หุ้นบวกแรง CBG และ OSP มาจากผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญทั้ง 2 ตัวเป็นหุ้นที่แนะนำซื้อในครั้งก่อน อีกกลุ่มจะเป็นหุ้นงบยังดี แต่ถูกขายเพราะขึ้นแรง ปัจจุบันราคากองอยู่ด้านล่างหรือทดสอบแนวรับ มีวอลุ่มซื้อกลับ เช่น CPF IVL PTTEP และ INTUCH และหากดูจากหุ้นที่มีวอลุ่มซื้อขายติดอันดับ top 20 พบว่าอยู่ใน SET50 และ SET100 เป็นหลักเนื่องจากรองรับกระแสเงินลงทุนไหลเข้าได้ดี ทางด้านหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก เช่น กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ปรับตัวลงเล็กน้อย เรายังคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสดีดกลับขึ้นไปได้ เนื่องจากผลการเจรจาการค้าคลี่คลายโดยล่าสุดมีรายงานว่าจีน-สหรัฐกำลังร่างข้อตกลงทางการค้าเพื่อยุติข้อพิพาทที่มีมานานกว่า 7 เดือน สำหรับข้อตกลงรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอติดตามกันต่อไป

          สรุป:ประเด็นตลาดลุ้นข่าวดีการยุติข้อพิพาททางการค้า, รอผลการประชุม ECB,การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน, ค่าเงินดอลลาร์อ่อนหนุน Fund flow ไหลเข้า 

 

          (+) เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้เริ่มร่างบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทการค้าที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้าที่ยื้ดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง 7 เดือน 

          (- )สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติม ถ้าหากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับ EU ประสบความล้มเหลว 

          (-) ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี 

          (+) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยล่าสุดเดือน ม.ค. 2019 ส่งสัญญานฟืนตัวต่อเนื่อง ที่ 3.7 ล้านคน (เติบโต 4.9% YoY) ทำสถิติสูงสุดลำดับสองในประวัติศาสตร์ หลังจากทำ new high ไปที่ 3.8ล้านคนในเดือน ธ.ค. 2018 

 

          IVL เริ่มเข้าช่วงไฮซีซั่น คาดกำไรหลักจะปรับตัวขึ้นใน Q1/19  

          AOT จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟืนตัวจะหนุนกำไรกลุ่มท่องเที่ยวโดยรวมใน 1Q19 ให้เติบโต YoY และ QoQ 

          WHA, AMATA กลุ่มที่ได้ประโยนช์จากเลือกตั้ง+กำไร Q4 เติบโตมากที่สุด

 

 

LPN ประเด็นสำคัญจากงาน Opportunity Day

          CEO มีมุมมองเชิงลบต่อภาคอสังหาฯเพื่อขายประเภทคอนโดในปี 2019 แต่ยังมีโอกาสขยายตัวในโครงการแนวราบทั้งทาวเฮาส์และบ้านเดียว โดยแผนธุรกิจปี 2019 มีเปาหมายธุรกิจแนวราบเติบโต โดยกำไรหลักที่เราคาดในปี 2019 ต่ำกว่าประมาณการตลาด 8% ทำให้เรามองว่ามีความเสี่ยงการปรับลดประมาณการจากตลาดหลังการประชุมครั้งนี้ เราแนะนำให้ ถอนตัว ในระยะสั้น โดยมองว่าเงินปันผลส่วนที่เหลือคือ 0.40 บาทต่อหุ้น (simple yield 5.4%) ทำให้หุ้นทรงตัวได้เพียงก่อน XD (27 ก.พ.)เท่านั้น จากนั้นหุ้นน่าจะเข้าสู่ระยะพักตัวจนกว่ากำไร 2Q19 ที่คาดเป็นจุดต่ำสุดของปีจะปรากฎตัว สำหรับราคาหุ้นที่ขึ้นมา YTD ได้สะท้อนปันผลดีระยะสั้นและมูลค่าหุ้นที่ถูกมากเกินไปแล้ว เราคงราคาเป้าหมายปี 2019 ที่ 8 บาท

