- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 March 2019 16:25
- Hits: 1405
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลงแรง -12.04 จุด (-0.73%) ปิดที่ 1,641 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท สวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นตอบรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เนื่องจากความกังวล Fund Flow ไหลออกหลังเงินบาทอ่อนค่าลงเร็ว ประกอบกับหลายบริษัทเผยผลประกอบการ 2018 ออกมาน่าผิดหวังส่งผลให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,779 ล้านบาท และNet Short TFEX 17,656 สัญญา รวมทั้งขายสุทธิตลาดพันธบัตร 1,394 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index รีบาวด์ขึ้นทดสอบบริเวณ 1,650 จุด จากประเด็นบวกสหรัฐ-จีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐจะยกเลิกการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% ส่วนจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ รถยนต์และสินค้าอื่นๆจากสหรัฐ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลัง PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนก.พ.อ่อนตัวลงสู่ระดับ 53 จุด ประกอบกับแรงขาย Sell on fact งบปี 2018 รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net sell ตามแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะยังคงกดดันให้ดัชนีผันผวนและสลับอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
• กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF, TU) อิเล็คทรอนิกส์ (KCE, SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
• กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : JMT (ปิด 13.4 ซื้อ/เป้า 15.7) แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ all time high ต่อเนื่องขณะที่ภาพรวมทั้งปีเราเพิ่มคาดการณ์กำไรในปีนี้และปีหน้าขึ้น 6% และ 8% ตามลำดับจากความสามารถในการซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาบริหารได้สูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้, PSL (ปิด 9.1 ซื้อ/เป้า Consensus 11.6) ดัชนีค่าระวางเรือเริ่มฟื้นตัว ได้ Sentiment บวกจากราคาคาน้ำมันดิบที่ปรับลง และยังได้ปัจจัยหนุนจากข่าวจีนและสหรัฐจะยกเลิกเก็บภาษีสินค้าระหว่างกัน เป็นบวกโดยตรงต่อกลุ่ม Global play โดยเฉพาะกลุ่มเดินเรือ, TWPC (ปิด 8.2 ซื้อ/เป้า 10) เข้าสู่วัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ คาดกำไรสุทธิปีนี้กลับมาโตเท่าตัวเป็น 536 ล้านบาทเติบโต 190%yoy จากแรงส่งของต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและปริมาณการผลิตและขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นจากอัตราการผลิตกลับสู่ภาวะปกติที่ 60-70% จาก 40-50%
Top picks ปี 2Q19 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : BA (ปิด 12.1 ถือ/เป้า 12), BANPU (ปิด 16.1 ซื้อ/เป้าใหม่ 21 จาก 22), CBG (ปิด 55.75 ถือ/เป้าใหม่ 50 จาก 36), GULF (ปิด 80 ถือ/เป้า 89.5), TRUE (ปิด 4.82 ปรับเป้าเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 6.8 จาก 6.1)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (+) คาดเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังเดินหน้าต่อแม้แคนาดาจะอนุมัติให้ส่งตัว เมิ่ง หว่านโจว ไปดำเนินคดีในอเมริกา : เมื่อวันศุกร์กระทรวงยุติธรรมแคนาดาระบุว่าจะอนุญาติให้ส่งตัว นางสาวเมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงของหัวเหว่ยไปดำเนินคดีในอเมริกา ประเด็นนี้ทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและอาจจะเป็นฉนวนเหตุให้การเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศต้องยุติลง เรามองเป็นแค่ Sentiment เชิงลบในช่วงสั้นเท่านั้น และยังเชื่อว่าการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าจะเดินหน้าต่อ ซึ่งล่าสุดสหรัฐประกาศเลื่อนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% ออกไปแล้ว โดยจะมีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงกลางเดือนนี้ และหากการเจรจายังคืบหน้าต่อคาดว่าสหรัฐอาจจะพิจารณายกเลิกภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ที่สหรัฐเรียกเก็บในอัตรา 10% ออกไปด้วย ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกให้ดัชนีปรับขึ้นมากกว่ากรอบที่เราเคยประเมินไว้
• (+) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ดี เงินเฟ้อปรับตัวลง ตอกย้ำมุมมองเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% อีกครั้งในการประชุมเดือนนี้ : สหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.พ. ลดลงสู่ระดับ 53 จาก 54.9 ในเดือน ม.ค.นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.ลดลงสู่ระดับ 93.8 จาก 95.5 ในเดือน ม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภค (PCE) ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค.ยังทรงตัวที่ระดับ 1.9% ตามเดิม ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี และอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่ถึงกรอบเป้าหมายของเฟดที่ 2% จึงมั่นใจได้ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ต่อไปอีกสำหรับการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือน มี.ค.นี้
• (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - น้ำมันดิบร่วงแรง 1.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กังวลดีมานด์ชะลอตัว ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีนที่ยังอ่อนแอ : ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้าเป็นผลจากซัพพลายซึ่งตลาดตอบรับการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC + Non OPEC จำนวน 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเริ่มมีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.19 อย่างไรก็ตามเนื่องจากดีมานด์หรือความต้องการยังปรับขึ้นไม่ทันสะท้อนผ่านตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักๆของโลกที่ยังอ่อนแอ อาทิ ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ ดัชนีภาคการผลิตของจีนยังต่ำกว่าระดับ 50 ส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกไปก่อนเพื่อรอดูแนวโน้มของการฟื้นตัวของทิศทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป
• (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม 7 มี.ค.ศาลรัฐธรรมนูญนัดศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาลงมติวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี