- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 February 2019 21:14
- Hits: 4294
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เฟดแถลงครึ่งปีเป็นบวก ติดตามผลประกอบการปี 61”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -8.19 จุด ปิดที่ 1663.56 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 53.1 พันล้านบาท ดัชนีบ้านเราสอดคล้องกับภูมิภาคแถบนี้ที่ปรับลงถ้วนหน้า มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง หลังเจรจาการค้าคืบหน้า มีโอกาสเลื่อนเส้นตาย 1 มี.ค.ออกไป เป็นที่รับรู้ไปพอควรแล้ว ราคาน้ำมันกลับมาปรับลงหลังทรัมป์กดดันโอเป็กให้ระงับการขึ้นราคาน้ำมัน อีกทั้งมีหลายบริษัทประกาศกำไรน่าผิดหวัง ผู้ขายสุทธิเป็น ต่างชาติ 0.6 พันลบ. และสถาบัน 0.3 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ รายย่อย 0.6 พันลบ. และพอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันลบ. ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET มีลักษณะ Sideways รอปัจจัยบวกใหม่ๆ ขณะที่เฟดแถลงครึ่งปียังเป็นโทนบวกเหมือนเดิมคือ อดทนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ ปัจจัยบวกคือ ราคาน้ำมันกลับมาขึ้น ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้เป็นบวก และบอนด์ยิลด์สหรัฐอ่อนลง
# ปัจจัยลบคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบางตัวออกมาอ่อน ภาวะ Brexit ไม่แน่นอน ในเรื่องหัวข้อการยื่นสภาฯ ดาวโจนส์ปรับลง บาทกลับมาอ่อนเล็กน้อย และยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมือง รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/61- ตลอดปี 61 และการประกาศจ่ายปันผล
# กลยุทธ์ คือ หาก SET ปรับขึ้น เก็งกำไรรอบสั้นได้แนวต้านเป็น 1670-1680 จุด แต่หากมีแรงขาย แนวรับเป็น 1630,1620 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น AOT : ภาพการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรากฏให้เห็น โดยเฉพาะจีนที่มีบทบาทสำคัญ ก็ฟื้นมาตั้งแต่ ธ.ค.61หลังลดมา 5 เดือนติดกัน สำหรับการเติบโตของผู้โดยสารต่างประเทศ AOT ม.ค.62 และ 1-9 ก.พ.62 ได้เพิ่มขึ้น 8.1% และ 5.8% ตามลำดับ ส่วนข่าวดีคือ การประมูลสัมปทานการบริหารพื้นที่จะยี่นให้คณะกรรมการ AOT ในวันที่ 20 ก.พ.62 นี้แล้ว และจะใช้เวลาพิจารณานานเพียงใด ก็ขึ้นกับมูลค่าโครงการ แต่ AOT คาดประกาศผู้ชนะได้ประมาณ ก.ย.62แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 75.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนเป็นลบเล็กๆ ที่ไม่ตัดประเด็นมีรีบาวด์นก่อนได้ {“ปิดลบ”แต่ยังยืนเหนือ“SMA10วัน”ได้ (โดยยัง“ติด”แนวต้าน และยังถูกกดดันด้วย“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบ“เริ่ม”ให้น้ำหนักกับการลงแต่ “ค่าบวก” จะช่วยรักษาภาพของการรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1670 (หรือ 1680) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1655” (แนวรับย่อย“1630 – 1620” จุด)}
สำ หรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ JMT,EPG,MBK,ADVANC,AOT,JWD หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH,HANA หุ้นที่หลุด ListPYLON,AMATA,ERW,IRPC,PTL,WORK หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือTHANI,TVO,BH
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 39.00)
BEAUTY (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 7.00)
IRPC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 6.45)
PTT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 55.00)
Flash Note : ERW (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 9.00)
IVL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 65.00)
MINT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 46.00)
ORI (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 8.70)
QH (Review)
RJH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 24.00)
SAWAD (ถือ -ราคาพื้นฐาน 50.00)
WHA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 4.92)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Hot Issue : TMB & TBANK : เซ็นบันทึกข้อตกลงควบรวมกิจการมูลค่ารวม 1.3-1.4 แสนล้านบาท
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เฟดแถลงแผนครึ่งปีคล้ายเดิม อดทนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ
# นายพาวเวลได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการตัดสินใจด้านนโยบายอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับ นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งเฟดกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับนโยบาย หากมีความจำเป็น
# นักลงทุนจับตานายพาวเวลซึ่งมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
- สหรัฐ : นักลงทุนกังวลผลประกอบการ
# นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.16 ดอลลาร์/หุ้น
-สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเป็นลบ
# ทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยหุ้นโทลล์ บราเธอร์สลดลง 0.1% หุ้นพัลท์กรุ๊ป ลดลง 0.4% หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ลดลง 0.4% และหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ลดลง 0.5%
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนธ.ค.ร่วงลง 11.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.078ล้านยูนิต จากระดับ 1.214 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
+ สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเป็นบวก
# ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนส.ค.2558 และชะลอตัวลงจากระดับ 5.1% ในเดือนพ.ย.
# ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 131.4 ในเดือนก.พ. จากระดับ 121.7 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้น รวมทั้งการยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์)
+/- อังกฤษ: นายกฯเมย์เสนอสภาลงมติฯ
# ความคืบหน้ากระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยหนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเสนอต่อรัฐสภาเพื่อให้มีการลงมติว่า อังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป(Brexit) โดยไร้ข้อตกลง หรือจะมีการเลื่อนกำหนดเวลาในการแยกตัวจากเดิมวันที่ 29 มี.ค. หากรัฐสภามีมติคว่ำข้อตกลงBrexit ของนางเมย์ในวันที่ 12 มี.ค.
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับลง ขานรับวิตกผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจ
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,057.98 จุด ลดลง 33.97 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,793.90 จุด ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,549.30 จุด ลดลง 5.16 จุด หรือ -0.07%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม การที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น เป็นปัจจัยหนุนตลาด และช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงไม่มากนัก
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับขึ้น มีความหวังโอเปกลดกำลังการผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 2 เซนต์ หรือไม่ถึง 0.05% ปิดที่ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงก็ตาม ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับลง ยังมีแรงขายทำกำไร
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่1,328.50 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 คืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไรแม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนม.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) ม.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.จากมารกิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ม.ค. 62 ขยายตัวเล็กน้อย
# สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ม.ค. 62 อยู่ที่ 107.99ขยายตัว 0.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 70.47% โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อ MPI ได้แก่ ยานยนต์, เครื่องปรับอากาศ และน้ำตาล ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง
-ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ม.ค.62 ลดลง
# มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC CONFIDENCE INDEX : TCC-CI)ประจำเดือน ม.ค.62 อยู่ที่ระดับ 48.0 ลดลงจากเดือนธ.ค.61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.4 ขณะที่มุมมองต่อดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในอนาคต ช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 49.9 จากเดิมที่ 50.6
+ รับเหมาก่อสร้าง: ครม.อนุมัติงบระบบรถไฟฟ้า
# ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)รวม 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานีได้แก่ สถานีพระราม 6, สถานีบางกรวย - การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และสถานีบ้านฉิมพลี ในกรอบวงเงิน 10,202.18ล้านบาท และ 2.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต ในกรอบวงเงิน 6,570.40 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]