- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 September 2014 15:26
- Hits: 1590
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1590 จุดเลือกเก็งสั้น – ต่ำกว่าขาย
ตลาดหุ้นทั่วโลกวานนี้มีลักษณะทั้งขึ้นและลงไร้ทิศ ทางรวมถึงราคาน้ำมันเบรนท์ลดลงต่ำกว่า US$97 และทองคำยังปรับตัวขึ้น ส่วนตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวบวกและลบในกรอบ 8.5 จุด (จุดสูงสุดที่ 1597.5 และต่ำสุดท่ 1588.97) ปิดที่ 1591.89 จุด (+1.76 จุด, +0.11%) กลุ่มที่ปรับตัวขึ้นเช่น สื่อสาร ธนาคาร ปิโตรฯ พาณิชย์ โรงพยาบาลและขนส่ง ปรับตัวลงเช่น อสังหาฯ พลังงาน วัสดุฯ อิเล็กทรอนิกส์ และมีเดียส์ มูลค่าการซื้อขาย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 52,052 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอย่างมีนัยสำคัญอีก 4,623 ล้านบาท (1-24 ก.ย. ซื้อสุทธิ 21,012 ล้านบาท) กองทุนในประเทศขายสุทธิ 1,519 ล้านบาท (1-24 ก.ย. ขายสุทธิ 5,671 ล้านบาท)
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
สหรัฐฯจะประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่เติบโต 4.5% จากเติบโต 4.2% ในการประกาศครั้งก่อนหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.ย.ลดลงเหลือ 104.7 จาก 106.3 ในเดือนส.ค. และอ่อนลงมากกว่าคาดการณ์ที่ 105.7 ซึ่งตอกย้ำถึงแนวโน้มที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจลดลงจากเดือนส.ค.
ครม.อนุมัติกรอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 58 ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และเร่งเบิกจ่ายงบปี 2557 ที่ยังไม่เบิกจ่ายอีก 1.6 แสนล้านบาท โดยให้เร่งโครง การทั้งหมดภายใน 3 เดือนรวม 2.6 แสนล้าน นอกจากงบประมาณภาครัฐ ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณประจำปี 58 ของรัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่งโดยมีเงินลงทุนกว่า 1.3 ล้านล้านบาท และคาดว่ารายได้รวมของรัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่งจะอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท รายจ่ายรวม 1.92 ล้านล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.3 หมื่นล้านบาท ธปท. คาดว่ารายจ่ายและการลงทุนภาครัฐจะส่งผลจีดีพีในไตรมาส 4 โต 4-5% และเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ระดับ 1.5-2%
การที่ตลาดยังรักษาแรงดีดตัวทางขึ้นเมื่อวานได้นั้น ในวันนี้เราประเมินสำคัญที่ 1,590 จุด หากตลาดยืนเหนือระดับ 1,590 จุดอาจยังคงทรงตัวในกรอบ 1,590-1,600 จุด (แนวต้านสำคัญ) ยังคงแนะนำเลือกตัวซื้อเก็งกำไรสั้น โดยมีจุดตัดขาดทุน (เลือกเก็งหุ้นที่ราคาปรับลดลงมาก หรือยังไม่ปรับขึ้นมากนักเพื่อคาดหวังผลแห่ง Window Dressing ในหุ้นรายตัวเช่น PTTEP, BCP, BTS, VGI) ในกรณีที่ SET ลดลงต่ำกว่า 1,590 จุด เรามองว่ามีโอกาสปรับฐานราคาทางลง แนะนำขาย (TTA, PSL, ICHI, QH) วันนี้เราปรับลดพอร์ตลงทุนระยะกลางลงอีก 10%
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตลงทุนอีก 10% เหลือ 20%
วันนี้เราปรับลดพอร์ตลงทุนในสัดส่วนถือครองหุ้น 30% ลงเหลือ 20% และเพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดจาก 70% เป็น 80% ด้วยการขายหุ้น 2 บริษัท คือ PTTGC และ KBANK โดยรับรู้ส่วนต่างขาดทุน PTTGC เฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7% และส่วนต่างกำไร KBANK เฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +2.4% คิดเป็นส่วนต่างสุทธิ +1.7% หุ้นที่เหลือถือครองในพอร์ต 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC
Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1590 จุด ต่ำกว่า รอ
สถานะพอร์ตจำลอง
พอร์ตหุ้น 30% ถือเงินสด 70%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +3.4%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.4%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +4.8%
ผลตอบแทนตลาด SET = +17.7%
ลดพอร์ตหุ้นลง 10% เหลือ 20%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130