ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วันศุกร์ปรับลงถึง -15.70 จุด ปิดที่ 1636.94 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 49.2 พันล้านบาท มีข่าวลบเข้ามาคือ ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค.61 ลดต่ำสุดในรอบ 9 ปี และตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น ระหว่างวันศุกร์มีข่าว CPI จีนม.ค.62 อ่อนกว่า ธ.ค.61 แต่ปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับการเมืองคือ มีการฟ้องยุบพรรคเพิ่มคราวนี้เป็น พลังประชารัฐ ทำให้เกิดความไม่แน่นอน และรอผลเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ ผู้ขายสุทธิเป็น ต่างชาติ3.0 พันลบ.และสถาบัน 1.5 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ รายย่อย 4.2 พันลบ. และพอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันลบ. สำหรับต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิ 1.6 พันลบ.ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ

# ระยะสั้นคาด SET มีลักษณะ Sideways ในทางเป็นบวก เพราะดาวโจนส์กับน้ำมันทะยาน หลังการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐมีผลลัพธ์ที่ดี เจรจากันต่อในสัปดาห์นี้ไม่เกิดภาวะ Shut Down หลังเส้นตายในวันศุกร์ขยายไป 30 ก.ย. ทรัมป์ใช้ภาวะฉุกเฉิน ใช้งบสร้างกำแพง

# ปัจจัยบวกคือ ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านบวกถ้วนหน้า บาทแข็ง บอนด์ยิลด์สหรัฐลด และดัชนีความกังวล (Vix) ต่ำลง แต่ปัจจัยลบคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศวันศุกร์ส่วนใหญ่ลดลง เศรษฐกิจยูโรโซน อังกฤษอ่อน ปัจจัยในประเทศติตตามการเมือง และผลประกอบการปี 61

# กลยุทธ์ คือ หาก SET ปรับขึ้น เก็งกำไรรอบสั้นได้แนวต้านเป็น 1640-1650 จุด แต่หากมีแรงขายต่อ แนวรับเป็น 1630,1620 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลางทยอยสะสม ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA

# หุ้นเด่น VGI : กำไร 3Q61-62 (ธ.ค.61) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 309 ล้านบาท (+71% y-o-y,+19% q-o-q) รายได้ธุรกิจสื่อนอกบ้านโต +8% y-o-y ดิจิทัลโต+499% y-o-y เสริมจากกลุ่มทรานส์ แอด กำไร 9M61-62 ที่ 831 ล้านบาท เพิ่มก้าวกระโดด 49% y-o-y คงคำแนะนำ ซื้อ มีแผนเพิ่มจอดิจิทัล 35 จอบน 3 สถานีหลักภายใน 2 ปี คาดว่าจะเพิ่มรายได้ในอนาคตเป็นอย่างดี กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 8.49 บาท

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบแรง”ใต้“SMA10วัน”อีกครั้ง (โดย“ติด”แนวต้าน และยังถูกกดดันด้วย“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่ก็ลุ้นรีบาวด์ฯตามมา(จากแรงหนุนของสภาวะOversoldในกราฟรายนาที)ได้ แนวต้าน (กรณี“ฝืน”ขึ้นก่อน) 1640 – 1650 จุด {แนวรับย่อย “1630 – 1620 / 1610” จุด)}

 

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ RATCH,HUMAN,OSP,SAT หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ VGI,MBK,GUNKUL,BCP,PTTGC,RJH,AH,WICE หุ้นที่หลุด List M,QH,VNT,AEONTS,MINT,TVO,TCAP,TRUE หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit ไม่มี Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

 

Company Guide : HANA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 40.75)

Flash Note : JASIF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.90)

PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 135.00)

TOP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 81.00)

U (Not Rated)

Turnover List Watch : ไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance

 

 

+ เจรจาการค้า: คืบหน้าไปในทางที่ดี เจรจาต่อสัปดาห์นี้

# ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจาต่อไปที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ทวีตข้อความระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีผลลัพธ์ที่ดี

 

+ สหรัฐ: ภาวะ Shut Down คลี่คลายไปในทางที่ดี

# นักลงทุนยังได้คลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์รอบ 2 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณ และแผนการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวจะให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลจำนวน 9 แห่งเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ยังได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส

 

- สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจประกาศวันศุกร์ที่เป็นลบ

# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนม.ค. โดยปรับตัวลง 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดิ่งลง 1.0% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าจะลดลง 0.1% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าทรุดตัวลง 1.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2559 หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนธ.ค. โดยการดิ่งลงของราคาน้ำมัน และอาหาร รวมทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคานำเข้าร่วงลง

# ส่วนดัชนีราคานำเข้าพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.2% ในเดือนม.ค. หลังจากทรงตัวในเดือนธ.ค.และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพื้นฐานทรงตัวในเดือนม.ค.

# นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค.

# ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐร่วงลง 0.6% ในเดือนม.ค. เนื่องจากการผลิตรถยนต์และเครื่องจักร ร่วงลง

 

+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ทะยาน รับข่าวเจรจาการค้า และไม่มี Shut Down

# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,883.25 จุด พุ่งขึ้น 443.86 จุด หรือ +1.74% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,775.60 จุด บวก 29.87 จุด หรือ +1.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,472.41 จุด เพิ่มขึ้น 45.46 จุด หรือ +0.61%

# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นได้ในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเจรจากันต่อไปในสัปดาห์นี้ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์)รอบ 2

 

+ ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับขึ้นดี ความคืบหน้าเจรจาการค้า และปริมาณน้ำมันโลกตึงตัว

# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 55.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 66.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และปริมาณน้ำมันโลกที่ตึงตัว

 

- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับขึ้น ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ดอลลาร์อ่อนค่า

# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่1,322.10 ดอลลาร์/ออนซ์

# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และดอลลาร์อ่อนค่าลง

 

+/- ติดตามการประกาศ GDP 4Q61 วันนี้

# โดยตลาดคาดว่า GDP 4Q61 เติบโต +3.6% เทียบกับ 3Q61 ที่เติบโต +3.3% ควรติดตามว่าจะออกมาสูงหรือต่ำกว่าคาด เพราะจะมีผลกับตลาดฯในวันนี้ได้

 

-/• การเมืองไทย: เสรีพิสุทธ เตรียมฟ้องยุบพรรคพลังประชารัฐ

# พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวในระหว่างเปิดศูนย์ประสานงานพรรค ที่จังหวัดสมุทรปราการว่า เตรียมยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐในข้อหาเสนอผู้ที่ยึดอำนาจมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าข่ายปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ (Aspen)