WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET แกว่งผันผวนในกรอบ โดยปัจจัยต่างประเทศยังต้องจับตาการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ฝั่งตลาดหุ้นไทยต้องเฝ้าระวัง Consensus ที่ปรับคาดการณ์ EPS ปีนี้ของดัชนี SET ลงต่อเนื่องจากช่วงต้นปี มอง SET แกว่งในกรอบ 1,635-1,655 จุด
Market Factors
•          (-) ตัวเลข ศก. สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดโดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (IHS Markit PMI) ประกาศออกมาต่ำสุดในรอบ 17 เดือน (Actual 53.7 vs Forecast 54.9) และดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางฟิลาเดเฟียประกาศออกมาติดลบ (Actual -4.1 vs Forecast 15.6) ผลจากความไม่แน่นอนของห่วงโซ่อุปทานและการค้าโลก
•    (+) ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ม.ค.62 ผลิตได้ 179,595 คัน เพิ่มขึ้น 8.06%YoYโดยแบ่งเป็น ยอดขายรถภายในประเทศเพิ่มขึ้น 17.3% YoY อยู่ที่ 78,061 คัน ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปลดลง 0.59%YoY อยู่ที่ 81,583 คัน 
•    (+) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย การจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือน ม.ค.ปี 62เพิ่มขึ้นเป็น 7,311 รายเพิ่มขึ้น 78% MoM โดยมี 3 ประเภทธุรกิจที่มียอดการจัดตั้งสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, และ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าคิดรวมเป็นมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือน ม.ค. ปี 62 จำนวนทั้งสิ้นราว 17,693 ล้านบาท (ฐานเศรษฐกิจ)
•    (Watch) จับตาประกาศตัวเลขดุลการค้าของไทย เดือน ม.ค. 62 วันนี้  โดย Bloomberg Consensus คาดตัวเลขนำเข้า YoYลดลง 1% และภาคส่งออก YoY ลดลง 2.1%
•    (Watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และ Month to date ขายสุทธิ 1,253.71 ลบ. 
•    (-) SpreadThai Government Bond ระหว่าง 2 Year-10 Year Yield ปรับลดลงเหลือ -65.8519 bps จากระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ. 61 ที่ -54.547bps โดยเป็นการปรับตัวลดลงของ Yield ใน 2 Year และปรับเพิ่มขึ้นของ Yield ใน 10 Year แสดงให้เห็นถึงการความต้องการพักเงินในตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า
Investment Strategy
•    สัปดาห์หน้าเรายังคงมอง SET Index พักฐานหลัง Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.16 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 111.04 บาท หรือลดลง 3.58%YTD บวกกับ สัญญาณการพักเงินในตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า ทำให้เรามองว่า SET Index มีโอกาสแกว่งผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฝ้าระวังอย่าให้หลุดแนวรับ 1,630 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,600 จุด ดังนั้นแนะนำ Wait&See และรอซื้อกลับเมื่อตลาดปรับฐานใน 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    หุ้นที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น: โดย Year To Date ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2.56% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นอานิสงส์บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าและสายการบิน เลือก SYNEX (ปี 61 ประกาศกำไรโต 15.65%YoY และปี 62 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15%YoY โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำราว 50% ,กลุ่มConsumer Product ราว 30% และส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มCommercial Product ราว20% โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าเพื่อจำหน่ายอย่างน้อยอีก 4-5      แบรนด์โดยเฉพาะในกลุ่มกล้องวงจรปิดหรือระบบรักษาความปลอดภัยจากปัจจุบันที่มีแบรนด์สินค้าทั้งสิ้น 60 แบรนด์), HARN (แนวโน้มธุรกิจสินค้านำเข้ามีมาร์จิ้นดีขึ้น บวกกับ เป้าการเติบโตปี 61 ที่ 10.7%YoY และ      ปี 62 ที่ 8.2%YoY Backlog ณ สิ้น 3Q61 ที่ 414 ลบ.),FTE (แม้ปี 61 กำไรสุทธิทรงตัว YoYหลังมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่ปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีปัจจัยบวกจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งภาครัฐฯ และเอกชน (เน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า) หลังบริษัทเพิ่มรายการสินค้า และเปิดช่องทางจำหน่ายใหม่) AAV (นอกเหนือจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังมีประเด็นบวกต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงโดย QTD Singapore Jet Kero Spot เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ72.22 USD/barrel ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยช่วง1Q61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.72 USD/barrel และต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.97 USD/barrel)
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), LPH (หนุนด้วยเป้ารายได้ปี62 เติบโต 10-15%YoY + มีแผนนำบริษัทลูกคือบริษัทศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI คาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 63) และ RJH (ปี 62 คาดรายได้โตราว10-15% จากกลยุทธ์การให้บริการเฉพาะทางทั้ง Heart Center , MRI,Check Up และการเปิดศูนย์ฟอกไตเทียมเฟสใหม่ที่มีเครื่องฟอกไตเพิ่มอีก8ยูนิตรวมเป็นทั้งหมด 35 ยูนิต), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการ Wellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
•    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำSAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 32.1%YoYจากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoYสอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoYทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมี NPL ต่ำสุดในกลุ่ม) 
Quantitative Screening
•    Dividend Theme โดย Screen หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากการขึ้นเครื่องหมาย XD รอบนี้โดดเด่น แนะนำ KGI (8.1% XD 18 เม.ย. และจ่ายปันผล 8 พ.ค.),NYT (5.7%, XD 3 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค.) และ SAT (5.1%, XD 27 ก.พ. และจ่ายปันผล 7 พ.ค.)
 
    21-Feb-19    Change (pts.)    20-Feb-19
SET Index    1,647.32    1.94    1,645.38
SET50 Index    1,096.79    0.91    1,095.88
SET100 Index    2,416.73    2.79    2,413.94
  
High    1,651.80    Gainers                           578 
Low    1,642.49    Unchanged    485
Value (Bt m)    44,510.11    Losers                           717 
Volume (*000)    11,948,043          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.8    13.6    13.6
EPS Growth (%)    13.9    9.3    16.7
EV/EBITDA (x)    9.9    9.3    No Data
FWD PBV (x)    1.8    1.7    No Data
Dividend Yield (%)    3.2    3.5    No Data
ROE    11.6    11.7    12.1
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    21-Feb-19    WTD    MTD    YTD
Institution    1,069.37    1,190.53    14,666.52    24,697.96
Proprietary    203.50    922.74    3,236.67    1,932.63
Foreign     (260.85)    7,066.39    (1,253.72)    5,467.92
Individual    (1,012.02)    (9,179.67)    (16,649.47)    (32,098.51)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!