WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา SET แกว่งในกรอบแคบ โดยมีแรงขายในกลุ่มการเงินนำโดย SAWAD, MTC และหุ้นขนาดกลางนำโดย PTG, EA, TQM  ณ.สิ้นวันปิดตลาดที่ 1,635.7 จุด (-1.23 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.4 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า 4.7 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ที่ 662 ลบ. (กองทุนขายทำกำไร 301 ลบ.) แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 8,647 สัญญา
 
 
Investment theme
กำไรตลาด (EPS-SET) ยังทำระดับต่ำสุดของปีอย่างต่อเนื่อง กดดัน Upside แนะรอดูเดือนมีนาคม : เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาสสี่ที่ผ่านมาใกล้เคียงคาดที่ 3.7% (รวมทั้งปีเติบโต 4.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี) สนับสนุนจากการบริโภคในประเทศที่เติบโตสูงกว่า 5.3% และการลงทุนเติบโต 4.2% อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าที่มีผลในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นผลให้การส่งออกเติบโตต่ำเพียง 0.6% (เดือนพ.ย.-ธ.ค. พลิกติดลบ) ซึ่งเราคาดผลกระทบสืบต่อเนื่องใน 1Q19 สอดคล้องกับมุมมองการลงทุนที่เราแนะนักลงทุนให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Domestic play และ Defensive มาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา (EGCO, BEM, CPALL) โดยใน 1-2 แนะนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าครั้งที่ 7 ระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตัน   เบื้องต้นเราคาด อาจจบด้วยการเลื่อนการขึ้นภาษี 25% จากวันที่ 1 มี.ค. เป็น 1 พ.ค. (60 วัน) เราคาดตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึง SET ได้ปรับขึ้นทดสอบผลดังกล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในลักษณะยกเลิกวงเงินทั้งหมดที่มีอยู่ 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เราคาด SET มีโอกาสที่จะปรับขึ้นทดสอบ 1,670/90 จุด 
Investment Theme:  ประเมินกรอบ การแกว่งตัว SET ในเดือนก.พ.ที่บริเวณ 1,630-1,670 จุด +/- และอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดนั่นคือ กำไรตลาด (EPS-SET) ล่าสุดถูกปรับประมาณการลงเหลือ 111.2 (จากเมื่อต้นปีที่บริเวณ 116.0)
 
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาสสี่ที่ 3.7% ทั้งปีขยายตัว 4.1%  / จับตาสหรัฐ-ยุโรปเจรจาการค้าอุตสาหกรรมรถยนต์PTTGC, PLAT, GLOBAL รายงานกำไรใกล้คาด 
 
 
Stock pick : - 
Trading idea –  –  เก็งกำไร PTTEP โดยเราเลือกเป็นตัวแทน Global play ในเดือนก.พ. ราคาเป้าหมาย 150 บาท พร้อมแนะถือ Defensive & Domestic play นำโดย BEM, EGCO และ CPALL
 
Technical View
 
เริ่มเสียเทรนขาขึ้น หากหลุด 1630 Downside จะเปิดมากขึ้น:  ดัชนีแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน กลุ่มพลังงานพยายามประคองดัชนี ในขณะที่กลุ่มอื่นๆเกิดแรงขายกดดัน ส่งผลให้กราฟรายวันแท่งเทียนเริ่มหลุดกรอบ Uptrend ประกอบกับสัญญาณลบใน MACD  ระยะสั้นมองว่าหากหลุด 1630 Downside จะเปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที่ 1620 และ 1600 โดยจังหวะ Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายทำกำไรหรือลดพอร์ตการลงทุน และหากหลุด 1630 แนะนำ Stop Loss
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound พิจารณาแรงขายตามแนวต้าน แต่หากดัชนีหลุด 1630 แนะนำ Stop Loss  2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มการหยุดลงที่แนวรับ สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง หากที่ 1630 มีแรงซื้อกลับอาจเป็นจังหวะเล่น Rebound ในระยะสั้น 
แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1645, 1660
 
