WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยมีแรงขับเคลื่อนจากทั้งปัจจัยภายนอก และภายในประเทศหลังน้ำมันปรับตัวดีขึ้น,ท่าทีการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่ชะลอลง บวกกับในประเทศมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มโตสดใส และการเลือกตั้งที่ชัดเจน คาดช่วยดึงดูดให้เม็ดเงินต่างชาติคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น โดย Year to Date นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นราว 8,026.7 ล้านบาท โดยมีกรอบแนวรับรายวันมาที่ 1,625 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด
Market Factors
•    (+) ผลการประชุม FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25-2.50% และถ้อยแถลงของประธาน FED นายเจอโรมพาวเวลล์ออกมาในเชิง Dovish มากขึ้นหลังมีความระมัดระวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและพร้อมที่จะเปลี่ยนนโยบายในการปรับลดงบดุล
•    (Watch) จับตาการต่ออายุเซฟการ์ดที่จะหมดอายุวันที่ 26 ก.พ. นี้ หลังนายกสามาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย เรียกร้องให้มีการต่ออายุมาตรการเซฟการ์ดออกไป เพื่อคุ้มครองตลาดอุตสาหกรรมเหล็กไทย ให้สอดคล้องกับมาตรการที่กลุ่มประเทศผู้นำเข้าเหล็กทั้งสหรัฐฯ แคนาดา สหภาพยุโรป ต่างออกนโยบายเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของตน ฉะนั้นหากไทยไม่ดำเนินนโยบายคู่ขนาน หรือเป็นทิศทางเดียวกัน อาจได้รับผลกระทบจากการถูกแย่งตลาด จากประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากจีน
•    (- ) อสังหาริมทรัพย์ปี 62 ชะลอตัว ข้อมูลจากงานสัมมนา “อสังหาริมทรัพย์ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2019” จัดโดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย สะท้อนถึง ภาพรวมของอุตสาหกรรมแม้ยังโต แต่มีความเสี่ยงด้าน Supply จากโครงการเหลือขายมูลค่ากว่า 5.2 แสนล้านบาท (จากกลุ่มอสังหา 16 บริษัทจดทะเบียนในตลาด)บวกกับต้นทุนมีแนวโน้มสูงขึ้นจาก ทั้งต้นทุนการเงินหลังปรับขึ้นอัตาราดบ. และต้นทุนจากมูลค่าที่ดินของโครงการแนวรถไฟฟ้าที่สูงขึ้นเช่นกัน
•    (+) ท่องเที่ยวแนวโน้มโตสดใส หลังจากท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เชื่อมั่นตัวเลขการเดินทางที่ขยายตัว เช่นเดียวกับตัวเลขผู้โดยสารที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดปี 62 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 41.1 ล้านคนโต 7.5%YoY    
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เรายังมุมมองบวกต่อ SET Indexหลังการเลือกตั้งมีความคืบหน้าชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ คาดช่วยกระตุ้นให้มีซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นตาม เพราะดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP Market โดย Philippines เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 17.1x, Indonesia เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 14.9x และ ไทยเทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 13.8x ดังนั้นเรายังคงแนะนำ 3 กลุ่มหุ้นเด่น + 1 กลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ดังนี้
1.    กลุ่มท่องเที่ยว: ปี 62 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 41.1ล้านคน โต 7.5%YoYสร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาทโต 10%YoY โดยแนวโน้มรายสัญชาติคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีน 11.69 ล้านคน โต 11%YoY จากประเทศในอาเซียน 11.31 ล้านคน โต 10%YoY และจากยุโรป 6.90 ล้านคน  โต 2%YoY (สำนักข่าวอินโฟเควสท์) แนะนำ CENTEL (แนวโน้มธุรกิจปี 62 บริษัทตั้งเป้าธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักสำหรับโรงแรมเดิมจะอยู่ในช่วง 83-85% ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักตั้งเป้าเติบโตประมาณ 4-6%YoY โดยรวมคาดรายได้รวมธุรกิจโรงแรมในปีหน้ายังคงเติบโต แม้ปีหน้าจะมีการปิดปรับปรุงโรมแรมเซ็นทาราแบรนด์บีชรีสอร์ท (สมุย) ส่วนธุรกิจอาหารตั้งเป้าจะมีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม 3-4%YoY โดยมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง), ERW (คาดปี 62 ผลดำเนินงานมีทิศทางปรับดีขึ้น หลังผ่านพ้นช่วง Renovate ของโรงแรม JW Marriot ทำให้จำนวนห้องพักและราคาห้องเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนเปิดโรงแรมใหม่อีก 9 แห่ง โดยเน้นขยายในส่วนของ HOP INN ซึ่งตอบโจทย์ตลาดต่างจังหวัดได้ดี ตามเป้าหมายเพิ่มจำนวนโรงแรมเป็น 70 แห่งและจำนวนห้องที่ 9,559 ห้อง)และ AOT ปี 61/62 คาดกำไรโต 15.3%YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1Q61/62 (ต.ค.-ธ.ค. 61) คาดกำไรจะยังโต YoYจากสถิติการบินที่สดใส โดย International Passenger เพิ่มขึ้น 3.32%YoY, Domestic Passenger เพิ่มขึ้น 2.0%YoY และจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 5.88%YoY
