ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น +12.55 จุด (+0.76%) ปิดที่ 1,671 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท ตามปัจจัยบวกที่ปธน.ทรัมป์เตรียมขยาย deadline การปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไป 1 เดือนหลังการเจรจาการค้ามีความคืบหน้าไปมาก รวมถึงแรงซื้อกลุ่ม Energy, Petro จากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิเล็กน้อย 8 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,171 ล้านบาท รวมทั้ง Net Short TFEX 7,989 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,667 – 1,680 จุด โดยแม้ว่าภาวะการลงทุนยังคงได้ sentiment เชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนมีความคืบหน้ามากและสหรัฐเตรียมขยาย deadline การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากวันที่ 1 มี.ค.ออกไปอีก 1 เดือน อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลังปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกผ่อนคลายราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับแรงขาย Sell on fact หลังการประกาศงบและเงินปันผล 2018 ที่อาจกดดันให้ดัชนีอ่อนตัว นอกจากนี้คาดว่าจะมีการชะลอการลงทุนเพื่อติดตามประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงถัดไป

•    กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

•    STEC, AMATA, WHA, BEM ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

•    กลุ่มที่คาดว่ากำไร 4Q18 และปี 2019 เติบโตต่อเนื่อง SAWAD, MTC, IHL, EA

หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 48.25 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 4Q18 ประมาณ 1.12 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%yoy แนวโน้ม 1Q19 คาดกำไรสุทธิพุ่งทำ All time high รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค., SAWAD (ปิด 51 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 55) คาดมีกำไรสุทธิ 4Q18 ประมาณ 821 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%qoq และ 52%yoy จากยอดสินเชื่อขยายตัวขณะที่ NIM ยังเพิ่มขึ้น ส่วนปีนี้คาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่องอีก 30%yoy เป็น 3,500 ล้านบาท, STA (ปิด 16.6 ซื้อ/เป้า 22) คาดกำไรสุทธิ 4Q18 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแรงหนุนของธุรกิจถุงมือยางที่มีกำไรมากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนภาพรวมธุรกิจที่มีอยู่ (ยางธรรมชาติ 4 บาท และ ถุงมือยาง 18 บาท)

Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS

KSS report วันนี้ : CPN (ปิด 78.25 ซื้อ/เป้า 93), RATCH (ปิด 54.50 ซื้อ/เป้า 62), TOP (ปิด 74 ซื้อ/เป้า 90)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.78$/bbl จากข่าวปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ กดดันกลุ่ม OPEC ให้ระงับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน : ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันผ่านทวิตเตอร์ โดยระบุว่า ราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงเกินไป OPEC ควรระงับการปรับขึ้นราคา เนื่องจากโลกไม่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น การแสดงความเห็นดังกล่าวกดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงแรงกว่า 1.78$ หรือ -3.1% ปิดที่ 55.48$/bbl (YTD ราคาน้ำมันดิบ WTI +5%) เป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรฯ

•    (-) ประกาศงบ 4Q18 ระวังแรงขาย Sell on fact โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้าแต่ผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง อาทิ DDD และ BEAUTY : นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) SET Index เพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 6.9% ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Mid – Small Cap ปรับขึ้นร้อนแรงซึ่งเรามองว่าราคาหุ้นได้ปรับขึ้นสะท้อนปัจจัยบวกจากภายนอก และคาดหวังผลประกอบการไปแล้ว และให้ระวังแรงขาย Sell on fact โดยเฉพาะหุ้นที่งบออกมาน่าผิดหวัง อาทิ DDD และ BEAUTY โดย DDD มีกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 7 ล้านบาทแม้จะดีขึ้นจาก 3Q18 ที่ขาดทุนสุทธิ 0.67 ล้านบาท แต่ก็ยังเป็นระดับกำไรที่ค่อนข้างต่ำ ส่วน BEAUTY แจ้งงบ 4Q18 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 50% โดยมีกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 123 ล้านบาท ลดลง 62%qoq และ 70%yoy

•    (+/-) พรุ่งนี้ติดตามประเด็นการเมืองในประเทศ โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคำร้องที่ กกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ : ประเด็นการเมืองในประเทศอาจจะกลับมาร้อนแรงและเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดอีกครั้ง เนื่องจากพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคำร้องที่ กกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งศาลฯสามารถตัดสินยุบพรรคได้ทันที หากศาลฯเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสืบพยาน ซึ่งแนวทางนี้อาจจะดูรุนแรงและสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรค หรืออีกแนวทางคือศาลฯยังไม่ทำการตัดสิน โดยจะทำการไต่สวน ตรวจพยานหลักฐาน และนัดวันวินิจฉัยอีกครั้ง หากออกมาในแนวทางนี้น่าจะทำให้บรรยากาศการเมืองโดยรวมยังดีแนะยังไม่น่าวิตกกังวลจนเกินไป