- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 February 2019 22:09
- Hits: 4861
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับขึ้นกรอบจำกัด
KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ / บวกกรอบจำกัด คล้ายเมื่อวานนี้... เนื่องจากปัจจัยในระดับภาพใหญ่สำคัญๆ ยังคงเป็นบวก ได้แก่ i) แนวโน้มการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนยังคงสดใส หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในการแถลงนโยบาย "State of the Union" เมื่อวานนี้ว่าการเจรจามีความคืบหน้าต่อเนื่อง ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐฯ ยืนยันกำหนดการเยือนจีนในช่วงกลางเดือน ก.พ. เพื่อหารือการค้าในระดับที่สูงขึ้น และ ii) แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง หลังวานนี้ กนง. คงดอกเบี้ย (ตามคาด) และให้แนวโน้ม GDP ไทยปีนี้ยังโตใกล้เคียงศักยภาพ (potential GDP growth) ทั้งนี้หากอิงมุมมองเอกสารวิชาการของ ธปท. พบว่าศักยภาพ GDP ของไทยอยู่ที่ 4.2-4.3% (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เช้าวันนี้) ปัจจัยต่างๆ ข้างต้นน่าจะยังหนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ แม้ว่าดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ จะแข็งค่าขึ้น 5 วันติดต่อกัน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเช่นกัน (เงินดอลล่าร์ฯ ที่แข็งค่านั้น หลักๆ เกิดจากเงินยูโรที่อ่อนแรง หลังจากเยอรมันรายงานตัวเลขคำสั่งซื้อภาคโรงงาน ธ.ค. 2561 ลดลงแรงกว่า consensus คาดมาก... ขณะที่ประเด็น Brexit ยังไม่มีพัฒนาการใดๆ ออกมา)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร MBK*, PLANB*
MBK* (เป้าพื้นฐาน 28.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.2 บาท / แนวต้าน 22.0 - 22.3 บาท (Stop loss 19 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นปรับลงแรงก่อนหน้า เป็นผลจากความกังวลต่อรายจ่ายการเปิดตัวโครงการ ไอคอนสยาม ในช่วง 4Q61 ซึ่งคาดจะกระทบต่อผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มฯใน 4Q61 อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะเริ่มคงที่และลดลงใน 1Q62 เป็นต้นไป และจะทำให้กำไรปกติปี 2562 เติบโตราว +30% YoY 3) ประเมินราคา Laggard เนื่องจาก MBK* มีทั้งธุรกิจค้าปลีก, โรงแรม, และสินเชื่อ ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่ปรับขึ้นตอบรับประเด็นบวกทั้งการเลือกตั้ง, นักท่องเที่ยวฟื้น, ดอกเบี้ยทรงตัว แล้ว 4) PE ปี 2562 ต่ำเพียง 12 เท่า ไม่แพงเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่ม ค้าปลีก, โรงแรม, และสินเชื่อ ตัวอื่น
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) 1) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 6.35 บาท หากวันนี้ปิดสูงกว่า 6.35 บาท ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.55 - 6.75 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.15 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไร 4Q61 = 190 ล้านบาท (+7% QoQ, +115% YoY) 3) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาก่อนเลือกตั้งตามคาด (ดัชนีฯ เดือน ม.ค.ปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน) คาดเป็นบวกต่อแนวโน้มการใช้สื่อโฆษณา 4) PE ปี 2562 ต่ำเพียง 26.5 เท่า ใกล้เคียงบริเวณ -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 25 เท่า