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ :  20 ก.พ. FED-Minute 
ปัจจัยในประเทศ :  27 ก.พ. ศาล รธน.นัดพิจารณาคดียุบพรรคทษช.
หุ้นเทคนิค:
STA (B 15.00-15.30, Tp 16.00/16.50, Cut 14.80)
GFPT (13.90-14.20, Tp 15.00//15.50, Cut 13.70)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
'อุตฯเหล็กจีน' ยึดตลาดไทย โรงงานไทยดิ้นสู้ - กำลังผลิต'เหล็กทรงยาว'เกิน 50% (กรุงเทพธุรกิจ)
ธุรกิจเหล็กจีนปักหลักลงทุนไทย ส.อ.ท.ประเมินหลังเบอร์ 1 ของจีนซื้อทาทา สตีล ดันสัดส่วนการผลิตเหล็กทรงยาวของบริษัทจีนในไทยพุ่ง 50-55% เผยโรงเหล็กไทยไม่กังวล หากใช้กติกาเดียวกัน ห่วงโดนทุ่มตลาดมากกว่า สถาบันเหล็กฯ หนุนแข่งผลิตเหล็กคุณภาพสูง
ความเห็น : อุตสาหกรรมเหล็กในไทยอยู่ในภาวะการแข่งขันสูงจากกำลังการผลิตมากกว่าความต้องการเหล็กถึงเท่าตัว  และ ยังถูกเหล็กจากจีนเข้ามาตีตลาดในประเทศ  ในขณะที่สงครามการค้าทำให้ราคาเหล็กทรุดลงตั้งแต่กลางปีก่อน  ช่วงนี้ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มเหล็ก รอสถานการณ์ดีขึ้น
 
ZEN ลุยเทรดลุ้นอร่อยวันนี้ปูพรมสาขา 348 แห่ง ปี 62-63 (ทันหุ้น)
ZEN ลงสนามเทรดวันแรกวันนี้ ราคาจอง 13 บาท โชว์จุดเด่นธุรกิจอาหาร 12 แบรนด์ 422 สาขา ลั่นเปิดสาขาเพิ่มปี 62-63 รวม 348 สาขา เน้นขยายแฟรนไชส์และเปิดเองควบคู่ ขณะที่ผลงาน 9 เดือนกำไรพุ่ง 121% ตามการขยายสาขา
ความเห็น : ZEN ดำเนินธุรกิจอาหารภายใต้ 12 แบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น Zen , AKA , On the table , ตำมั่ว,แจ่วฮ้อน เป็นต้น โดย ณ สิ้นปี 2561 มีจำนวนสาขาทั้งหมด 255 สาขา โดยมีจุดประสงค์ระดมทุนเพิ่อขยายสาขา-ธุรกิจกลุ่ม และชำระเงินกู้ ที่ราคาจอง 13 บ. จำนวน 75 ล้านหุ้น รวมมูลค่าเสนอขาย 975 ล้านบาท  เรามองว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเติบโตทั้งตามแผนขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ และผ่านรูปแบบขยายแฟรนไชส์ ตลาดประเมิน Net profit ในปีนี้ ราว 180 ลบ. +20%YoY ประเมินกรอบ P/E อิงกลุ่มธุรกิจอาหารที่ 25 เท่า  คาดกรอบราคาเหมาะสมเบื้องต้นเท่ากับ 13.00-15.00 บ.
 
