- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 February 2019 16:08
- Hits: 2508
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้รีบาวด์ขึ้น +9.67 จุด (+0.59%) ปิดที่ 1,645 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท ตอบรับความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสัหรัฐ-จีนในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้ามากขึ้น ประกอบกับแรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังโอเปกลดกำลังการผลิตลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นฝั่งซื้อสุทธิ 7,990 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 7,859 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 132 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดบริเวณ 1,650 – 1,655 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว เนื่องจากภาวะตลาดมีประเด็นบวกจากรายงานการประชุมเฟดที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องกับการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับความคาดหวังความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในวันที่ 21 – 22 ก.พ. เพื่อจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ก่อน deadline 1 มี.ค. หนุนให้ความกังวล Trade war ผ่อนคลายลง นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังโอเปกลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนการเมืองภายในประเทศ รวมถึงแรงขาย Sell on fact หลังประกาศงบและเงินปันผล 2018 จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
• กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 57 US/Barrel
• กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
• STEC, AMATA, WHA, BEM ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
• กลุ่มที่คาดว่ากำไร 4Q18 และปี 2019 เติบโตต่อเนื่อง SAWAD, MTC, IHL, EA, GFPT
หุ้นแนะนำวันนี้ : AOT (ปิด 68.5 ซื้อ/เป้า Consensus 70) ได้ข่าวดีคณะกรรมการมีมติเดินหน้าลงทุนโครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) มูลค่าโครงการ 4.2 หมื่นล้านบาท และ เห็นชอบแนวทางเปิดประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดจะสามารถประกาศร่างให้เอกชนเข้าร่วมประมูล (TOR) ได้ภายในเดือน มี.ค.19, EA (ปิด 47.25 ซื้อ/เป้า 63) ราคาหุ้นลดลงแรงจากแรงขายทำกำไรขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงจึงเป็นโอกาสซื้อ เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 4Q18 ประมาณ 1.12 พันล้านบาท ทรงตัว qoq แต่เพิ่มขึ้น 27%yoy แนวโน้ม 1Q19 คาดกำไรสุทธิพุ่งทำ All time high รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค., TOP (ปิด 74.25 ซื้อ/เป้า 90) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดงบ 1Q19 พลิกเป็นบวกจากค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัว และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับ 40$/bbl สู่ระดับ 55-60$/bbl
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : BTS (ปิด 10.2 ถือ/เป้า 10.4), CPF (ปิด 26 ซื้อ/เป้า 28), EPG (ปิด 7.25 ซื้อ/เป้า 9), TU (ปิด 18.7 ถือ/เป้า 19)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (+) รายงานประชุมเฟด (Fed minute) กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องให้ชะลอขึ้นดอกเบี้ย และควรประกาศแผนยุติการลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ : กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องให้เฟดควรใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ นอกจากนี้กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เฟดควรประกาศแผนยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรให้สาธารณชนได้รับทราบก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อให้นักลงทุนปรับตัวและไม่กระทบกับสภาพคล่องในระบบมากเกินไป รายงานการประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้อยู่แล้ว โดยการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรวมถึงการชะลอลดขนาดงบดุลจะกดดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เป็นบวกต่อทิศทาง Fund flow ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่รวมถึงเมืองไทย
• (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ปัจจัยบวกยังเป็นเรื่องเดิม คือ ตอบรับกลุ่ม OPEC ลดกำลังการผลิต และ คาดหวังเจรจา จีน-สหรัฐ ออกมาเป็นบวก : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ (+1.5%) ปิดที่ 56.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 และสูงสุดในรอบ 3 เดือน ปัจจัยบวกยังเป็นเรื่องเดิม คือ ตอบรับกลุ่ม OPEC ลดกำลังการผลิต และ คาดหวังเจรจา จีน-สหรัฐ ออกมาเป็นบวก และได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลัก
• (-) ทรัมป์ ขู่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปหาก สหรัฐ และ อียู ไม่มีข้อตกลงการค้าใหม่ร่วมกัน : ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอยู่ระหว่างออกรายงานวิเคราะห์ว่า การนำเข้ารถยนต์จาก EU ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่ หากรายงานระบุว่ามีผลต่อความมั่นคง สหรัฐอาจจะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน โดยมีเวลา 90 วันในการพิจารณานับจากวันออกรายงาน
• (+/-) พรุ่งนี้ติดตามรายงานตัวเลข ส่งออก/นำเข้า เดือน ม.ค.ของไทย Consensus คาด -2.1%yoy ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 : ด้วยผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตัวเลขนำเข้าสินค้าของจีนเดือน ม.ค.ยังติดลบ 1.5%yoy บ่งชี้ได้ว่าภาคการส่งออกของไทยในเดือน ม.ค.จะยังไม่ฟื้นตัว โดย Consensus คาดมูลค่าส่งออกของไทยเดือน ม.ค.จะติดลบ 2.1%yoy แย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ติดลบ 1.72%yoy และนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี