- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 February 2019 20:15
- Hits: 2642
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
SET Index 1,655.73
เปลี่ยนแปลง (จุด) 13.24
มูลค่าการซื้อขาย (ล้านบาท) 45,304
ยอดซื้อ-ขายสุทธิ นักลงทุนแต่ละประเภท(ล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติ -1,374.36
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 768.07
นักลงทุนสถาบันในประเทศ 3,700.60
นักลงทุนรายย่อย -3,094.31
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 1665-1667 จุด จากหุ้นน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันยืนเหนือ 60 เหรียญฯ ได้อย่างมั่นคง แม้จะมีปัจจัยการเมืองในประเทศเรื่องการยุบพรรค ไทยรักษาชาติ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. นี้ เชื่อว่าเป็นเพียงปัจจัยกดดันระยะสั้น และไปลุ้นกันว่าใครจะเป็นรัฐบาลน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า กลยุทธ์ยังเน้นรายหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเด่นและใกล้ขึ้น XD (MAJOR, QH, LH, KKP, THANI, BBL) Top picks เลือก THANI([email protected]) และ BBL(FV@B227)
ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย … ดัชนีฟื้นตัวต่อ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่ 2 เป็นผลจากปัจจัยบวกจากประเด็นต่างประเทศ ร่วมกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบโลก หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ ปรับตัวสูงขึ้น PTT+1.03% PTTEP+2.06 PTTGC+2.59% และหุ้นพลังงานทดแทน EA+4.06% ตามด้วยกลุ่มขนส่ง กลุ่ม ICT ทั้งนี้ แม้ดัชนีจะถูกกดดันจากกลุ่มอสังหาฯ อยู่บ้าง แต่ยังคงปิดบวกได้สูงที่ระดับ 1655.73 จุด เพิ่มขึ้น13 จุด (+0.81%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.53 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าน่าจะฟื้นตัวต่อวานนี้ ขึ้นทดสอบแนวต้านเดิม 1665-1667 จุด ด้วย หุ้นน้ำมัน ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลก หลังจากการรายงานสต็อกน้ำมันสัปดาห์ล่าสุดของสหรัฐ เพิ่มน้อยกว่าคาด แม้อาจจะมีประเด็นการเมือง อาจจะยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง โดยเฉพาะ ประเด็นของการยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช) ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของสมาชิกพรรคทั้งหมดหรือเพียงบางคน
ยุบพรรค ทษช. จะเกิดก่อน/หลังเลือกตั้ง กระทบตลาดหุ้นสั้นๆ
ที่ประชุมคณะกรรมการเลือกตั้งพิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีพรรคไทยรักษาชาติมีหนังสือแจ้งรายชื่อบุคคลเพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2562 ที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการที่ถือว่าเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 และล่าสุดวานนี้ เลขาฯ กกต. ได้ดำเนินการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในช่วงบ่ายวันนี้ (14 ก.พ.2562) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ หากไม่รับก็ถือว่าคำร้องเป็นอันตกไป แต่ในอีกทางหนึ่งหากรับคำร้องไว้พิจารณาขั้นตอนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญฯ กำหนดว่า ศาลฯจะส่งสำเนาคำร้องแก่ผู้ถูกร้อง เพื่อให้มายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด หากผู้ร้องไม่ดำเนินการใดๆ ให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจที่จะยื่นคำชี้แจง ซึ่งศาลฯจะดำเนินกระบวนการในการพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ใน พ.ร.ป. ฉบับดังกล่าว ได้มีบทบัญญัติในมาตรา 58 ซึ่งให้อำนาจศาลฯ สามารถวินิจฉัยคำร้องได้โดยไม่ทำการไต่สวนคู่กรณี หากเห็นว่าเป็น ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในข้อกฎหมาย ซึ่งหากเข้าองค์ประกอบการพิจารณาตามเงื่อนไขนี้ ก็อาจทำให้ขั้นตอนการพิจารณาเสร็จสิ้นโดยเร็ว
