WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรหลังเมื่อวานนี้ทำ High ในรอบ 1 เดือน บวกกับเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาด (Brent และ WTI) ปรับตัวลงเฉลี่ย 3.31% โดย SET มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,678 จุด (Previous High) และแนวรับที่ระดับ 1,661 จุด
Market Factors
•          (Watch) จับตาถ้อยแถลงทิศทางนโยบายการเงินและภาวะ ศก. ของประธาน FED นายเจอโรมพาวเวล โดยคาดว่า FED จะยังคงระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเดินหน้ายุติการลดงบดุลในช่วงสิ้นปีนี้
•    (+) บอร์ดบีโอไอเห็นชอบอนุมัติส่งเสริม 5 โครงการในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 40,462 ลบ.หนุนการใช้วัตถุดดิบจากยางธรรมชาติในประเทศกว่า 3,000 ลบ./ปี (ฐานเศรษฐกิจ)
•    (+) บอร์ด กทพ.เร่งผลักดันแผนลงทุนมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท เข้าสู่การเสนอขออนุมัติ ประกอบด้วยโครงการทางด่วน จ.ภูเก็ต ช่วงกะทู้-ป่าตอง วงเงินมากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท (ส่งเรื่องเข้าบอร์ดพีพีพี ก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม.) โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท (รอเอกชนประกวดราคาเดือนมีนาคม) และโครงการทางด่วนสายเหนือ ช่วงวงแหวนตะวันออก-แยกเกษตร เร่งผลักดันให้เห็นความชัดเจนใน ปีนี้ (โพสต์ทูเดย์)
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 114.92 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 110.54 บาท หรือลดลง 3.81%Year To Date
•    (-) SpreadThai Government Bond ระหว่าง 2 Year-10 Year Yield ปรับลดลงเหลือ -66.6556 bps จากระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ. 61 ที่ -54.547bps โดยเป็นการปรับตัวลดลงของ Yield ใน 2 Year และปรับเพิ่มขึ้นของ Yield ใน 10 Year แสดงให้เห็นถึงการความต้องการพักเงินในตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า
•    (+) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และ Month to date ซื้อสุทธิ 2,018.34 ลบ. ส่งผลให้ Year to date ต่างชาติซื้อสุทธิ 8,739.96 ลบ.
Investment Strategy
•    แม้สัปดาห์นี้เราจะมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index จากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน บวกกับ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD อย่างไรก็ดียังคงต้อง    จับตาการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของ Consensus ซึ่งจะทำให้ EPS ของ SET Index ปรับตัวลดลง และ PE Valuation ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นเป้าหมายของการขายทำกำไร ดังนั้นเราจึงมองว่า SET Index สัปดาห์นี้จะแกว่งขึ้นแบบ Sideway-Up โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,678 จุด และแนวรับที่ 1,661 จุด (Gap เมื่อวาน) ยังคงแนะนำซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น: โดย Year To Date ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นอานิสงส์บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าและสายการบิน เลือก SYNEX      (ปี 61 ประกาศกำไรโต 15.65%YoY และปี62 ตั้งเป้ารายได้โต10-15%YoY โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำราว50% ,กลุ่มConsumer Product ราว 30% และส่วนที่เหลือมาจากกลุ่ม Commercial Product ราว 20% โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าเพื่อจำหน่ายอย่างน้อยอีก 4-5 แบรนด์โดยเฉพาะในกลุ่มกล้องวงจรปิดหรือระบบรักษาความปลอดภัยจากปัจจุบันที่มีแบรนด์สินค้าทั้งสิ้น60 แบรนด์), FTE (แม้ปี 61 กำไรสุทธิทรงตัว YoY หลังมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่ปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีปัจจัยบวกจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง     ภาครัฐฯ และเอกชน (เน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า) หลังบริษัทเพิ่มรายการสินค้า และเปิดช่องทางจำหน่ายใหม่) และ AAV (นอกเหนือจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังมีประเด็นบวกต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงโดย QTD Singapore Jet Kero Spot เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 72.22 USD/barrel ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยช่วง 1Q61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ77.72 USD/barrel และต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.97 USD/barrel)
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), RJH (ปี 62 คาดรายได้โตราว10-15% จากกลยุทธ์การให้บริการเฉพาะทางทั้ง Heart Center , MRI,Check Up และการเปิดศูนย์ฟอกไตเทียมเฟสใหม่ที่มีเครื่องฟอกไตเพิ่มอีก8ยูนิตรวมเป็นทั้งหมด 35         ยูนิต), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการ  Wellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
•    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 32.1%YoY จากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoY สอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก 300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของ Yield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoYทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมีNPL ต่ำสุดในกลุ่ม) 
Quantitative Screening
•    Dividend Theme โดย Screen หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากการขึ้นเครื่องหมาย XD รอบนี้โดดเด่น แนะนำ KGI (7.8% XD 18 เม.ย. และจ่ายปันผล 8 พ.ค.), NYT (5.7%, XD 3 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค.) และ PSH (5.2%, XD 11 มี.ค. และจ่ายปันผล 22 พ.ค.)
 
    25-Feb-19    Change (pts.)    22-Feb-19
SET Index    1,671.75    12.55    1,659.20
SET50 Index    1,114.72    8.84    1,105.88
SET100 Index    2,457.57    21.05    2,436.52
 
High    1,674.54    Gainers       888 
Low    1,664.92    Unchanged    464
Value (Bt m)    56,660.81    Losers  541 
Volume (*000)    14,260,427          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    15.1    13.9    13.9
EPS Growth (%)    13.9    9.3    15.5
EV/EBITDA (x)    10.0    9.4    8.9
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.5
Dividend Yield (%)    3.1    3.4    No Data
ROE    11.6    11.6    11.9
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    25-Feb-19    WTD    MTD    YTD
Institution    3,092.41    3,092.41    17,274.13    27,305.57
Proprietary    236.10    236.10    3,863.64    2,559.60
Foreign     (7.98)    (7.98)    2,018.33    8,739.97
Individual    (3,320.52)    (3,320.52)    (23,156.11)    (38,605.15)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!