WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
ย่อสลับรีบาวด์              
          เมื่อวาน หุ้นไทย เริ่มแสดงอาการอ่อนแอให้เห็น หลังจากขึ้นมา แตะบริเวณ แนวต้าน 1,650 จุด โดยหุ้นหนุนดัชนีฯเมื่อวาน คือ กลุ่มพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น PTTEP IVL และเริ่มพบแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ ราคาหุ้น Outperform ตลาดมาตั้งแต่ต้นปี อย่าง CPALL CPF AOT    
          คาดดัชนีฯจะพักตัวลง บน แนวรับ 1,630/1,625 จุด ภายในศุกร์ หรือ จันทร์นี้ แล้วแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นตอนราคาหุ้น "แดง-เหลือง" เพื่อรอการ รีบาวด์ อีกครั้ง หรือ ใครที่เลือกลงทุนหุ้นตามที่แนะนำ ในพอร์ตด้านหลัง แนะ "ล็อกกำไรบางส่วน แล้วรอซื้อกลับ" หรือ "ถือต่อไปได้" โดยไม่ต้องกังวลกับ ข่าวลบต่างประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้      
          สัปดาห์นี้ หุ้นไทยอยู่ในโหมดของการรีบาวด์ ต่อ แนวต้าน 1,650 แนวรับ 1,615 จุด ตามคาด ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดย่อก่อนแล้วค่อยรีบาวด์        
 
What to watch:   
          (+) สัปดาห์หน้า นายกฯสั่งให้ คกก.สิ่งแวดล้อม หาทางแก้ปัญหาฝุนพิษ PM 2.5 ทั้งในระยะสั้น และยาว เปนการเร่งด่วน หลังค่าฝุนพุ่งแรงเกินมาตรฐาน โดยแนวทางที่ นายกกล่าวถึง เบื้องต้น คาดมีผลบวกต่อจิตวิทยาราคาหุ้น เช่น สร้างแรงจูงใจ หรือ อาจออกคำสั่ง ให้ ปชช.ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว (+BTS VGI (แรบบิทไลน์เพย์) BEM), การบังคับให้รถเมล์ รถบรรทุก ใช้น้ำมันดีเซล B20 (BCP GGC OCEAN)      
 
หุ้นแนะนำ 
          SCCC พิจารณาตามงบ SCC ธุรกิจซีเมนต์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามตอนใต้ที่ SCCC เข้าไปลงทุนและเพิ่มกำลังการผลิต ด้วยเป็นพื้นที่ที่ซีเมนต์มีความต้องการสูง คาดจะหนุนกำไรและ ปันผลของ SCCC ให้มีโอกาสสูงกว่าตลาดคาด (โดยครึ่งแรกปันผลไปแล้ว 4 บ.คาดเหลือจ่ายได้อีก 6 บ.) 
          Weekly port  แนะเพิ่ม GGC ถอด AOT    
 
รายงานวันนี้   
 
TQM: Good reason for optimism! 
          คาด TQM จะมีกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งในปี 2019 ถึง 24% หนุนโดยค่าเบี้ยประกันที่คาดโตราว 10% (ต่อเนื่องจาก 2018 ที่โต 9.3%) จากทั้งฐานลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่จากการขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งบริษัทพึ่งเริ่มธุรกิจนี้ และมีค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าประกันรถยนต์มาก ปัจจุบันหุ้นเทรดบน dividend yield 4.7% และ 5.3% ในปี 2019-20 ตามลำดับ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท 
 
AOT: Frist hand benefit of Thai tourism play 
          AOT นับเป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่เราจะเล่นกับการฟนตัวในปี 2019 ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวรายงานออกมาฟนตัวแล้วเดือน ธค-18 โตไป 7.7%YoY และนักท่องเที่ยวจีนโต 2.8% ปัจจุบันหุ้นเทรดที่ PE 35.3 เท่า ค่าดจะ re-rating ขึ้นไปที่จุดสูงสุดในอดีตที่ 39 เท่าได้ เพราะมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นจากกำไร 1Q19 (Oct-Dec 2018) ไปจนถึง 2Q19 (Jan-Mar 2019,) ที่จะแข็งแกร่งต่อเนื่อง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 80 บาท  
 
KTB: Recovery play 
          เรามีมุมมองเชิงบวกสำหรับธนาคารเรื่องคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น และรองรับผล IFRS9 และแนวโน้มการสำรองค่าเผื่อหนี้สูญปี 2019 ไม่มากจากปีก่อน เรามองว่าเปาธนาคารดีกว่าประมาณการเราในแง่สินเชื่อโต 5-6% ส่วนต่างดอกเบี้ย เงินกู้ฝากที่สูงจากปีก่อน (เราคาดประมาณ 4.5% และมีส่วนต่างดอกเบี้ยใกล้เคียงปีก่อน) นอกจากนี้สำรองค่าเผื่อหนี้สูญต่ำกว่าปีก่อนที่ 1.32% เป็น 1.2% ของสินเชื่อรวมปีนี้เราคาดที่ 1.3% เราคาดว่าหากธนาคารทำได้ตามเปาเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการเราในปี 2019 และปัจจุบันราคาหุ้นยังต่ำกว่า BV ปี 2019 ที่ 24.60 บาท เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" 
 
Electronics: One gem stands clear from the haze
          สำหรับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์โดยปกติแล้วยอดขายจะดีที่สุดในไตรมาส 3 และชะลอตัวลงในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตามสำหรับปี 2018 จะมีทั้งบรัทที่คาดยอดขายจะดีที่สุดในปีไตรมาส 4 และบริษัทที่คาดยอดขายในไตรมาส 4 จะโดนกดดันมากไปกว่าปกติจะประเด็นอื่นเพิ่มเติม โดยเรามองว่าประเด็น WLTP ในยุโรปทำให้ยอดขายรถยนตร์ในยุโรปปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะเป็นประเด็นกดดันต่ออุปสงค์สินค้าของ KCE อย่างไรก็ตามคาด SVI และ CCET รายงานยอดขายเติบโตได้ YoY และ QoQ ใน 4Q18 จากอุปสงค์สินค้าที่แข็งแกร่ง (เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ซึ่งอุปสงค์ไม่ได้ชะลอตัวเหมือนในกลุ่ม Consumer) ในด้านของอัตรากำไรคาดบริษัทในกลุ่มจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับเดียวกับใน 3Q18 ได้เนื่องจากค่าเงินไม่ได้มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงมากนักรวมถึงราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัว อย่างไรก็ตาม KCE จะได้รับอานิสงส์จากต้นทุนทองแดงที่ปรับตัวลดลง สำหรับกลุ่มนี้เรายังชอบ SVI ที่สุดในกลุ่ม
 
หุ้นกลุ่ม CENTRAL : Big bang deal on CENTRAL Group and Grab   
          ความร่วมมือกันทางธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่คือกลุ่ม CENTRAL และ Grab ซึ่งมี Digital Platform ที่โดดเด่นด้านเครือข่ายทางการขนส่งและล่าสุดคือการส่งอาหาร โดยเงินลงทุนร่วมกันอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาท สิ่งที่คาดจะเกิดขึ้นใน ก.พ. นี้เลยคือร้านอาหารในครือ CRG จะขึ้นไปอยู่บน Grab Platform ตามมาด้วยร้านอาหารคู่ค้าเครือ CENTRAL เน้นส่งอาหารคุณภาพดีภายใน 30 นาที นอกจากนี้มีแนวโน้มต่อยอดไปยัง grocery ที่ CENTRAL มีอย่าง Top หรือแม้กระทั้งส่งสินค้าจากห้าง CENTRAL ผ่าน Grab เรามองดีลนี้เป็นข่าวบวกต่อราคาหุ้นในเครือ CENTRAL ได้แก่ CENTEL, CPN และ ROBINS อย่างแน่นอน แนะนำให้ลงทุนแบบยาวๆไป 
                   
Thailand's Economic Indicators (December and 2018): Rebounding tourism and firming domestic activity 
          ตัวเลขเศรษฐกิจชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดย การบริโภคภาคเอกชนโต (PCI) 3.5% (ในเดือน ธค. ซึ่งชะลดลงเล็กน้อยจากเดือน พย. เพราะตัวเลขการขายรถใหม่เริ่มชะลอลง) สำหรับปี 2018  PCI เพิ่มเป็น 4.5% (จาก 2.2% ในปี 2017) เราคาดตัวเลข GDP ใน 4Q18 น่าจะออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4.3% เพิ่มขึ้นจาก 3.3%  ใน 3Q18 และเราปรับ GDP ทั้งปี 2018 ขึ้นเป็น 4.3% (เดิม 4.1%) 
 
