WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aecบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET เสี่ยงแกว่งลงต่อ แม้ปัจจัยต่างประเทศจาก Trade War ที่มีความคืบหน้า และแนวโน้มการชะลอการขึ้น ดบ.ของ FED แต่มองตลาดรับรู้แล้ว ขณะที่ปัจจัยในประเทศ มองช่วงสั้นเป็นลบจาก Flow ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายห้าวันติดต่อกัน บวกกับ Consensus ปรับคาดการณ์กำไรปีนี้ลดลง มอง SET มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ระดับ 1,630 จุด
Market Factors
•          (+) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้าหลักจีนเปิดเผยข้อเสนอในการลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯในสินค้าเกษตรเคมีภัณฑ์และยานยนต์และสินค้าอื่นๆ โดยทางสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเซ็นข้อตกลงในเดือน มี.ค.
•          (-) สศช.เผยความเหลื่อมล้ำไทยยังสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค โดยปี 60 พบว่ามีประชากรที่มีรายได้สูง 10% มีส่วนแบ่งรายได้คิดเป็น 35.5% ขณะที่สัดส่วนของประชากรรายได้ต่ำสัดส่วนกว่า 40% แต่มีส่วนแบ่งรายได้เพียง 12% ของคนทั้งประเทศ พร้อมกับเสนอมาตรการต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาเป็นแนวทางแก้ปัญหา โดยเสนอให้รัฐปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ-เก็บภาษี “Capital Gains Tax” เป็นหนึ่งในแนวทางดังกล่าว ( ไบรท์ทีวี)
•          (-) ข้อมูลจาก สศช. รายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือนเริ่มมีสัญญาณที่ต้องระมัดระวัง โดยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อส่วนบุคคลในQ4/61 อยู่ที่ 2.66% เทียบกับ 2.73% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนยอดค้างชำระหนี้เกิน 3 เดือน อยู่ที่ 9.9% เทียบกับ 9.6% ในไตรมาส 3 ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตค้างชำระเกินเดือนเพิ่มขึ้น 0.3% สำหรับหนี้ครัวเรือน ณ Q3/61 อยู่ที่ 12.56 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% YoYขณะที่สินเชื่อเพื่อการบริโภคของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 9.4% จึงต้องติดตามแนวโน้มการก่อหนี้เพื่อการบริโภคอื่นๆ ด้วย        (โพสต์ทูเดย์)
•    (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน Month to date ต่างชาติเริ่มขายสุทธิ 1,778.95 ลบ.
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เรามอง SET Index แกว่งย่อลงต่อหลังประกาศงบปี 61 เสร็จ ซึ่งจากข้อมูลของ Blooomberg Consensus ได้ทยอยปรับลดประมาณการ EPS ของดัชนีต่อเนื่องโดยตั้งแต่ต้นปี62EPS อยู่ที่ 114.91 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 110.34 บาท หรือลดลง 3.98%Year To Date ซึ่งทำให้ PE Valuation ของ SET Index ปรับตัวสูงขึ้นปัจจุบัน FWD PE ปี 62 อยู่ที่ระดับ 14.88x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 12.96%YoY ขณะที่ประเทศอื่นใน TIP Market ล้วนแล้วแต่มี PEG ต่ำกว่า 1x ได้แก่ JCI Index (อินโดนีเซีย) FWD PER ปี 62 อยู่ที่ระดับ 15.65x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 31.8%YoY และ PCOMP Index (ฟิลิปปินส์) FWD PER       ปี 62 อยู่ที่ระดับ 16.22x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 17.83%YoY ดังนั้นมองความน่าสนใจในการลงทุนของตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าภูมิภาค และมองว่าเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจะชะลอซื้อในตลาดหุ้นไทย
โดยSET มีแนวรับที่ระดับ 1,630จุด ทั้งนี้การปรับตัวลงของ SET เป็นโอกาสเข้าซื้อ3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส TBSP และ SYNEX นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น), RS (มองปัญหาหลักทั้งกระแสกังวลต่อมาตรฐานสินค้าในกลุ่ม H&B และปัญหา Supply Chain ของสินค้าในกลุ่ม H&L บรรเทาลง ขณะที่บริษัทมีแผนเพิ่มไลน์สินค้าใหม่กว่า 100 SKU บวกกับมีช่องทางขายใหม่จากข้อตกลงร่วมกับไทยรัฐทีวี (เป้ารายได้ 550 ลบ.) หนุนให้คาดปี 62 จะมีกำไรปกติโตเด่น 51.9%YoY), TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
•    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำSAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 30.8%YoY จากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoY สอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก 300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.) และ MTC (คาดกำไรปี 62 โต 33.7%YoY หนุนด้วยแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่อีก 35%YoY ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมี NPL ต่ำสุดในกลุ่ม) 
Quantitative Screening
•    หุ้นกลุ่มที่มี Perfomance Improvement น่าสนใจ หลังประกาศงบปี 61 ทั้งในแง่ของการเติบโตของรายได้และกำไร รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่ระดับ PER ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ของ Sector ย้อนหลัง 3 ปี แนะนำ MAJOR, PORT, TVO, PSH, AMANAH และ ASK
  
    1-Mar-19    Change (pts.)    28-Feb-19
SET Index    1,641.44    -12.04    1,653.48
SET50 Index    1,091.76    -7.54    1,099.30
SET100 Index    2,405.95    -19.21    2,425.16
 
 
 
High    1,656.64    Gainers          465 
Low    1,640.57    Unchanged    426
Value (Bt m)    48,408.90    Losers   985 
Volume (*000)    16,789,239          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.9    13.6    13.6
EPS Growth (%)    13.9    9.3    8.2
EV/EBITDA (x)    10.0    9.3    9.3
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.2    3.5    4.0
ROE    11.6    11.7    11.6
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    1-Mar-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (3,141.97)    (591.81)    (3,141.97)    23,621.36
Proprietary    548.36    2,170.46    548.36    4,493.96
Foreign     (1,778.95)    (7,215.42)    (1,778.95)    1,532.53
Individual    4,372.56    5,636.77    4,372.56    (29,647.85)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!