WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective Buy //Continue to Hold
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Down ตลอดทั้งวันโดยกลุ่มพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง รวมถึงรอติดตามประเด็นการเมืองในประเทศวันพรุ่งนี้ นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้น 621 ลบ. และ 266 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Short ใน Index Futures อีก 4.4 พันสัญญา)
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้คือประเด็นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ รวมถึงอัยการนัดพบแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจับตาการพบกันของทรัมป์-คิมวันนี้ ส่วนประเด็น Brexit ต้องติดตามการลงมติวันที่ 12 มี.ค. ว่าหากคว่ำข้อตกลงฉบับปัจจุบันของเทเรซา เมย์จะขยายเวลาเส้นตายจากวันที่ 29 มี.ค.ออกไปหรือจะแยกตัวแบบไร้ข้อตกลง อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่ทำให้ตลาดผ่อนคลายได้บ้างคือการส่งสัญญาณของประธาน FED ที่จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างผ่อนคลายและอาจปรับนโยบายลดขนาดงบดุล 
          กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 4Q18 แข็งแรก่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวเน้นถือต่อเนื่อง
          หุ้นเด่นเดือน ก.พ : EA, ERW, GLOBAL, SAPPE, SEAFCO
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$230ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$196ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$20ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอลงเพื่อติดตามผลการประชุมทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
 
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SYNEX <<
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 16.25 บาท (ตัดขาดทุน 13.20 บาท)
          - กำไร 1Q19 มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง Y-Y เพราะกระแสตอบรับ Samsung S10 ค่อนข้างดี เราคาดกำไรทั้งปี 2019 ที่ 835 ลบ. +16% Y-Y
          - การปรับขึ้นของหุ้นมือถือวานนี้ มาจากความคาดหวังยืดจ่ายค่าสัมปทาน ถ้าทำจริงจะทำให้ Cash Flow รองรับการเข่งขันได้ดีขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกกับ SYNEX ที่เป็นผู้ Supply มือถือรุ่นราคาไม่แพงให้เกือบทุก Mobile Operator
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (+) TMB แจ้งตลาดฯถึงการตกลงการจัดทำ MOU ร่วมกับ TCAP และ BNS เพื่อดำเนินการควบรวมกิจการกับ TBANK โดยจะมีการเพิ่มทุน 2 ส่วน ได้แก่ (1) การเพิ่มทุนจำนวน 5-5.5 หมื่นลบ. ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ TBANK ในราคา TMB ที่มูลค่าทางบัญชีเท่ากับ 1.1 เท่า และ (2) การขายหุ้นเพิ่มทุนอีกจำนวน 4-4.5 หมื่นลบ.ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB หรืออาจเป็น PP แต่คาดว่า TCAP ING และ ก.การคลังจะเข้าถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 20% ส่วน BNS จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เราคาดว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนจะอยู่ที่ราว 2.50 บาท (อิงจาก 2018 BVS ของ TMB ที่ 2.26 บาท) ผลกระทบต่อ TMB เราคาดว่าเป็นบวก บนสมมติฐานการได้ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลภายใต้การสนับสนุนการควบรวมสถาบันการเงิน ส่วน TCAP จะไม่เสียประโยชน์หากถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงกว่า 25% กรณีนี้เราแนะนำซื้อ TMB มากกว่า TCAP โดยราคาเหมาะสมเดิมอยู่ที่ 2.58 บาท 
          (+) MINT ประกาศกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 1,500 ลบ. +47.1% Q-Q, -6.9% Y-Y แต่หากตัดรายการพิเศษทั้งจากดีลซื้อ NHH และด้อยค่าสินทรัพย์ต่างๆออกซึ่งมีหลายรายการ กำไรปกติจะอยู่ที่ 2,133 ลบ. +109.2% Q-Q, +32.4% Y-Y ดีกว่าคาดราว 28% จากการรวมงบของ NHH ตั้งแต่ 2 ต.ค. 18 ส่งผลให้ปี 2018 มีกำไรสุทธิ 5,445 ลบ. +0.5% Y-Y ส่วนกำไรปกติอยู่ที่ 5,957 +10% Y-Y เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2019 ที่ 6,371 ลบ. +17% Y-Y และราคาเหมาะสมที่ 45 บาท แนะนำซื้อลงทุน ปันผล 0.40 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 1.1% และแจก Warrant อัตราส่วน 20 หุ้นเดิมต่อ 1 Warrant (XD และ XW 26 เม.ย.)
