ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรง +13.24 จุด (+0.81%) ปิดที่ 1,655 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท ตอบรับปัจจัยบวกสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ที่จะครบกำหนด 15 ก.พ.ได้หลังพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นพ้องการสร้างรั้วกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังกำลังการผลิตโอเปกลดลง อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 1,374 ล้านบาท และ Net Short TFEX 1,658 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,349 ล้านบาท

          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,660 - 1,667 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว เนื่องจากภาวะตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นว่าสหรัฐและจีนจะได้ข้อตกลงการค้าร่วมกันในการประชุม 14 - 15 ก.พ.ที่กรุงปักกิ่ง รวมถึงคาดการณ์ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ต่อไปหลังตัวเลข CPI เดือนม.ค.ทรงตัวเป็นเดือนที่ 3 ที่ระดับ 1.6% นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกเดือนม.ค.ปรับตัวลดลงเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานและดัชนีอีกด้วย อย่างไรก็ตามประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ไม่แน่นอนหลังกกต.มีมติชงเรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาติต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกระแส Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัวลงจะเป็นตัวถ่วงดัชนีให้สลับอ่อนตัวลง

 

          - กลุ่มพลังงาน(PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 54 US/Barrel 

          - กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 

          - STEC, AMATA, WHA, BEM ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน 

          - กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน 

          - กลุ่มที่คาดว่ากำไร 4Q18 และปี 2019 เติบโตต่อเนื่อง SAWAD, MTC, IHL, EA, GFPT และ TU 

 

          หุ้นแนะนำวันนี้:ERW (ปิด 7.65 ซื้อ/เป้า 8.2) รับผลบวกจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเดือน ม.ค.มีโอกาสพุ่งแตะระดับ 1 ล้านคนอีกครั้งเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว เราเลือก AOT และ ERW เป็น top pick ของกลุ่ม,JMT (ปิด 12.1 ซื้อ/เป้า 14.2) คาดกำไรสุทธิ 4Q18 พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 141 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2%qoq และ 42%yoy ตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัว และการตามเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ, SAWAD (ปิด 52.5 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 55) คาดมีกำไรสุทธิ 4Q18 ประมาณ 821 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%qoq และ 52%yoy จากยอดสินเชื่อขยายตัวขณะที่ NIM ยังเพิ่มขึ้น ส่วนปีนี้คาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่องอีก 30%yoy เป็น 3,500 ล้านบาท 

          Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS 

          KSS report วันนี้ : COL  (ปิด 23.7 ถือ/เป้า 25), DCC  (ปิด 2.14 ซื้อ/เป้า 3.1)SAWAD  (ปิด 52.5 ปรับลดเป็นถือ/เป้า 55)

          (+) ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 118 จุด ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตอบรับสถานการณ์ที่ผ่อนคลายของภาวะ US shutdown และ การเจรจาแก้ข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ : ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 118 จุด ปิดที่ระดับ 25,543 จุด ตลาดยังคาดหวังเชิงบวกว่าจีนและสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ ตอบรับข่าวประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเข้าร่วมประชุมกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐในวันศุกร์นี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจีนที่ต้องการยุติข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐ  ขณะที่โดนัล ทรัมป์ ส่งสัญญาณเลื่อนเส้นตายในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากวันที่ 1 มี.ค.19 หากมีแนวโน้มว่าทั้ง 2 ประเทศใกล้บรรลุข้อตกลง

          (+/-) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือน ม.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.6% จาก 1.9% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 2.2% หนุนเฟดชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย : เฟดมีกำหนดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 19-20 มี.ค. เราคาดว่าเฟดจะยังชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังไม่ได้ปรับขึ้นจนน่าวิตก โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือน ม.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.6% จาก 1.9% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวที่ระดับ 2.2%

          (+) น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ขณะที่ Brent ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน ตอบรับ ซาอุฯ ส่งสัญญาณปรับลดการผลิตลงอีกในเดือน มี.ค. : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 53.9 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ Brent เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดในรอบ 3 เดือน ตอบรับซาอุฯส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตลงอีก 500,000 บาร์เรล/วันเป็น 9.8 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน มี.ค.

          (+/-) วันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา รับ/ไม่รับ คำร้องที่ กกต.ยื่นยุบพรรค ทษช. มองเป็นไปตามกติกาการเลือกตั้ง และกฏหมายรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว : ตามกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะรับหรือไม่รับคำร้องก็ได้ หากพิจารณารับคำร้องจะเข้าสู่วิธีพิจารณาคดีและทำคำวินิจฉัยซึ่งอาจจะใช้เวลาสั้น หรือ อาจมากกว่า 60 วันก็ได้ เนื่องจากจะต้องมีการตรวจคำร้อง เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจง ให้ทั้งสองฝ่ายตรวจพยานหลักฐาน การนัดวันไต่สวนของศาล และทำคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตามศาลอาจใช้เวลาสั้นลงก็ได้หากศาลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีการสืบพยาน เรามองว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก เนื่องจากเป็นไปตามกติกาการเลือกตั้งและกฏหมายรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว (ผิดว่าไปตามผิด)