหุ้นไทยยังคงไซด์เวย์ ปัจจัยบวกหลักได้แก่ข่าวการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีน ที่คืบหน้าไปอีกระดับ... ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กและวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่าสหรัฐฯ และจีนใกล้บรรลุดีลการค้าแล้ว และในกรณีดีที่สุด (best case scenario) สหรัฐฯ อาจยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน (ปัจจุบันเก็บอยู่ 10% กับสินค้ามูลค่า 2 แสนล้านเหรียญฯ และตลาดยังไม่ได้รับรู้การยกเลิกภาษีจีนในประมาณการเศรษฐกิจโลก) เบื้องต้นสื่อต่างประเทศคาดว่าทรัมป์ - สี เจิ้น ผิงจะประชุมสุดยอดในวันที่ 27 มี.ค. นี้ อย่างไรก็ดี SET Index ไม่น่าจะเด้งไปไกลนัก เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศเช่น i) ผลประกอบการไตรมาส 4/2561 ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดค่อนข้างมาก ส่งผลให้กำไร บจ. ทั้งปี 2561 ลดลง 1.3% จากปี 2560 ส่วน EPS ปี 2562 ขณะนี้เราประเมินไว้ที่ 113.5 จุด คิดเป็น forward PE2562 ที่ 14.5 เท่า ซึ่งไม่ได้ดึงดูดมากนักในเชิงของ valuations ii) ตลาดยังคงติดตามข่าวสารการเมืองในประเทศ โดยในวันที่ 7 มี.ค. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณีที่ กกต. ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SABINA, RS*
SABINA (ยังไม่มีเป้าหมายใน Bloomberg consensus) 1) ประเมินแนวรับ 26 บาท / แนวต้าน 29 บาท (Stop loss 25 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum จะเป็นบวกใน 1Q62 - 2Q62 หลังจากที่พ้นช่วง Low season ใน 4Q61 (มีค่าใช้จ่ายโปรโมชั่น + โบนัสพนักงาน) 3) จากการประชุมนักวิเคราะห์ ประเมินการปรับกลยุทธ์ i) เน้นการขายออนไลน์ และทีวีช้อบปิ้ง ลด SG&A ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้น ii) เน้นการจ้างผลิต (จากโรงงานที่จีนและเวียดนาม) ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุน สามารถจ่ายปันผลในอัตรา Payout ratio 100% ได้ (รอบนี้ปันผล 0.54 บาท XD 7 พ.ค.) 4) ปลายปี 2561 ผู้ถือหุ้นใหญ่ Big lot หุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น (28.78%) ให้กับนักลงทุนสถาบัน ราคาเฉลี่ย 25 บาท ทำให้ประเมินว่า Downside ด้านราคาต่ำ มีโอกาสรีบาวด์ที่ทุนของนักลงทุนสถาบันได้
RS* (เป้าพื้นฐาน 25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.4 บาท และ 17.8 บาท ตามลำดับ / แนวต้าน 19 บาท และถัดไป 21.8 บาท (Stop loss 17.4 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการจับมือกับทางช่องไทยรัฐทีวี เพื่อขายสินค้าความงามและสุขภาพ จะเพิ่มรายได้จากช่องทางขายใหม่นี้ราว 400 ล้านบาท (จากเดิมคาดรายได้จากการขายสินค้าความงามและสุขภาพ 2.7 พันล้านบาท) ซึ่ง RS* จะจ่ายเป็นส่วนแบ่งรายได้ทำให้สามารถบริหารอัตรากำไรให้คงที่ได้ 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q62 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 4Q61 โดยจะเริ่มการขายสินค้าผ่านช่องทางไทยรัฐทีวีเดือน มี.ค.นี้
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น Quantamental: Valuation ของ SET index กลับสู่ระดับ Neutral จากเดิมที่เป็น Buy signal ในเดือน ม.ค. และตัวชี้วัดแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง - ยาว อย่าง Term spread (Yield curve) และ Default spread (หุ้นกู้ BBB - AAA) ส่งสัญญาณที่ไม่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นมากนัก แต่ Valuation ยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ จึงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เลือก CKP* (Stop loss 4.6 บาท), AAV* (Stop loss 4.4 บาท), TK (Stop loss 9.3 บาท) / สำหรับนักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อย (เน้นที่ปัจจัย Value เลี่ยงปัจจัย Momentum) เลือก SPRC* (Stop loss 9.5 บาท), ROJNA (Stop loss 4.7 บาท), BJCHI (Stop loss 1.8 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) จับตา AAV* ซื้อหุ้น NOK (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) มาร์เกตแชร์เพิ่ม-การแข่งขันลดจับตาดีล "ไทยแอร์เอเชีย" เดินเกมซื้อหุ้น "นกแอร์" เพื่อขยายอาณาจักรโครงข่ายการบินโลว์คอสต์ คาดท้ายสรุป "จุฬางกูร" เปิดทางรับทรัพย์ หลังแบกภาระขาดทุนต่อเนื่อง ขณะที่ "การบินไทย" อาจเริ่มขยับตัวช่วยเสริมศักยภาพ หลังปลดล็อกกลุ่มผู้บริหารเดิมโบกมือลา ส่วนรายย่อยแก้มปริมีแต่ได้มากกว่าเสีย