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น Quantamental: เดือน ก.พ.62 ประเมินอาจมีความผันผวนจาก Gap ระหว่าง Trailing PE และ Forward PE ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงของการรายงานผลการดำเนินงาน 4Q61 (Trailing PE จะพุ่งขึ้น เพราะกำไรรวมจะลดลงหนัก YoY / Forward PE อาจขึ้นเล็กน้อยจากการปรับลดประมาณการฯ) ประเมินเป็นโอกาสในการเก็งกำไร Swing trading (ขึ้นแรงขายทำกำไร - ลงหนักซื้อกลับ) และ นักลงทุนอาจหาจังหวะขายทำกำไรหุ้นที่ Outperform ในช่วง 1 - 2 เดือนที่ผ่านมา Switching ไปยังหุ้น Laggard หุ้นเด่นเดือน ก.พ. MBK* (Stop loss 19 บาท), GOLD* (Stop loss 6.60 บาท), RML (Stop loss 1.1 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) BEM* กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 18 มีนาคม 2562 ในประเด็นการยุติข้อพิพาทกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยการขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ออกไป (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เรามองว่า BEM เตรียมความพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ในการขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ออกไป 37 ปีเพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมดที่มีกับ กทพ. ซึ่งการขออนุมัติเรื่องดังกล่าวต้องผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านบาท (เกินอำนาจบอร์ดบริษัทที่จะอนุมัติได้) เรายังคาดว่า กทพ. มีทางเลือกที่จำกัดในการแก้ปัญหาคดีพิพาทจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนมหาศาลให้กับ BEM* ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนให้ กทพ. เจรจาเรื่องดังกล่าวโดยการยืดอายุสัมปทานทางด่วนออกไป เรายังคงแนะนำซื้อ BEM โดยให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 11.10 บาท
(+ กลุ่มค้าปลีก, สื่อ) ดัชนีเชื่อมั่นฟื้นดีขึ้นรอบ 5 เดือนจับตาปัจจัยลบ (โพสต์ทูเดย์) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นในรอบ 5 เดือน หลังวันเลือกตั้งชัด จีนกลับมาเที่ยวไทยและเทรดวอร์สัญญาณดี
(+ กลุ่มนิคมฯ) กนอ.ปลื้ม"อีอีซี" ดันยอดขายที่ดิน ไตรมาสแรกปีงบ 62 รวมกว่า 700 ไร่ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "กนอ." ปลื้มยอดขายที่ดินนิคมฯไตรมาสแรก ปีงบ 62 (ตุลาคม-ธันวาคม 2561) ทะลุ 700 ไร่ เม็ดเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท โดยเป็นพื้นที่อีอีซีถึง 664.06 ไร่ มั่นใจปีนี้ยอดขายที่ตามเป้า 3,500 ไร่
(+) ALT แท็กทีม RATCH* ตั้งบริษัท ลุยโครงข่ายเคเบิลใยแก้วฯใต้ดิน (ข่าวหุ้น) ALT จับมือ RATCH* ร่วมทุนโครงการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ดิน เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย เล็งแล้วเสร็จภายใน เม.ย. 2562 สร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต
(+) BEC ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/62 ได้ละคร 'ทองเอกฯ' ดันเรตติ้ง ลุ้นปีนี้พลิกกำไร (ข่าวหุ้น) "BEC" ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/62 หมดปัญหาค่าใช้จ่ายพิเศษกว่า 190 ล้านบาท แถมได้ละคร "ทองเอก หมอยาท่าโฉลง" ดันเรตติ้งพุ่ง หนุนค่าโฆษณาทะลัก โบรกฯฟันธงปี 62 พลิกกำไรสุทธิ 298 ล้านบาท จากปี 61 คาดมีขาดทุนสุทธิ 37 ล้านบาท
(+) สัปดาห์หน้าลุ้นบอร์ด TMB* เสนอแผนควบธนชาต ต่อรองราคาแลกหุ้น (ข่าวหุ้น) แบงก์ทหารไทยประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้า มีลุ้นเสนอแผนควบรวมธนชาต ด้าน "อภิศักดิ์" แทงกั๊กเพิ่มทุนทหารไทย ต้องได้ประโยชน์สูงสุด ราคาต้องดี ยอมรับแผนควบรวมกิจการเป็นนโยบายหลักของคลัง แบงก์ขนาดเล็กต้นทุนสูงอยู่ยาก