มาตรา ๕๘ หากศาลเห็นว่าคดีใดเป็นปัญหาข้อกฎหมาย หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลอาจประชุมปรึกษาเพื่อพิจารณาและวินิจฉัยโดยไม่ทำการไต่สวนหรือยุติการไต่สวนก็ได้
เมื่อศาลเห็นว่าพยานหลักฐานใดเกิดขึ้นหรือได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาวินิจฉัย หรือไม่มีความจำเป็นแก่การพิจารณาวินิจฉัย หรือจะทำให้คดีล่าช้าโดยไม่สมควรศาลอาจสั่งงดการสืบหรือไม่รับฟังพยานหลักฐานนั้นก็ได้
ตุลาการจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่อาจมีมติไม่ให้นำเอกสารหรือพยานหลักฐานซึ่งอาจมีผลต่อความมั่นคงของประเทศมาใช้ในคดีได้
แต่อย่างไรก็ตาม หากการเลือกยังเดินไปตามกรอบเวลาเดิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเป็นเพียง Sentiment ที่เข้ากระทบบรรยากาศการลงทุนในระยะสั้น
สหรัฐมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง เงินเฟ้อชะลอตัวต่อเนื่อง
วานนี้สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อ เดือน ม.ค. 2562 ขยายตัว 1.6%yoy ชะลอตัวจาก 1.9% ในเดือน ธ.ค. 2561 ผลจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ตามราคาน้ำมันหดตัว 4.8% ขณะที่ราคาสินค้าอื่นๆ ยังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้แนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัว และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจอื่นๆชะลอตัวเช่นกัน อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตต่ำสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน, ยอดขายบ้านใหม่ และบ้านมือสอง ที่ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน และในรอบ 4 ปี ตามลำดับ เชื่อว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตั้งไว้ 2 ครั้งในปีนี้ คืออาจจะขึ้นได้ 1 ครั้ง หรืออาจจะลดในช่วงปลายปี เชื่อว่าประเด็นนี้ตลาดน่าจะรับรู้ไปบ้างแล้ว ส่งผลให้ Dollar Index มีแนวโน้มแกว่งตัว หลังจากแข็งค่าราว 1.3%นับตั้งแต่ต้นปี ตรงข้ามกับเอเชีย โดยเฉพาะค่าเงินบาท น่าจะชะลอการแข็งค่า
สต็อกน้ำมันเพิ่มน้อยกว่าคาด หนุนราคาน้ำมันยืนเหนือ 60 เหรียญฯ
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ล่าสุด เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ราว 3.63 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดคาดที่ 2.66 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันลดลง เห็นได้จากอัตราการกลั่นชะลอลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค.2559 อยู่ที่ 85.9% จาก 90.7%ในสัปดาห์ก่อนหน้า ผลจากโรงกลั่นเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ตัดลด Supply ยังเป็นไปตามแผน สะท้อนจากกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศผลิตน้ำมัน OPEC เดือน ม.ค. ที่ลดลงราว 7.97 แสนบาร์เรล/วัน ถือว่ากำลังการผลิตที่ลดลง ใกล้เคียงกับข้อตกลงของผู้ผลิตทั้งกลุ่ม OPEC และ Non OPEC ที่ทำไว้ในเดือนเดือน ธ.ค.2561 ที่ตั้งเป้าจะตัดลดการผลิตจนถึง กลางปี 2562 ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน (แบ่งเป็น OPEC ต้องลดลง 8 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่ Non OPEC ลดลง 4 แสนบาร์เรล/วัน)
การลด supply นับว่ายังสอดรับกับความต้องการใช้น้ำมันโลกที่ชะลอลงจากสงครามการค้า โดยรวมทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบแกว่งตัวขึ้นได้ต่อ ล่าสุดอยู่ที่ 63.2 เหรียญฯต่อบาร์เรล ต่ำกว่าสมมติฐานของ ASPS ที่กำหนดไว้ 65 เหรียญ ในปี 2562 แต่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวยืนเหนือ 60 เหรียญฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ (และกำหนด 70 เหรียญฯ นับจากปี 2563 เป็นต้นไป) ยังแนะนำสะสม PTTEP(FV@B168) และ PTT(FV@B56)
งบ 1Q62 AOT ใกล้เคียงคาด...ยังมีความเสี่ยงจากการเลื่อน Terminal 2
จนถึงวานนี้ มีบริษัทจดทะเบียนรายงานงบฯ ออกมาแล้วราว 75 บริษัท (คิดเป็น 37% ของ Market Cap ของ SET) ในจำนวนนี้บริษัทที่มี Market Cap ใหญ่ที่อยู่ใน SET50 ประกาศงบฯ ออกมาเพียง 18 บริษัท โดยล่าสุด คือ AOT รายงานกำไรงวดบัญชี 1Q62 (สิ้นสุด ธ.ค. 61) อยู่ที่ 6.37 พันล้านบาท เติบโต 2.5%yoy ขณะที่กำไรปกติเติบโต 4.5%yoy หนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ (ฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า) ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางที่มีค่าธรรมเนียมสูง
ขณะที่แนวโน้มปี 2562 คาดยังเติบโตได้ต่อตามการท่องเที่ยวที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ทั้งปีว่าจะเติบโต 6%yoy แต่ยังมีปัจจัยความเสี่ยงจาก 2 ประเด็น คือ การบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานอายุเกิน 20 ปี ตามเงื่อนไขใหม่ของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (น่าจะบันทึกงวด ม.ค.-มี.ค. 2562) และอีกประเด็นคือ ปัญหาความล่าช้าในส่วนต่อขยายสุวรรณภูมิเทอร์มินอล 2 ส่งผลให้ AOT เสียโอกาสรายได้เปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์อีกด้วย จึงคาดกำไรปี 2562 เติบโตเพียง 3.7%
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิมไว้ก่อน (รวมผลบวกรายได้เทอร์มินอล 2 ที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2564) เนื่องจากยังมีโอกาสที่ AOT จะประมูลได้ในรายได้ต่อตารางเมตรที่สูงกว่าสมมติฐาน อย่างไรก็ตาม การรับรู้รายได้ที่ล่าช้ากว่าคาดทุก 1 ปี จะกระทบต่อมูลค่าหุ้น 0.5 บาท แต่หากยกเลิกโครงการจะกระทบราว 4.0 บาท โดยรวม การเติบโตยังมีความเสี่ยง อีกทั้ง Valuation แพงกว่าสนามบินทั่วโลก ราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ 67 บาทแล้ว จึงยังคงแนะนำ Switch ไป ERW([email protected])
ต่างชาติซื้อหุ้นในภูมิภาค แต่ยังขายไทยเป็นวันที่ 4
วานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคเป็นวันที่ 3 ด้วยมูลค่า 250 ล้านเหรียญ โดยเป็นการซื้อสุทธิเฉพาะตลาดหุ้นในแถบเอเชียเหนือ คือ ไต้หวันซื้อสุทธิ 287 ล้านเหรียญ (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6) และเกาหลีใต้ 110 ล้านเหรียญ (ซื้อสุทธิเป็นวันแรก) ส่วนตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ขายสุทธิ คือ อินโดนีเซีย ขายสุทธิ 98 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิเป็นวันที่ 4) ฟิลิปปินส์ 5 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิเป็นวันที่แรก หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกันนาน 18 วัน) และไทยขายสุทธิ 44 ล้านเหรียญ หรือ 1.37 พันล้านบาท (ขายสุทธิเป็นวันที่ 4 มีมูลค่ารวม 4.4 พันล้านบาท) ต่างกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิสูงถึง 3.7 พันล้านบาท (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2) ผลักดันตลาดให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.24 จุด หรือ 0.81%
ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันให้ Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกที่ผ่อนคลายลง ทั้งราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว และ Fed มีแนวโน้มกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หนุน Fund flow ไหลกลับตลาดหุ้นในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
ภรณี ทองเย็น
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
โยธิน ภูคงนิล
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
เจิดจรัส แก้วเกื้อ
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร
ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์