 

TU ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์   

          มุมมองต่อผลประกอบการหลักในปี 2019 มีแนวโน้มพลิกฟืนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟืนตัว โดยมาร์จิ้นของธุรกิจทูน่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น การไม่ต้องบันทึกขาดทุนจากโรงงานแซลมอนที่สกอตแลนด์ และผลประกอบการของเรดล็อบสเตอร์ที่คาดว่าจะขาดทุนลดลง  เราประเมินว่าถึงแม้ว่ากำไรหลัก 4Q18 ออกมาต่ำกว่าคาดจากส่วนแบ่งขาดทุนของเรดล็อบสเตอร์และ SG&A ที่สูงกว่าคาด แต่เรามองว่ากำไรหลักปี 2019 มีแนวโน้มพลิกกลับมาเติบโตแข็งแกร่งอีกครั้งจากธุรกิจทูน่าซึ่งมาร์จิ้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เราอาจจะพิจารณาปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2019 ลงอีกจากรายการพิเศษตั้งสำรองพนักงานเกษียณอายุเพิ่มเติม เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากกำไรหลักที่กลับมาพลิกฟืนใน  ปี 2019 

 

Tourism - Welcome to Thailand-เปิดปีมาด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวดีเริศ 

          นักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดเดือน ม.ค. 2019 ส่งสัญญานฟืนตัวต่อเนื่อง ที่ 3.7 ล้านคน (เติบโต 4.9% YoY) ทำสถิติสูงสุดลำดับสองในประวัติศาสตร์ หลังจากทำ new high ไปที่ 3.8ล้านคนในเดือน ธ.ค. 2018 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเติบโตดีมาก 10.3% YoY ทำสถิติสูงสุดลำดับสองในประวัติกาลที่ 1.07ล้านคน  ในเดือน ม.ค. 2019 เรามองตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติดีต่อเนื่องในเดือน ก.พ 2019 จากเทศกาลตรุษจีน, ไฮซีซันของท่องเที่ยวใทยในทุกจังหวัดสำคัญ และมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล (free visa on arrival สำหรับ 21 ประเทศ) จำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟืนตัวจะหนุนกำไรกลุ่มท่องเที่ยวใน 1Q19 ให้เติบโต YoY และ QoQ: คงคาดเห็นกำไร new high ของ AOT และ ERW, เป็นสถิติสูงสุดลำดับสอง เรามองเป็นข่าวบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทั้งหมด เริ่มจากต้นน้ำสุดอย่าง AOT (BUY, TP Bt80), โรงแรมที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากท่องเที่ยวไทย ได้แก่ CENTEL (BUY, TP Bt54) และ ERW (BUY, TP Bt8.80)

 

BANK: Jan loan down, but major growth expected after election  

          ยอดการเติบโตของสินเชื่อสุทธิของ 9 ธนาคารที่เราให้คำแนะนำในเดือน ม.ค. ปรับตัวลดลง 0.4% MoM จากการจ่ายคืนสินเชื่อก้อนใหญ่ซึ่งจะเกิดเป็นปกติใน ม.ค. อยู่แล้ว โดย KTB และ TCAP รายงานยอดสินเชื่อสุทธิเติบโต MoM, BAY และ KBANK ทรงตัว ในขณะที่ BBL, SCB, TISCO, TMB และ KKP รายงานการปรับตัวลดลง เรามองว่ายอดสินเชื่อสุทธิจะฟืนตัวใน ก.พ. เรายังชอบ BBL และ KKP ที่สุดในกลุ่ม 

 

          (+) นักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดเดือน ม.ค. 2019 ส่งสัญญานฟืนตัวต่อเนื่อง ทำสถิติสูงสุดลำดับสองในประวัติศาสตร์ หลังจากเดือน ธ.ค. 2018  