หุ้นมีข่าว 
          (+) CPN CENTEL ROBINS  ความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็น "Super App" อย่าง Grab ซึ่งมี Digital Platform ที่โดดเด่นด้านเครือข่ายทางการขนส่งและล่าสุดคือการส่งอาหาร โดยเรามองว่าจะผลบวกต่อการทำธุรกิจซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของกลุ่มบริษัทในเครือ CENTRAL แน่นอน ได้แก่ CENTEL, CPN และ ROBINS  
          เงินลงทุนร่วมกันอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาท แม้ว่าผู้บริหารมิได้เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นอย่างเป็นทางการ แต่ผู้บริหารทั้งสองต่างยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าการจับมือทำธุรกิจร่วมกันในครั้งเป็นแบบระยะยาว ดังนั้นเงินลงทุนก้อนแรกนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น มีความเป็นไปได้ที่จะมีภาคต่อในอนาคต 
          Grab ประเทศไทย คือหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญเพื่อต่อยอดให้เครือ CENTRAL ก้าวไปสู่ยุค "New Central, New Economy" ดังที่คุณทศ เคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้ โดย CENTRAL หวังเป็นผู้นำดิจิ-ไลฟสไตล์แพลตฟอร์ม อย่างเต็มรูปแบบภายใต้การร่วมกับ GRAB หลังจากก่อนหน้านี้ได้รวมมือกับ JD.com บริษัทค้าปลีก online ขนาดใหญ่ในประเทศจีน เพื่อสร้าง online market place ล่าสุดไปแล้วคือ JD CENTRAL ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่คาดจะเกิดขึ้นใน ก.พ. นี้เลยคือร้านอาหารในครือ CRG จะขึ้นไปอยู่บน Grab Platform ในฐานะพันธมิตรคนสำคัญ ตามมาด้วยร้านอาหารคู่ค้าเครือ CENTRAL เน้นส่งอาหารคุณภาพดีภายใน 30 นาที นอกจากนี้มีแนวโน้มต่อยอดไปยัง grocery ที่ CENTRAL มีอย่าง TOP หรือแม้กระทั้งส่งสินค้าจากห้าง CENTRAL ผ่าน Grab (ที่มา BLS Research) 
          (+) กรมทางหลวงลั่น ปลายปีนี้เปิดประมูลที่พักริมทางมอเตอร์เวย์ ชลบุรี-พัทยา ระบุ กลุ่มคิง เพาเวอร์ซีพี-สยามพิวรรธน์-เซ็นทรัล-เดอะมอลล์ สนใจเข้าร่วม ส่วนกลางก.พ. เล็งเปิดประมูลจัดเก็บค่าผ่านทาง มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง 6 หมื่นล้าน (ที่มา ข่าวสด) 
          (*) ธปท.เปิดเสรีโอนเงินตปท. หวังลดค่าธรรมเนียมคนใช้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.62 เป็นต้นไป จะเปิดเสรีให้การประกอบธุรกิจโอนเงินระหว่างประเทศมากขึ้น โดยได้ผ่อนคลายคุณสมบัติของผู้ประกอบการจากเดิมคนไทยต้องมีสัดส่วนถือหุ้น 3 ใน 4 เหลือ 1 ใน 4 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ ๆ สามารถเข้ามาให้บริการได้มากขึ้น (ที่มา เดลินิวส์) 
          (+) กลุ่มแบงก์: ยันรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนกู้ใน ปท.80% สบน. แจงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศ 80% ของวงเงินรวม และกู้ต่างประเทศ 20% (ที่มา ผู้จัดการ) 
          (+) คาดผังเมือง 'อีอีซี' บังคับใช้ ก.ค.62 เตือนอย่าเก็งกำไรที่ดินเสี่ยงขายยาก ด้านศูนย์ข้อมูลคาดความต้องการที่อยู่ในอาศัยในย่านนี้น่าจะเติบโตได้ 5-10% (ที่มา มติชน) 
          (+) BEM  ทล.ยันให้เอกชนลงทุน O&M มอเตอร์เวย์ ช่วยลด ภาระรัฐ คาดประกาศ TOR เปิดประมูล สายบางปะอิน-นครราชสีมา, บางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงินรวมกว่า 6 หมื่นล. ในก.พ.นี้ พร้อมเร่งแจง สศช.เพิ่มงบเวนคืนบางใหญ่ เร่งก่อสร้าง คาดทยอยเปิดบริการได้เร็วสุด ปลายปี 64 (ที่มา ผู้จัดการ) 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!