(+) EA* รับเต็มๆกระแสหนุน EV ผุดโครงการโซลาร์พ่วงแบต (ทันหุ้น) EA* ยิ้มรับกระแสข่าวรัฐหนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV หวังดึงยานยนต์ญี่ปุ่นบูม EV ดันยอดใช้แท่นชาร์จไฟฟ้า และแบตเตอรี่ เตรียมขายรถ EV ปลายปีนี้ วางเป้า 3-5 พันคันในปี 2563 แย้มเตรียมเดินหน้าโครงการนำร่องโรงไฟฟ้าโซลาร์พ่วงแบต ตลาดในประเทศจ่อ COD โครงการหนุมานเพิ่มอีก 180 เมกะวัตต์ไตรมาส 1 ดันผลงานนิวไฮ
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนด Trailing stop ล๊อกกำไร: CPALL* (Trailing stop 77.5 บาท), DTAC* (Trailing stop 47 บาท), INTUCH* (Trailing stop 53.5 บาท), EGCO* (Trailing stop 263 บาท), CENTEL* (Trailing stop 44 บาท), COM7* (Trailing stop 14.8 บาท), BGRIM* (Trailing stop 29.5 บาท), SCCC (Trailing stop 230 บาท), EPG* (Trailing stop 7.40)
SCB* (เป้าพื้นฐาน 144 บาท) พิจารณาแนวต้าน 135.5 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 139 บาท / แนวรับ 134 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 132 บาท)
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท) ประเมินแนวรับ 3.58 บาท / แนวต้าน 3.80 บาท (Stop loss 3.54 บาท)
RS* (เป้าพื้นฐาน 20.7 บาท) ประเมินแนวรับ 15.8 บาท / แนวต้าน 16.3 - 16.8 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 15.6 บาท)
BEC (เป้าพื้นฐาน 7.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.25 บาท / แนวต้าน 7.05 บาท (Stop loss 5.95 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 22.4 บาท) ประเมินแนวรับ 19.6 บาท / แนวต้าน 20.6 บาท (Stop loss 19.2 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q61 = 1.69 พันล้านบาท (+10.9% YoY, +23.9% QoQ) โดยสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) -1.0%, อัตรากำไรขั้นต้น +28% และสำหรับปี 2562 ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรปี 2562 จะเติบโต +17.5% YoY เป็นผลจาก SSSG ที่คาดจะฟื้นตัวกลับมา +3.5% อย่างไรก็ดี Upside จากราคาเหมาะสมมีไม่มาก จึงแนะนำเพียง "ถือ"
ERW* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 8.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 4Q61 = 169 ล้านบาท (+307% QoQ, +4.6% YoY) โดยประเมินการฟื้นตัวใน 4Q61 มาจาก i) การกลับมาเปิดดำเนินการของโรงแรม JW Mariott สุขุมวิท หลังปรับปรุงใหม่เสร็จ ii) เปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง และ iii) โรงแรมที่ภูเก็ตและสมุย ฟื้นตัวช่วงปลายปีหลังการชะลอตัวลงของนักท่องเที่ยวจีนก่อนหน้า ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจปี 2562 จึงปรับประมาณการกำไรขึ้น +5% และปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 8.5 บาท (จาก 8.0 บาท)
ANAN* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ แผนปี 2562 เตรียมเปิดตัว 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.8 หมื่นล้านบาท (+42% YoY) ซึ่งเป็นแผนงานเชิงรุกมากกว่าที่คาด ขณะที่เป้าหมาย Presales และยอดโอนใกล้เคียงกับที่คาด แม้ฝ่ายวิจัยฯจะประเมินอัตราการเติบโตของกำไรปี 2562 ไม่โดดเด่นแล้ว แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงมามาก ทำให้มี Upside จากราคาเหมาะสม ที่อิงเป้าหมาย PE เพียง 8 เท่า จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"