2.    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสรุปเบื้องต้นของ ธปท.ระบุถึงการควบคุมผู้ให้บริการในระดับประเทศได้แก่1) ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ลบ.       2) ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้และ3) อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน28% ซึ่งเรามองว่าไม่ได้ต่างไปจากที่ตลาดคาดก่อนหน้า คาดจะประกาศและมีผลบังคับใช้ สิ้นเดือน ม.ค. 62 แนะนำSAWAD (คาดปี62กำไรโต32.1%YoYจากแผนขยายสินเชื่อใหม่20-30%YoYสอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก300-400สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี62โต31.9%YoYทำNew High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมีNPL ต่ำสุดในกลุ่ม) และAMANAH (ปี 62 คาดกำไรยังโตต่อเนื่องหนุนด้วยการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อ ATM (Yield สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถแบบเดิม) มากขึ้นพร้อมทั้งเน้นขยายสินเชื่อใหม่ผ่านตัวแทนลดความจำเป็นของการเปิดสาขาใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและคุมหนี้NPL ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น)
3.    กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค: อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1แสนตร.ม.), EASTW ปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสอดคล้องไปกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเขต EEC ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำดิบในบริเวณดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพ (มาร์จิ้นสูง) มากขึ้นโดยเซ็นสัญญาให้บริการแก่GULF (รับรู้รายได้ปี 63) และ AMATA (รับรู้รายได้ปี 64) 
4.    หุ้นขนาดเล็กที่คาดกำไรปี 62 โตเด่นบวกกับ Cheap Valuation ได้แก่JMT (แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง และบริษัทประกาศซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันชุดใหม่มาบริหารมูลค่า 1 พันลบ. มีแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้มีหลักประกัน หนุนยอดหนี้แตะ 1.4 แสน ลบ.และมีความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ดี), HARN (อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หนุนธุรกิจสินค้านำเข้ามีมาร์จิ้นดีขึ้น บวกกับ เป้าการเติบโตปี 61 ที่ 10.7%YoY และ ปี 62 ที่ 8.2%YoY Backlog ณ สิ้น 3Q61 ที่ 414 ลบ.)
Quantitative Screening
•    เน้นกลุ่มที่ถูกเทขายแรงในช่วงที่ผ่านมา จนปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/E Ratio ต่ำกว่า -2 SD ขณะที่อัตราเติบโตของกำไรในปี 62 ยังมี Momentum เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (Consensus คาดอัตราโตกำไรปี 62 จะสูงกว่าปี 61) แนะนำ THANIและ RJH 
 
    30-Jan-19    Change (pts.)    29-Jan-19
SET Index    1,632.60    8.55    1,624.05
SET50 Index    1,091.05    4.75    1,086.30
SET100 Index    2,386.18    0.00    2,386.18
 
High    1,632.83    Gainers    761
Low    1,622.59    Unchanged    508
Value (Bt m)    48,709.67    Losers    519
Volume (*000)    11,903,501          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.5    13.4    No Data
EPS Growth (%)    13.9    9.3    No Data
EV/EBITDA (x)    9.9    9.4    No Data
FWD PBV (x)    1.8    1.7    No Data
Dividend Yield (%)    3.3    3.5    No Data
ROE    11.7    11.7    No Data
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    30-Jan-19    WTD    MTD    YTD
Institution    35.12    7,201.36    3,191.77    3,191.77
Proprietary    124.40    (38.31)    (928.47)    (928.47)
Foreign     21.95    4,614.78    8,026.76    8,026.76
Individual    (181.46)    (11,777.82)    (10,290.06)    (10,290.06)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!