- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 February 2019 20:57
- Hits: 5114
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
---------------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาดดัชนี SET มีโอกาสแกว่งผันผวนในกรอบ จากการรอดูสถานการณ์ต่างประเทศของ นักลงทุนประเด็นเรื่อง Government Shutdown และการประชุมระหว่างผู้แทนการค้าสหรัฐฯ-จีนในวันที่ 15 ก.พ. นี้ อีกทั้งฝั่งตลาดหุ้นไทยต้องเฝ้าระวัง Consensus ที่ปรับคาดการณ์ EPS ปีนี้ของดัชนี SET ลงต่อเนื่องจากช่วงต้นปี บวกกับนลท.ต่างชาติพลิกกลับขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่สี่ประเมินกรอบแนวรับรายวันมาที่ 1,645 จุด และแนวต้านที่ 1,665 จุด
Market Factors
• (+) ตลาดตอบรับในเชิงบวกในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในขณะที่กำหนดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวันที่ 2 มี.ค. ได้รับการยืนยันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯนายโดนัลด์ทรัมป์อาจขยายเวลาออกไป
• (watch) จับตาประชุมบอร์ด TMB ประเด็นควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต (Bloomberg)
• (+) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ข้อมูลแผนบูรณาการและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ปี 2563 ภายใต้วงเงินราว1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร ผ่านแนวทางการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและได้รับการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพไม่น้อยกว่า 600,000 ราย ภายใต้งบประมาณบูรณาการ 6.8 พันล้านบาท, พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยการส่งเสริมแปรรูปสินค้าเกษตรในระดับชุมชน และพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า ภายใต้งบประมาณราว3.5 พันล้านบาท และ พัฒนาระบบบริหารจัดการและกลไกการตลาด เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงภาคเกษตรภายใต้งบประมาณ 1.8พันล้านบาท(ประชาชาติธุรกิจ)
• (-) เม็ดเงินโฆษณาเดือนม.ค. ภาพรวมหดตัว 2.2%YoYหลังเอเจนซี่ชะลอการใช้เม็ดเงินโฆษณาเพื่อรอความชัดเจนหลังการเลือกตั้งโดยสื่อที่ปรับลงมากสุดได้แก่นิตยสาร -33%YoY, สื่อในโรงภาพยนต์ -24.5%YoYและสื่อหนังสือพิมพ์ -19.2%YoY ขณะที่เม็ดเงินในกลุ่มออนไลน์และทีวีปรับดีขึ้น 16.8%YoYและ 3.3%YoYตามลำดับ
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรามอง SET Index พักฐานหลัง Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.16 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 111.54 บาท หรือลดลง 3.14%YTD บวกกับ นักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่สี่มูลค่ารวมเท่ากับ 4,417 ลบ. ทำให้เรามองว่า SET Index มีโอกาสพักฐานแกว่งในกรอบ1,645-1,665 จุด ดังนั้นแนะนำลดพอร์ตเพื่อถือเงินสดบางส่วน และทยอยซื้อกลับใน 3 กลุ่มหุ้นเด่นเมื่อดัชนีปรับตัวลงมาในกรอบแนวรับ ดังนี้
1. กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค: อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 70%YoY ตามการเติบโตของทั้ง4 กลุ่มธุรกิจหลักโดยกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ปีนี้มีแผนขยายพื้นที่อาคารคลังสินค้าระดับพรีเมี่ยมอีก 2 แสนตารางเมตรเป็น 2.5 ล้านตารางเมตรรองรับธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซการบินและอากาศยานควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าสูงขึ้นโดยอาศัยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมเข้ามาช่วย), EASTW ปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสอดคล้องไปกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเขต EEC ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำดิบในบริเวณดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพ (มาร์จิ้นสูง) มากขึ้น
2. กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสรุปเบื้องต้นของ ธปท.ระบุถึงการควบคุมผู้ให้บริการในระดับประเทศได้แก่ 1) ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ลบ. 2) ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ และ 3) อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 28% ซึ่งเรามองว่าไม่ได้ต่างไปจากที่ตลาดคาดก่อนหน้าแนะนำSAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 32.1%YoY จากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoY สอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก300-400สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoY ทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมีNPL ต่ำสุดในกลุ่ม) และ AMANAH (ปี 62 คาดกำไรยังโตต่อเนื่องหนุนด้วยการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อ ATM (Yield สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถแบบเดิม) มากขึ้นพร้อมทั้งเน้นขยายสินเชื่อใหม่ผ่านตัวแทนลดความจำเป็นของการเปิดสาขาใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและคุมหนี้ NPL ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น)
3. หุ้นกลุ่มที่คาดงบปี 61 กำไรโตเด่น YoY และ Consensus ยังคาดโตต่อในปี 62 ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1S.D. ในรอบ 1 ปี แนะนำ JMT (คาดแนวโน้มกำไรโตต่อเนื่องจากแผนซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันชุดใหม่มาบริหารบวกกับแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้มีหลักประกัน (LTV ต่ำ, ศักยภาพทำกำไรสูงกว่าแบบไม่มีหลักประกัน) หนุนยอดหนี้ที่บริหารอยู่แตะระดับ1.4แสนลบ. นอกจากนี้ในแง่ความสามารถในการจัดเก็บหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดีสะท้อนได้ด้วยCash Collection ที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง), PLANB (ได้รับผลบวกจากเม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกบ้านปี61โต 7%YoY บวกกับปี 62 มีแผนขยาย Media Capacity อีก 12-15%YoY หนุนให้สามารถครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นอีกทั้งบริษัทยังมีจุดเด่นจากการทำ Engagement Marketing พร้อมแผนต่อยอดธุรกิจSport Marketing ด้วยการลงทุนในร้านนำเข้าสินค้ากีฬาภายใน้แบรนด์ ATMOS) และ COM7 (มองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงได้สะท้อนแนวโน้มยอดขาย IPHONE ที่ต่ำลงไปแล้วขณะที่บริษัทได้เริ่มปรับพอร์ตสินค้าโดยเพิ่มสัดส่วนแบรนด์อื่นมากขึ้นอาทิ Huawei VIVO และ OPPO ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ดีและยังสอดคล้องกับแผนขยายธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดในรูปแบบแฟรนไชส์ซึ่งคาดจะเห็นรูปแบบที่ชัดเจนขึ้นในปีนี้)
Quantitative Screening
1. Dividend Theme โดย Screen หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากการขึ้นเครื่องหมาย XD รอบนี้โดดเด่น แนะนำ NYT (5.8%, XD 3 พ.ค.จ่ายปันผล 24 พ.ค.), INTUCH (2.1%, XD 21 ก.พ. จ่ายปันผล 24 เม.ย.)และ SCC (2%, XD 3 เม.ย. 62 จ่ายปันผล 19 เม.ย.)
2. Defensive Theme โดย Screen หุ้นใน Sector ที่อยู่ในกลุ่มโรงพยาบาลเพราะมีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้จากข้อมูลของ Bloomberg Consensus เรากรองหุ้นที่มีEarning Growth ปี 62 โตเด่นสุด และยังมี Upside พร้อมกับในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาไม่ถูกปรับประมาณการณ์ทั้งกำไรและราคาเป้าหมายจาก Consensus เลือก BCH , EKH
13-Feb-19 Change (pts.) 12-Feb-19
SET Index 1,655.73 13.24 1,642.49
SET50 Index 1,103.01 9.85 1,093.16
SET100 Index 2,431.90 22.57 2,409.33
High 1,657.12 Gainers 897
Low 1,645.84 Unchanged 438
Value (Bt m) 45,303.59 Losers 471
Volume (*000) 13,092,990
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.8 13.7 No Data
EPS Growth (%) 13.9 9.3 No Data
EV/EBITDA (x) 10.0 9.4 No Data
FWD PBV (x) 1.8 1.7 No Data
Dividend Yield (%) 3.2 3.5 No Data
ROE 11.7 11.7 No Data
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 13-Feb-19 WTD MTD YTD
Institution 3,700.60 2,679.12 12,261.67 22,293.11
Proprietary 768.07 1,148.38 1,759.23 455.19
Foreign (1,374.36) (3,769.56) (2,882.24) 3,839.40
Individual (3,094.31) (57.93) (11,138.67) (26,587.70)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary