- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 May 2014 15:57
- Hits: 3977
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ยืนเหนือ 1,401 มอง V-Shape
Technical : แนวรับ : 1,401 / 1,390 แนวต้าน 1.410 / 1,427
หุ้นแนะนำพิเศษ : BBL แนวรับ 186/184 แนวต้าน 191/195
หุ้นเด่นรายวัน : PTTGC VGI SIRI
วันศุกร์ตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,405.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด เปลี่ยนแปลง +0.72% มูลค่าการซื้อขายถึง 44,328.82 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 2,079.06 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,363- 1,410 ตลาดมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะแนวทางของวุฒิสภาที่กำลังหาทางออกที่เหมาะสม ส่วนด้านเทคนิคทดสอบแนวรับแล้วกลับตัวขึ้นเหนือ 1,400 แนวโน้มสร้างขาขึ้น ในขณะที่ SET50 ปรับยืนแนวรับ 940 และกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสีขาวเหนือ 950 แนวโน้มเชิงบวก มีโอกาสทดสอบจุดสูงเดิม GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,990-20,220 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,050-20,280
กลยุทธ์ ระยะสั้นปริมาณการซื้อขายจะเป็นสัญญาณชี้นำความมั่นใจของนักลงทุนที่กลับเข้าตลาดมากขึ้น (ยังคงมุมมองของการเล่นรอบเก็งกำไร และซื้อคืน) การปรับตัวคาดจะมีแรงซื้อแนวรับกลับเข้ามา กลุ่มอสังหาฯ CPN PS กลุ่มธนาคาร ถือและซื้อระยะสั้นหากปรับลดลงแรง กลุ่มพลังงาน BANPU PTTGC หรือปรับตัวลงซื้อเพิ่ม PTT PTTEP กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ปริมาณการซื้อขายเพิ่มเป็นแรงผลักดันเข้าซื้อเล่นรอบ SRICHA ITD STEC TRC หุ้นรายหลักทรัพย์ MAJOR SAT ERW CPF ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
BBL (ราคาปิด 188 ซื้อ เป้าหมาย 224) ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ BBL ที่ยังแข็งแกร่งจากการมีฐานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ การที่ธนาคารมีสาขาในต่างประเทศกว่า 25 สาขาซึ่งเอื้อต่อการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ คุณภาพสินเชื่อยังแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) เท่ากับ 210% สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร ในช่วงไตรมาสแรกปี 57 มีกำไรสุทธิ 8,965 ล้านบาททรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ คิดเป็น 21% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 57 ที่คาดการณ์ไว้ราว 4.3 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโตราว 20% จากปี 56 ฐานะเงินกองทุนยังแข็งแกร่งโดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมด 16.8% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 14.4%
หุ้นเด่นรายวัน
PTTGC (ปิด 69.75 ซื้อเป้าปี 57: 84) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q57 โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTGC จะกลับมาฟื้นตัว QoQ โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ปริมาณการผลิตของธุรกิจสายโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น หลังหน่วยผลิตที่หยุดซ่อมใน 1Q57 กลับมาดำเนินงานตามปกติ ประกอบกับโรงแยกก๊าซ 5 ของ PTT ที่หยุดซ่อมจากเหตุฟ้าฝ่าสามารถทำการผลิตได้เต็มที่ส่งผลบวกต่อความสามารถในการทำกำไรของ PTTGC ให้ปรับตัวสูงขึ้นเพราะสามารถรับ Gas จาก PTT ได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าหากเทียบกับใช้ Naphtha เป็นวัตถุดิบ
VGI (ปิด 11.20 ซื้อเก็งกำไร) เก็งกำไรข่าว บริษัท ฟาร์ พาร์ทเนอร์ชิป ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสื่อโฆษณาบนเครื่องบินของแอร์เอเชีย ได้ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ VGI และแต่งตั้งให้ VGI เป็นผู้แทนขายสื่อโฆษณาในเครื่องบินของไทยแอร์เอเชียทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 3 ปี
SIRI (ราคาปิด 1.81 ถือ) 1Q57 มีกำไรสุทธิ 830 ล้านบาทพลิกจากที่ขาดทุน 86 ล้านบาทใน 1Q56 หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีผลการดำเนินงานปกติมีผลขาดทุน 27 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย presale ไตรมาสแรกทำได้เพียง 1.4 พันล้านบาทห่างไกลเป้าทั้งปีที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจเห็นการปรับลดเป้ายอดขายและรายได้ในอนาคต ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับลดประมาณการและเป้าหมายจาก 2.40 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมาย consensus เท่ากับ 2.11 บาท
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MAX/ TCC / TYCN มีผลบังคับใช้ 16 เม.ย. - 23 พ.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย. 57
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. 57 - 27 มิ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 167.16 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 44.50 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐในเดือนเม.ย.ที่ออกมาดีเกินคาด โดยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.2% สู่ระดับ 1.07 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 975,000 ยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างปรับตัวขึ้น 8% เป็น 1.08 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห็คาดไว้ที่ 1.01 ล้าน และเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2551อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงกดดันจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.ลดลงสู่ระดับ 81.8 จากระดับ 84.1 ในเดือนเม.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 84.5 ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 44.50 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 16,491.31 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.01 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 1,877.86 ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 21.30 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 4,090.59
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.87 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ตลาดได้แรงหนุนเช่นเดียวกับตลาดหุ้นวอลสตรีทคือนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลกหลังสถานการณ์ในยูเครนมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุด รัสเซียเตือนว่ายูเครนใกล้เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง ขณะที่สหรัฐและอังกฤษประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะลงโทษรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรเพิ่มมากขึ้น หากรัสเซียยังเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในยูเครนที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค.นี้ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 109.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]