          (+) ERW ประกาศกำไรปกติ 4Q18 ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อยที่ 180 ลบ. +333.5% Q-Q, +11.5% Y-Y จากรายได้ที่โตในอัตราเร่งจากการเปิดโรงแรมใหม่ ขณะที่ Margin ขยายตัวได้ดีกว่าคาด ส่งผลให้ทั้งปี 2018 มีกำไรปกติรวม 536 ลบ. +1.7% Y-Y โมเมนตัมการเติบโตในปี 2019 คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค. 19 ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนโดยเฉพาะจีน เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติที่ 609 ลบ. +13.5% Y-Y คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 8 บาท
          (+) RS ผู้บริหารแจ้งจะเริ่มขายสินค้าในช่องไทยรัฐทีวี ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.นี้ โดยตั้งเป้ายอดขาย 500 ลบ. และแบ่งรายได้ให้ 30% เรามองบวกเป็นการเพิ่มช่องทางการขายของสินค้าธุรกิจ MPC ที่บริษัททำได้ค่อนข้างดี คาดทำกำไรปี 2019 เพิ่ม 10% และปี 2020 เพิ่ม 14% หากได้ต่อสัญญารายปี ขณะที่มองแนวโน้มผลประกอบการใน 1Q19 ยังแข็งแกร่งจากยอดขายธุรกิจ MPC ทำ New High แม้รายได้ช่อง 8 ลดลง Q-Q แต่เพิ่ม Y-Y อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเกือบ 16% น่าจะรับข่าวบ้างแล้ว แนะนำซื้อสะสม ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 20 บาท จากเดิม 18 บาท โดยระวังการขายหุ้นซื้อคืน 43 ล้านหุ้น (4.3%) ราคาเฉลี่ย 10.52 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด ขายคืนในตลาดได้ภายใน 30 พ.ค.ปีนี้
          (0) CHG แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1H19 ของ CHG คาดว่ายังไม่สดใส เพราะยังถูกกดดันจากผลขาดทุนเริ่มแรกของโรงพยาบาลที่เปิดใหม่ใน 2H18 รวมถึงฐานกำไรที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่ากำไรของ CHG จะกลับมาเติบโต Y-Y ได้อีกครั้งใน 2H19 เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2019 ลง 11% เหลือ 657 ลบ. +3.7% Y-Y สะท้อน Margin ที่ต่ำกว่าคาดจากต้นทุนที่พุ่งขึ้นจากการลงทุน ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 2.70 บาทเหลือ 2.20 บาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปค่อนข้างมากและทำให้ Upside ยังเปิดกว้าง จึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยเหมาะสำหรับการลงทุนระยะ 6 เดือนขึ้นไป 
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 ก.พ.      - ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ และอัยการนัดพบแกนนำพรรคอนาคตใหม่
27-28 ก.พ.   - ประชุมผู้นำสหรัฐฯและเกาเหลีเหนือ
28 ก.พ.      - จีน: PMI ภาคการผลิตและบริการ (ก.พ.)
 
          (-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเล็กน้อยจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน
          (+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ตอบรับกับข่าวที่อังกฤษ อาจเลื่อนกำหนดวัน Brexit ออกไป
          (+) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น จากคำพูดของ FED ที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน ให้สอดคล้องไปกับข้อมูลเศรษฐกิจปัจจุบัน
          (-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น +0.02 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรล 
          (-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง -1.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1328.5 ดอลลาร์/ออนซ์
          Contact person : Jitra  Amornthum  
          Register : 014530
          Tel: 02-646-9966
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!