          (+) FTSE  ประกาศเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จาก 1.83% สู่ระดับ 1.87% คาดเม็ดเงินไหลเข้า 5.1 พันล้านบาท HMPRO, GULF, EA, MINT, MAKRO, BEM, DIF เข้าคำนวณ Large Cap Index ส่วน MTC, GPSC เข้า Mid Cap Index มีผลวันที่ 15 มี.ค. (ที่มา ข่าวหุ้น) 

          (+) สภาพัฒน์ เผย Q4/18 GDP โต 3.7% ทั้งปีโต 4.1% สูงสุดรอบ 6 ปี (ตลาดคาด +3.6%) ส่วนปีนี้ทั้งปี คงคาด กรอบ 3.5-4.5% ตามเดิม   

 

          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 

          SET Index แนวรับ 1,640 แนวต้าน 1,655 / SET100 รับ 2,405 ต้าน 2,425 BSET100 รับ 10.46 ต้าน 10.55 / BMSCITH รับ 12.40 ต้าน 12.55 

 

Topic: "Leading sectors by breaking out 200-days EMA" 

 

มุมมองตลาด:          

          ดัชนี SET Index กำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200-days EMA ที่ 1660 จุด กรณีทะลุผ่านจะทำให้โครงสร้างระยะยาวเปลี่ยนเป็นขึ้น ดังนั้นเราจึงนำเส้นค่าเฉลี่ยมาวิเคราะห์แบ่งแยกกลุ่มอุตสาหกรรมจะแบ่งได้ 3 ประเภทคือ 1.กลุ่มปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน 2.ดัชนีกลุ่มกำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 3.กลุ่มที่ปรับตัวต่ำกว่า โดยสรุปพบว่าประเภท1 ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้างและขนส่ง จัดอยู่ในหมวด Out perform ประเภท2 ได้แก่ กลุ่มพลังงาน Inline ปรับตัวเท่ากับตลาด นอกเหนือจากนั้นจัดอยู่กลุ่มแย่กว่าตลาด Under perform  

 

          ตลาดมองโอกาสทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1660 จุด เราคาดว่ากลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้างและขนส่ง จะเป็นกลุ่มผู้นำตลาด Leading sector   

 

          ตลาดปรับขึ้นเราจะเลือกหุ้นอย่างไร? 1.เลือกหุ้น SET50 &SET100 สามารถรองรับกับกระแสเงินลงที่ไหลเข้า 2.ใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพื่อหาจุดซื้อให้เหมาะสมกับตลาดขาขึ้น เช่น  Moving average, MACD และ Stocahstic

          Technical screen Bull Signal: IVL,UTP,TASCO 

          Technical screen Bear Signal: DOD,TKN, SCCC (close below 5&25-days EMA ) 

          Port หุ้นคงเหลือ: BCH, KTC, JAS, BTS, SAT, OSP,PTTEP, PTTGC, GPSC, BDMS (แนะนำถือต่อ) 

          

 

 

          IVL 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 46.50 

          ต้าน 53.00 

          เหตุผล IVL ส่งสัญญาณฟืนตัวจากกรอบล่าง ขณะที่ Stochastic หนุนสัญญาณกลับตัว มองโอกาสทะลุต้านแรก 49 ลุ้นทดสอบต้านถัดไป 53 

 

          UTP 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 10.80 

          ต้าน 12.00-12.50 

          เหตุผล วอลุ่มคึกคักเนื่องจากราคาทะลุต้านสำคัญ 10.8 บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น 

 

          TASCO 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 14.80 

          ต้าน 16.20-16.50 

          เหตุผล ดีดขึ้นจากแนวรับสำคัญซึ่งเคยเป็นแนวรับแข็งแกร่งในอดีต ส่งผลให้วอลุ่มหนาแน่น MACD ยืนยันสัญญาณกลับตัว