(-) THAI* งบวูบหมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) เล็งล้างขาดทุนสะสม ชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียว 26 เม.ย.นี้ THAI* แจ้งงบปี 61 ขาดทุนป่นปี้ 1.16 หมื่นล้านบาท เหตุต้นทุนน้ำมันเครื่องบินพุ่งเกือบ 20% แถมขาดทุนด้อยค่าฯอีก 3.4 พันล้านบาท เตรียมชงที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 26 เม.ย.นี้ เพื่อขออนุมัตินำทุนสำรองฯและส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสม 2.8 หมื่นล้านบาท หวังได้จ่ายปันผลหากมีกำไรเกิน 300 ล้านบาท
(+) CPN* ขายทรัพย์เข้า 'REIT' มูลค่า 6 พันล. ไตรมาส 2 ชัด (ทันหุ้น) CPN* เตรียมสินทรัพย์เข้า CPNREIT คาดชัดเจนช่วงไตรมาส 2/2562 ปักหมุดรายได้ปีนี้โต 12-13% จากปีก่อน วางงบลงทุนกว่า 19,000 ล้านบาท ปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม และสร้างศูนย์การค้าใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอสังหาด้านศูนย์การค้าในเวียดนาม คาดสรุปลงทุนปีนี้ เผยเตรียมออกหุ้นกู้ 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์ และรองรับการลงทุนใหม่
(+) WHAUP* เปิดเกมรุกธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (ทันหุ้น) บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP*) เปิดแผนธุรกิจปี 2562 เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปริมาณการขายน้ำ 120 ลูกบาศก์เมตร ส่วนไฟฟ้ามียอดตามสัดส่วนการถือหุ้น 570 MW รวมถึงธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2/62 พร้อมจ่อขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค. เพื่อจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.2115 บาท วันที่ 22 พฤษภาคม นี้
(+) GULF* ขายไฟกฟผ.กำลังผลิต 135.2 MW มีอีก 2 โรงต่อคิวรอ (ทันหุ้น) GULF* ประกาศขายไฟโรงไฟฟ้า GNPM กำลังการผลิต 135.2 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้ง 25.0 ตันต่อชั่วโมง ให้กฟผ. 90 เมกะวัตต์ มีสัญญา 25 ปี ส่วนที่เหลือขายให้กับอุตสาหกรรม จ่อ COD เพิ่มอีก 2 โครงการ ภายในเดือนพ.ค.-ก.ค. 2562
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
DTAC* (เป้าพื้นฐาน 46 บาท) แนะนำ "Let profit run" โดย กำหนดจุด Trailing stop ล๊อกกำไร 50 บาท
MBK* (เป้าพื้นฐาน 28.5 บาท) ประเมินแนวรับ 21.2 บาท / แนวต้าน 22.1 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 21.2 บาท)
CAZ (เป้าพื้นฐาน 6.0 บาท) ประเมินแนวรับ 4.50 บาท / แนวต้าน 4.80 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 4.34 บาท)
THANI* (เป้า Consensus 8.72 บาท) ประเมินแนวรับ 7.45 บาท / แนวต้าน 7.65 และ 8.20 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 7.35 บาท) ... ปันผลเป็นหุ้น 4:1 และ เป็นเงินสด 0.29 บาท XD วันที่ 7 มี.ค.
SGP* (เป้าพื้นฐาน 14.9 บาท) ประเมินแนวรับ 9.8 บาท / แนวต้านแรก 10.5 บาท (Stop loss 9.75 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ฝ่ายวิจัยฯประเมินรายได้ปี 2562 โต +13.7% YoY จากคาดว่า SSSG จะเพิ่มขึ้นเป็น +3.5% จาก +1.1% ในปี 2561 และจำนวนห้างใหม่เพิ่มขึ้น YoY และประเมินอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30bps ในปี 2562 product mix ดีขึ้น แต่เนื่องจาก Upside จำกัดจึงแนะนำเพียง "ถือ"
CBG* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 60 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก โดยเห็นสัญญาณบวกมากขึ้น จากการลดต้นทุนที่อังกฤษและการรุกขายตรงมากขึ้นสำหรับธุรกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน อัตรากำไรดีขึ้นจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง บวกกับการเติบโตของการส่งออกไปพม่า และตลาดอื่นๆ ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562 - 63 ขึ้นอีก 23% และ 20% ตามลำดับ และปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"
BDMS* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 32.2 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯคาดว่า BDMS* จะรับรู้กำไรก้อนโตจากการขายหุ้น RAM ทั้งหมดที่ถืออยู่ให้กับผู้ซื้อสี่ราย ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562 เป็น 1.60 หมื่นล้านบาท (+74.3% YoY) เพื่อสะท้อนถึงกำไรพิเศษก้อนโต 6.09 พันล้านบาท
TRUE* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 6.0 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 - 63 ลง สะท้อนงบฯที่อ่อนแอใน 4Q61 แต่หลังการปรับลดประมาณการฯลงยังมี Upside จากราคาเหมาะสมอยู่ จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843