'PTTGC' กำไรพุ่ง 4 หมื่นล. ปันผลครึ่งปีหลัง 2.50 บาท (ข่าวหุ้น)
PTTGC ประกาศงบปี 61 อวดกำไรสุทธิ 40,069 ล้านบาท โต 2% บอร์ดอนุมัติควักเงิน 11,272 ล้านบาท จ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีก 2.50 บาท/หุ้น แขวน XD วันที่ 5 มี.ค.นี้ แม้งบไตรมาส 4/61 โดนสต๊อกลอสและ NRV อ่วม 6,524 ล้านบาท ลุ้นปี 62 ราคาน้ำมันฟื้น 64-69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลัง EIA คาดดีมานด์น้ำมันโลกปี 62 พุ่ง 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ความเห็น :  กำไรจากการดำเนินงาน 4Q61 เป็นไปตามคาด แนวโน้มผลประกอบการปกติ 1Q62 ยังถูกกดดันจากราคา HDPE และค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง เรามอง Catalyst ในด้านผลประกอบการระยะสั้นมีจำกัด  อย่างไรก็ตามจาก Valuation ที่ไม่แพง ด้วย PER 8.4 เท่า และ PBV 1 เท่า อีกทั้งยังคาดหวังผลตอบแทนจากปันผล FY19 ถึง 5.8% เชิงพื้นฐานแนะนำทยอยสะสมสำหรับ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 83 บาท อ้างอิง PBV เฉลี่ย-0.5SD ที่ 1.2 เท่า ประกาศปันผล 2H61 เท่ากับ 2.50 บาท ใกล้เคียงคาดคิดเป็นผลตอบแทน 3.6% (XD 5 มี.ค. 2562)   
 
โรงกลั่นพลิกกำไร Q1/62 TOP,SPRC พ้นจุดต่ำสุด (ทันหุ้น)
กูรูพยากรณ์ Q1/2562 กลุ่มโรงกลั่นพลิกกำไร สต๊อกกลับมาเป็นบวก แม้ค่าการกลั่นยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่ราคาในเชิงมูลค่าสุดถูก-ปันผลสูง ชู TOP แม้มีแผนปิดซ่อมบำรุง แต่จะรับอานิสงส์มาตรการ IMO เคาะเป้า 90 บาท ด้าน SPRC ราคาหุ้นพ้นจุดต่ำสุดแล้ว คาดปีนี้โต 67% แนะซื้อเป้า 13 บาท
ความเห็น :  คาดกำไรสุทธิ 1Q62 ของกลุ่มโรงกลั่น จะพลิกกลับมาฟื้นตัว QoQ จาก การบันทึก Stock gain หลังราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัวได้ดีใน 1Q62 แต่อย่างไรก็ดี หากพิจารณากำไรจากการดำเนินการหลัก คาดยังอาจถูกกดดันจากค่าการกลั่นที่ยังคงอ่อนแอ แนะนำสะสมกลุ่มต้นน้ำมากกว่า เช่น  PTTEP
 
ทอท.ลุย 'ดิวตี้ฟรี' พร้อมชงบอร์ดสร้าง 'เทอร์มินอล2' (แนวหน้า)
ทอท. เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร(เทอร์มินอล)หลังที่ 2 วงเงินลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยหลังจากที่ได้รวบรวมความคิดเห็นจากคณะกรรมการ ACC (Airport Consultative Committee) ซึ่งประกอบด้วยฝ่ายนโยบายภาครัฐ ฝ่ายสนามบิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบินและผู้ประกอบการรวมถึงสายการบินแล้ว ทั้งนี้ จะมีการเสนอให้ทางคณะกรรมการพิจารณาว่าจะก่อสร้างแบบเชื่อมต่อกับอาคารหลังแรก หรือก่อสร้างแบบอาคารแยกเดี่ยว (Stand Alone)
ความเห็น :  จับตาวันนี้ในการประชุมบอร์ด AOT ว่าผลการพิจารณา โครงการเทอร์มินอล 2 และ การประมูลดิวตี้ฟรี จะออกมารูปแบบไหน โดยในสมมติฐานของเราให้โครงการเทอร์มินอล 2 เริ่มดำเนินการปี 2022 หากโครงการต้องเลื่อนหรือยกเลิกจะมีผลกระทบกับกำไรปี 2022 โดยปัจจุบันในเชิงพื้นฐานเราประเมินราคาเป้าหมายที่ 75 บาทต่อหุ้น ขณะที่เทคนิคระยะสั้นปรับฐาน แนวรับ 65 ต้าน 70 บาท
 
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
Research Department Tel. 02-658-5000

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!